ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Monday, June 24, 2024

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 3

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 3

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 3

If the Submit button doesn't work properly, click on "Show Answer Key" to get feedback.

Answer Key

  • 1. The committee's decision was _______ by all the members.
  • 2. The scientist explained the phenomenon in a manner that was _______ to everyone present.
  • 3. The ancient ruins, which _______ over a thousand years, attracted historians from around the world.
  • 4. The CEO insisted that the project _______ by the end of the quarter.
  • 5. Having _______ the test, she was eager to see her results.
  • 6. The participants, excluding those who arrived late, _______ the initial instructions.
  • 7. By the time the sun set, the hikers _______ their campsite near the lake.
  • 8. The policy dictates that each employee _______ the safety regulations.
  • 9. If the hypothesis _______ proven, it would challenge current theories.
  • 10. The writer, whose books _______ widely read, won numerous awards.

Sunday, June 23, 2024

TOEFL Written Expression Practice Quiz Set 2

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 2

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 2

If the Submit button doesn't work properly, just click Show Answer Key for feedback.

Answer Key

  • 1. Despite numerous attempts to contact her, she remained elusive.
  • 2. The research team discovered a significant correlation between the two variables, confirming the previous assumptions.
  • 3. The ancient manuscript, which contained the secrets of the lost civilization, was finally deciphered.
  • 4. It is essential that the proposal be submitted before the deadline to secure funding.
  • 5. Having fulfilled the requirements, the applicant was granted a visa.
  • 6. The board members, except the chairman, voted against the new policy.
  • 7. By the time the firemen arrived, the building was completely engulfed in flames.
  • 8. The professor emphasized that each student complete their assignment individually.
  • 9. If the experiment had been successful, it would have revolutionized the field.
  • 10. The artist, whose works are exhibited internationally, continues to inspire young talents.
"""

TOEFL Written Expression Practice Quiz Set 1

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 1

TOEFL Written Expression Practice Quiz - Set 1

If the Submit button doesn't work properly, just click Show Answer Key for feedback.

Answer Key

  • 1. The committee has suggested a new proposal for the project.
  • 2. Each of the students has chosen a different topic for their presentation.
  • 3. The book, along with its accompanying CDs, is on the table.
  • 4. Neither the teacher nor the students were prepared for the exam.
  • 5. The manager asked that the report be completed by the end of the day.
  • 6. If I knew the answer, I would tell you.
  • 7. The scientist made a groundbreaking discovery in the field of genetics.
  • 8. She moved to the new city last month.
  • 9. The lecture will begin as soon as the professor arrives.
  • 10. By the time he comes back, the meeting will have ended.

Saturday, June 22, 2024

ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ ๑

ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ ๑ ราษฎรทั้งหลาย เมื่อกษัตริย์องค์นี้ได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อจากพระเชษฐานั้น ในชั้นต้นราษฎรบางคนได้หวังกันว่ากษัตริย์องค์ใหม่นี้จะปกครองราษฎรให้ร่มเย็น แต่การณ์ก็หาได้เป็นไปตามที่คิดหวังกันไม่ กษัตริย์คงทรงอำนาจอยู่เหนือกฎหมายเดิม ทรงแต่งตั้งญาติวงศ์และคนสอพลอไร้คุณความรู้ให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ ไม่ทรงฟังเสียงราษฎร ปล่อยให้ข้าราชการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต มีการรับสินบนในการก่อสร้างและการซื้อของใช้ในราชการ หากำไรในการเปลี่ยนเงิน ผลาญเงินของประเทศ ยกพวกเจ้าขึ้นให้สิทธิพิเศษมากกว่าราษฎร กดขี่ข่มเหงราษฎร ปกครองโดยขาดหลักวิชา ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามยถากรรม ดังที่จะเห็นได้จากความตกต่ำในทางเศรษฐกิจและความฝืดเคืองในการทำมาหากินซึ่งพวกราษฎรได้รู้กันอยู่โดยทั่วไปแล้ว รัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมายมิสามารถแก้ไขให้ฟื้นขึ้นได้

การที่แก้ไขไม่ได้ก็เพราะรัฐบาลของกษัตริย์มิได้ปกครองประเทศเพื่อราษฎรตามที่รัฐบาลอื่นๆ ได้กระทำกัน รัฐบาลของกษัตริย์ได้ถือเอาราษฎรเป็นทาส (ซึ่งเรียกว่าไพร่บ้าง ข้าบ้าง) เป็นสัตว์เดียรัจฉาน ไม่นึกว่าเป็นมนุษย์ เหตุฉะนั้น แทนที่จะช่วยราษฎร กลับพากันทำนาบนหลังราษฎร จะเห็นได้ว่า ภาษีอากรที่บีบคั้นเอาจากราษฎรนั้น กษัตริย์ได้หักเอาไว้ใช้ปีหนึ่งเป็นจำนวนหลายล้าน ส่วนราษฎรสิ กว่าจะหาได้แม้แต่เล็กน้อย เลือดตาแทบกระเด็น ถึงคราวเสียเงินราชการหรือภาษีใดๆ ถ้าไม่มีเงินรัฐบาลก็ยึดทรัพย์หรือใช้งานโยธา แต่พวกเจ้ากลับนอนกินกันเป็นสุข ไม่มีประเทศใดในโลกจะให้เงินเจ้ามากเช่นนี้ นอกจากพระเจ้าซาร์และพระเจ้าไกเซอร์เยอรมัน ซึ่งชนชาตินั้นก็ได้โค่นราชบัลลังก์ลงเสียแล้ว

รัฐบาลของกษัตริย์ได้ปกครองอย่างหลอกลวงไม่ซื่อตรงต่อราษฎร มีเป็นต้นว่าหลอกว่าจะบำรุงการทำมาหากินอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ครั้นคอยๆ ก็เหลวไป หาได้ทำจริงจังไม่ มิหนำซ้ำกล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กิน ว่าราษฎรยังมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรโง่ คำพูดของรัฐบาลเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าราษฎรโง่ เจ้าก็โง่เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน ที่ราษฎรรู้ไม่ถึงเจ้านั้นเป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่ เพราะเกรงว่าเมื่อราษฎรได้มีการศึกษา ก็จะรู้ความชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำไว้ และคงจะไม่ยอมให้เจ้าทำนาบนหลังคนอีกต่อไป

ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ประเทศเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศเป็นอิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิบและกวาดทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎรเพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง บ้านเมืองกำลังอัตคัดฝืดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิ้งนา เพราะทำนาไม่ได้ผล รัฐบาลไม่บำรุง รัฐบาลไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนที่เรียนสำเร็จแล้วและทหารที่ปลดกองหนุนแล้วก็ไม่มีงานทำ จะต้องอดอยากไปตามยถากรรม เหล่านี้เป็นผลของกษัตริย์เหนือกฎหมาย บีบคั้นข้าราชการชั้นผู้น้อย นายสิบ และเสมียน เมื่อให้ออกจากงานแล้วก็ไม่ให้เบี้ยบำนาญ ความจริงควรเอาเงินที่พวกเจ้ากวาดรวบรวมไว้มาจัดบำรุงบ้านเมืองให้คนมีงานทำ จึงจะสมควรที่สนองคุณราษฎรซึ่งได้เสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้ร่ำรวยมานาน แต่พวกเจ้าก็หาได้ทำอย่างใดไม่ คงสูบเลือดกันเรื่อยไป เงินเหลือเท่าไหร่ก็เอาไปฝากต่างประเทศ คอยเตรียมหนีเมื่อบ้านเมืองทรุดโทรม ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก การเหล่านี้ย่อมชั่วร้าย

เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึงรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลายๆ ความคิดดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึงได้อัญเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร คณะราษฎรได้แจ้งความประสงค์นี้ให้กษัตริย์ทราบแล้ว เวลานี้ยังอยู่ในความรับตอบ ถ้ากษัตริย์ตอบปฏิเสธหรือไม่ตอบภายในกำหนดโดยเห็นแก่ส่วนตนว่าจะถูกลดอำนาจลงมาก็จะได้ชื่อว่าทรยศต่อชาติ และก็เป็นการจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีการปกครองแบบอย่างประชาธิปไตย กล่าวคือ ประมุขของประเทศจะเป็นบุคคลสามัญซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกตั้งขึ้น อยู่ในตำแหน่งตามกำหนดเวลา ตามวิธีนี้ราษฎรพึงหวังเถิดว่าราษฎรจะได้รับความบำรุงอย่างดีที่สุด ทุกๆ คนจะมีงานทำ เพราะประเทศของเราเป็นประเทศที่อุดมอยู่แล้วตามสภาพ เมื่อเราได้ยึดเงินที่พวกเจ้ารวบรวมไว้จากการทำนาบนหลังคนตั้งหลายร้อยล้านมาบำรุงประเทศขึ้นแล้ว ประเทศจะต้องเฟื่องฟูขึ้นเป็นแม่นมั่น การปกครองซึ่งคณะราษฎรจะพึงกระทำก็คือ จำต้องวางโครงการอาศัยหลักวิชา ไม่ทำไปเหมือนคนตาบอด เช่นรัฐบาลที่มีกษัตริย์เหนือกฎหมายทำมาแล้ว เป็นหลักใหญ่ๆ ที่คณะราษฎรวางไว้ มีอยู่ว่า

๑.จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่นเอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง

๒.จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก

๓.ต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะจัดหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

๔.จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน (ไม่ใช่พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้)

๕.จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก ๔ ประการดังกล่าวข้างต้น

๖.จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร

ราษฎรทั้งหลายจงพร้อมใจกันช่วยคณะราษฎรให้ทำกิจอันจะคงอยู่ชั่วดินฟ้านี้ให้สำเร็จ คณะราษฎรขอให้ทุกคนที่มิได้ร่วมมือเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลกษัตริย์เหนือกฎหมายพึงตั้งตนอยู่ในความสงบและตั้งหน้าทำมาหากิน อย่าทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางต่อคณะราษฎร การที่ราษฎรช่วยคณะราษฎรนี้ เท่ากับราษฎรช่วยประเทศและช่วยตัวราษฎร บุตร หลาน เหลน ของตนเอง ประเทศจะมีความเป็นเอกราชอย่างพร้อมบริบูรณ์ ราษฎรจะได้รับความปลอดภัย ทุกคนจะต้องมีงานทำไม่ต้องอดตาย ทุกคนจะมีสิทธิเสมอกัน และมีเสรีภาพพ้นจากการเป็นไพร่ เป็นข้า เป็นทาสพวกเจ้า หมดสมัยที่เจ้าจะทำนาบนหลังราษฎร สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนาคือ ความสุขความเจริญอย่างประเสริฐซึ่งเรียกเป็นศัพท์ว่า “ศรีอาริยะ” นั้น ก็จะพึงบังเกิดขึ้นแก่ราษฎรถ้วนหน้า คณะราษฎร ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕

Saturday, June 15, 2024

Grammar: Tenses, Tutorial & Quiz

Tenses and Interactive Quiz

Tenses and Interactive Quiz

การอธิบายแกรมม่าร์เรื่อง Tenses

1. Present Simple (ปัจจุบันกาลธรรมดา)

ใช้บอกถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือความจริงทั่วไป

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + V1 (s/es)
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + do/does + not + V1
  • ประโยคคำถาม: Do/Does + Subject + V1?

ตัวอย่าง:

  • He eats breakfast every day. (เขากินอาหารเช้าทุกวัน)
  • She does not go to school on Sundays. (เธอไม่ไปโรงเรียนในวันอาทิตย์)
  • Do you like ice cream? (คุณชอบไอศกรีมไหม?)

2. Present Continuous (ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + is/am/are + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + is/am/are + not + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Is/Am/Are + Subject + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • She is reading a book. (เธอกำลังอ่านหนังสือ)
  • They are not playing football. (พวกเขาไม่ได้เล่นฟุตบอล)
  • Are you watching TV? (คุณกำลังดูทีวีไหม?)

3. Present Perfect (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)

ใช้บอกถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีผลต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + has/have + V3
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + has/have + not + V3
  • ประโยคคำถาม: Has/Have + Subject + V3?

ตัวอย่าง:

  • I have finished my homework. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว)
  • She has not seen that movie. (เธอยังไม่เคยดูหนังเรื่องนั้น)
  • Have you eaten dinner? (คุณกินข้าวเย็นหรือยัง?)

4. Present Perfect Continuous (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่เริ่มในอดีตและยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + has/have + been + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + has/have + not + been + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Has/Have + Subject + been + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • They have been studying for three hours. (พวกเขาเรียนมาเป็นเวลาสามชั่วโมงแล้ว)
  • He has not been feeling well. (เขาไม่ค่อยสบาย)
  • Have you been working here long? (คุณทำงานที่นี่มานานหรือยัง?)

5. Past Simple (อดีตกาลธรรมดา)

ใช้บอกถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดในอดีต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + V2
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + did + not + V1
  • ประโยคคำถาม: Did + Subject + V1?

ตัวอย่าง:

  • They visited Paris last year. (พวกเขาไปเที่ยวปารีสเมื่อปีที่แล้ว)
  • She did not like the movie. (เธอไม่ชอบหนังเรื่องนั้น)
  • Did you see that? (คุณเห็นไหม?)

6. Past Continuous (อดีตกาลต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + was/were + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + was/were + not + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Was/Were + Subject + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • I was watching TV when she called. (ฉันกำลังดูทีวีตอนที่เธอโทรมา)
  • They were not playing soccer. (พวกเขาไม่ได้เล่นฟุตบอล)
  • Was it raining when you left? (ฝนตกตอนที่คุณออกไปไหม?)

7. Past Perfect (อดีตกาลสมบูรณ์)

ใช้บอกถึงการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + had + V3
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + had + not + V3
  • ประโยคคำถาม: Had + Subject + V3?

ตัวอย่าง:

  • She had finished her homework before she went out. (เธอทำการบ้านเสร็จก่อนที่เธอจะออกไปข้างนอก)
  • He had not seen his friend for years. (เขาไม่ได้เจอเพื่อนมาหลายปีแล้ว)
  • Had they arrived before it started to rain? (พวกเขามาถึงก่อนฝนตกหรือเปล่า?)

8. Past Perfect Continuous (อดีตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่จนกระทั่งเหตุการณ์อื่นเกิดขึ้นในอดีต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + had + been + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + had + not + been + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Had + Subject + been + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • They had been traveling for hours before they reached their destination. (พวกเขาเดินทางมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทาง)
  • She had not been sleeping well before the exam. (เธอนอนไม่ค่อยหลับก่อนสอบ)
  • Had you been waiting long before the bus arrived? (คุณรอนานก่อนรถบัสมาหรือเปล่า?)

9. Future Simple (อนาคตกาลธรรมดา)

ใช้บอกถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + will + V1
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + will + not + V1
  • ประโยคคำถาม: Will + Subject + V1?

ตัวอย่าง:

  • She will travel to Japan next month. (เธอจะเดินทางไปญี่ปุ่นเดือนหน้า)
  • He will not join the meeting tomorrow. (เขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมพรุ่งนี้)
  • Will they come to the party? (พวกเขาจะมางานเลี้ยงไหม?)

10. Future Continuous (อนาคตกาลต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่จะกำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + will + be + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + will + not + be + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Will + Subject + be + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • She will be working at 8 PM tonight. (เธอจะกำลังทำงานตอน 2 ทุ่มคืนนี้)
  • They will not be playing soccer tomorrow. (พวกเขาจะไม่ได้เล่นฟุตบอลพรุ่งนี้)
  • Will you be studying at 10 AM? (คุณจะกำลังเรียนตอน 10 โมงเช้าไหม?)

11. Future Perfect (อนาคตกาลสมบูรณ์)

ใช้บอกถึงการกระทำที่จะเกิดขึ้นและเสร็จสิ้นก่อนเวลาในอนาคต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + will + have + V3
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + will + not + have + V3
  • ประโยคคำถาม: Will + Subject + have + V3?

ตัวอย่าง:

  • They will have finished the project by next week. (พวกเขาจะทำโครงการเสร็จภายในสัปดาห์หน้า)
  • She will not have completed the report by tomorrow. (เธอจะยังทำรายงานไม่เสร็จภายในพรุ่งนี้)
  • Will you have graduated by the end of this year? (คุณจะจบการศึกษาภายในสิ้นปีนี้หรือไม่?)

12. Future Perfect Continuous (อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)

ใช้บอกถึงการกระทำที่จะเกิดขึ้นและดำเนินต่อเนื่องจนถึงช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต

โครงสร้าง:

  • ประโยคบอกเล่า: Subject + will + have + been + V-ing
  • ประโยคปฏิเสธ: Subject + will + not + have + been + V-ing
  • ประโยคคำถาม: Will + Subject + have + been + V-ing?

ตัวอย่าง:

  • They will have been living here for two years by next month. (พวกเขาจะอาศัยที่นี่มาเป็นเวลาสองปีภายในเดือนหน้า)
  • She will not have been studying for long by then. (เธอจะยังไม่เรียนเป็นเวลานานจนถึงตอนนั้น)
  • Will you have been working there for five years by the end of this year? (คุณจะทำงานที่นั่นเป็นเวลาห้าปีภายในสิ้นปีนี้หรือไม่?)

แบบฝึกหัด

Instructions: เลือกคำตอบที่ถูกต้องสำหรับแต่ละประโยค โดยเลือกจากคำที่ให้ไว้ในตัวเลือก

1. Choose the correct tense to complete the sentence:

She ___________ to the gym every morning.

a) goes
b) went
c) will go

2. Choose the correct tense to complete the sentence:

They ___________ a movie last night.

a) watch
b) watched
c) will watch

3. Choose the correct tense to complete the sentence:

He ___________ his homework tomorrow.

a) does
b) did
c) will do

4. Choose the correct tense to complete the sentence:

We ___________ a new car last year.

a) buy
b) bought
c) will buy

5. Choose the correct tense to complete the sentence:

I ___________ breakfast every morning.

a) eat
b) ate
c) will eat

6. Choose the correct tense to complete the sentence:

She ___________ her homework before she went out.

a) finishes
b) finished
c) will finish

7. Choose the correct tense to complete the sentence:

They ___________ to Paris by next year.

a) travel
b) traveled
c) will have traveled

8. Choose the correct tense to complete the sentence:

He ___________ when I saw him.

a) runs
b) was running
c) will run

9. Choose the correct tense to complete the sentence:

She ___________ for three hours before the exam started.

a) studies
b) studied
c) had been studying

10. Choose the correct tense to complete the sentence:

They ___________ here for two years by next month.

a) live
b) will have been living
c) lived

11. Choose the correct tense to complete the sentence:

They ___________ to Japan next month.

a) travel
b) traveled
c) will travel

12. Choose the correct tense to complete the sentence:

She ___________ when I saw her.

a) runs
b) was running
c) will run

Answer Key

  • 1. a) goes
  • 2. b) watched
  • 3. c) will do
  • 4. b) bought
  • 5. a) eat
  • 6. b) finished
  • 7. c) will have traveled
  • 8. b) was running
  • 9. c) had been studying
  • 10. b) will have been living
  • 11. c) will travel
  • 12. b) was running

Friday, June 14, 2024

Grammar: Parts of Speech, Tutorial & Quiz

Parts of Speech and Interactive Quiz

Parts of Speech and Interactive Quiz

การอธิบายแกรมม่าร์เรื่อง Parts of Speech

Parts of Speech คือ การแบ่งคำตามหน้าที่หรือบทบาทในประโยค ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ประเภทหลักๆ ดังนี้:

1. Nouns (คำนาม)

ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือความคิด เช่น:

  • People: John, teacher
  • Animals: dog, cat
  • Things: book, table
  • Places: school, park
  • Ideas: happiness, freedom

2. Pronouns (คำสรรพนาม)

ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวซ้ำ เช่น:

  • I, you, he, she, it, we, they
  • Example: John is a teacher. He loves teaching.

3. Verbs (คำกริยา)

แสดงการกระทำหรือสถานะ เช่น:

  • Action: run, jump, eat
  • State: be, seem, feel
  • Example: She runs every morning.

4. Adjectives (คำคุณศัพท์)

ใช้บรรยายคำนามหรือคำสรรพนาม เช่น:

  • Example: a beautiful flower, a tall man

5. Adverbs (คำวิเศษณ์)

ใช้บรรยายกริยา คุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์อื่น เช่น:

  • Example: She sings beautifully. (บรรยายกริยา sings)

6. Prepositions (คำบุพบท)

ใช้เชื่อมคำนามหรือคำสรรพนามกับส่วนอื่นของประโยค เช่น:

  • in, on, at, over, under
  • Example: The book is on the table.

7. Conjunctions (คำสันธาน)

ใช้เชื่อมคำหรือประโยค เช่น:

  • and, but, or, so
  • Example: I want to go, but I am tired.

8. Interjections (คำอุทาน)

ใช้แสดงอารมณ์ เช่น:

  • Wow!, Ouch!, Hurray!
  • Example: Wow! That’s amazing!

แบบฝึกหัด

Instructions: เลือกคำตอบที่ถูกต้องสำหรับแต่ละประโยค โดยเลือกจากคำที่ให้ไว้ในตัวเลือก

1. Choose the correct noun to complete the sentence:

The ___________ is very crowded.

a) run
b) happiness
c) park
d) slowly

2. Choose the correct pronoun to complete the sentence:

___________ is my best friend.

a) He
b) Beautiful
c) Running
d) In

3. Choose the correct verb to complete the sentence:

She ___________ every morning.

a) beautifully
b) runs
c) under
d) happy

4. Choose the correct adjective to complete the sentence:

He is a ___________ student.

a) quickly
b) cat
c) intelligent
d) read

5. Choose the correct adverb to complete the sentence:

She sings ___________.

a) loudly
b) beautiful
c) dog
d) and

6. Choose the correct preposition to complete the sentence:

The cat is ___________ the table.

a) in
b) on
c) runs
d) beautiful

7. Choose the correct conjunction to complete the sentence:

I want to play, ___________ I have homework to do.

a) but
b) dog
c) quickly
d) happy

8. Choose the correct interjection to complete the sentence:

___________! That was an amazing performance.

a) Wow
b) Under
c) Slowly
d) Happiness

9. Choose the correct noun to complete the sentence:

The ___________ are flying in the sky.

a) birds
b) beautifully
c) runs
d) quickly

10. Choose the correct adjective to complete the sentence:

She wore a ___________ dress to the party.

a) beautifully
b) red
c) cat
d) run

Answer Key

  • 1. c) park
  • 2. a) He
  • 3. b) runs
  • 4. c) intelligent
  • 5. a) loudly
  • 6. b) on
  • 7. a) but
  • 8. a) Wow
  • 9. a) birds
  • 10. b) red

Answer Key

  • 1. c) park
  • 2. a) He
  • 3. b) runs
  • 4. c) intelligent
  • 5. a) loudly
  • 6. b) on
  • 7. a) but
  • 8. a) Wow
  • 9. a) birds
  • 10. b) red

Grammar: Conditionals (If Clauses)

 Conditionals หรือ ประโยคเงื่อนไข เป็นโครงสร้างประโยคที่ใช้เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์สองเหตุการณ์ ซึ่งเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขหรือข้อแม้บางอย่างเกิดขึ้นก่อน ประโยคเงื่อนไขแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งหลักๆ มีดังนี้:

1. Zero Conditional (เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ)

Zero Conditional ใช้เพื่อพูดถึงข้อเท็จจริงทั่วไปหรือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอเมื่อมีเงื่อนไขนั้นๆ ประโยคใน Zero Conditional ประกอบด้วย If-clause (ประโยคเงื่อนไข) และ Main clause (ประโยคหลัก) ทั้งสองส่วนใช้ Present Simple Tense

โครงสร้าง:

  • If + Present Simple, Present Simple

ตัวอย่าง:

  • If you heat water to 100 degrees Celsius, it boils. (ถ้าคุณต้มน้ำที่ 100 องศาเซลเซียส มันจะเดือด)
  • If it rains, the grass gets wet. (ถ้าฝนตก หญ้าจะเปียก)

2. First Conditional (เงื่อนไขที่เป็นไปได้ในอนาคต)

First Conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคตหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเงื่อนไขนั้นๆ เป็นจริง

โครงสร้าง:

  • If + Present Simple, will + Verb

ตัวอย่าง:

  • If I study hard, I will pass the exam. (ถ้าฉันตั้งใจเรียน ฉันจะสอบผ่าน)
  • If it rains tomorrow, we will stay at home. (ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ เราจะอยู่บ้าน)

3. Second Conditional (เงื่อนไขที่เป็นไปได้ยากในปัจจุบันหรืออนาคต)

Second Conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ยากหรือไม่น่าจะเกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคต และยังสามารถใช้พูดถึงความฝันหรือจินตนาการ

โครงสร้าง:

  • If + Past Simple, would + Verb

ตัวอย่าง:

  • If I were rich, I would travel around the world. (ถ้าฉันรวย ฉันจะเดินทางรอบโลก)
  • If he studied more, he would get better grades. (ถ้าเขาเรียนมากขึ้น เขาจะได้เกรดที่ดีกว่า)

4. Third Conditional (เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ในอดีต)

Third Conditional ใช้พูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่เกิดขึ้นจริงและผลลัพธ์ที่ตามมาถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง

โครงสร้าง:

  • If + Past Perfect, would have + Past Participle

ตัวอย่าง:

  • If I had known about the party, I would have gone. (ถ้าฉันรู้เรื่องปาร์ตี้ ฉันคงไปแล้ว)
  • If they had left earlier, they would have caught the train. (ถ้าพวกเขาออกเดินทางเร็วกว่านี้ พวกเขาคงทันรถไฟ)

5. Mixed Conditional (เงื่อนไขที่ผสมผสาน)

Mixed Conditional ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่มีเงื่อนไขในอดีตแต่ผลลัพธ์ในปัจจุบัน หรือเงื่อนไขในปัจจุบันแต่ผลลัพธ์ในอดีต

โครงสร้าง:

  • If + Past Perfect, would + Verb (ปัจจุบัน)
  • If + Past Simple, would have + Past Participle (อดีต)

ตัวอย่าง:

  • If I had studied harder, I would be successful now. (ถ้าฉันตั้งใจเรียนมากขึ้น ฉันคงประสบความสำเร็จตอนนี้)
  • If she were more careful, she wouldn't have made that mistake. (ถ้าเธอรอบคอบมากขึ้น เธอคงไม่ทำผิดนั้น)


แบบฝึกหัดเรื่อง Conditionals

คำสั่ง: เติมคำในช่องว่างให้ถูกต้องโดยใช้รูปแบบ Conditionals ที่เหมาะสม (Zero, First, Second, Third หรือ Mixed Conditional)

  1. If you __________ (heat) ice, it __________ (melt).
  2. If I __________ (see) her tomorrow, I __________ (tell) her the news.
  3. If he __________ (be) taller, he __________ (play) basketball better.
  4. If they __________ (leave) earlier, they __________ (catch) the train.
  5. If she __________ (study) harder, she __________ (pass) the exam now.
  6. If I __________ (know) his phone number, I __________ (call) him.
  7. If we __________ (save) enough money, we __________ (go) on vacation next year.
  8. If I __________ (not/forget) my keys, I __________ (not/be) locked out of the house.
  9. If you __________ (mix) red and blue, you __________ (get) purple.
  10. If he __________ (eat) breakfast, he __________ (not/feel) hungry now.

++++++++++++++




คำเฉลย

  1. If you heat ice, it melts.
    • (Zero Conditional)
  2. If I see her tomorrow, I will tell her the news.
    • (First Conditional)
  3. If he were taller, he would play basketball better.
    • (Second Conditional)
  4. If they had left earlier, they would have caught the train.
    • (Third Conditional)
  5. If she had studied harder, she would pass the exam now.
    • (Mixed Conditional)
  6. If I knew his phone number, I would call him.
    • (Second Conditional)
  7. If we save enough money, we will go on vacation next year.
    • (First Conditional)
  8. If I had not forgotten my keys, I would not have been locked out of the house.
    • (Third Conditional)
  9. If you mix red and blue, you get purple.
    • (Zero Conditional)
  10. If he had eaten breakfast, he would not feel hungry now.
    • (Mixed Conditional)
Conditionals Quiz

Conditionals Quiz

Note: If the Submit button and feedback do not appear properly, you can refer to the answer key at the end of the quiz.

1. If you __________ (heat) ice, it __________ (melt).

  • a) heat, melts
  • b) heated, melt
  • c) heat, melt
  • d) heated, melts

2. If I __________ (see) her tomorrow, I __________ (tell) her the news.

  • a) saw, will tell
  • b) see, will tell
  • c) see, would tell
  • d) saw, would tell

3. If he __________ (be) taller, he __________ (play) basketball better.

  • a) is, will play
  • b) were, would play
  • c) was, would play
  • d) were, will play

4. If they __________ (leave) earlier, they __________ (catch) the train.

  • a) leave, will catch
  • b) left, would catch
  • c) had left, would have caught
  • d) leave, would have caught

5. If she __________ (study) harder, she __________ (pass) the exam now.

  • a) had studied, would pass
  • b) studied, will pass
  • c) studies, will pass
  • d) had studied, would have passed

6. If I __________ (know) his phone number, I __________ (call) him.

  • a) know, will call
  • b) knew, would call
  • c) know, would call
  • d) knew, will call

7. If we __________ (save) enough money, we __________ (go) on vacation next year.

  • a) save, will go
  • b) saved, will go
  • c) save, would go
  • d) saved, would go

8. If I __________ (not/forget) my keys, I __________ (not/be) locked out of the house.

  • a) had not forgotten, would not have been
  • b) not forgot, will not be
  • c) had not forgotten, would not be
  • d) do not forget, will not be

9. If you __________ (mix) red and blue, you __________ (get) purple.

  • a) mix, get
  • b) mixed, get
  • c) mix, will get
  • d) mixed, will get

10. If he __________ (eat) breakfast, he __________ (not/feel) hungry now.

  • a) eats, will not feel
  • b) ate, would not feel
  • c) had eaten, would not feel
  • d) had eaten, would not have felt
_________

|||

Answer Key

1. a) heat, melts

2. b) see, will tell

3. b) were, would play

4. c) had left, would have caught

5. a) had studied, would pass

6. b) knew, would call

7. a) save, will go

8. a) had not forgotten, would not have been

9. a) mix, get

10. c) had eaten, would not feel

Monday, June 10, 2024

Alcohol, Culture, and Harms: An In-Depth Analysis

 

Introduction

Alcohol consumption is a deeply rooted practice in many cultures around the world. It plays a significant role in social interactions, celebrations, and even religious rituals. However, the consumption of alcohol is also associated with a range of harms that affect individuals, families, and societies at large. This report delves into the intricate relationship between alcohol, culture, and the harms associated with alcohol consumption, providing a comprehensive understanding of the topic.

Historical Context of Alcohol Consumption

Alcohol has been consumed for thousands of years, with evidence of fermented beverages dating back to ancient civilizations such as Mesopotamia, Egypt, and China. Throughout history, alcohol has been used for various purposes, including medicinal, ceremonial, and recreational. The cultural significance of alcohol varies widely across different societies, influencing its consumption patterns and social acceptance.

Cultural Perspectives on Alcohol

  1. Western Cultures:

    • In many Western cultures, alcohol is a central element in social gatherings and celebrations. Countries like France, Italy, and Spain integrate wine into their daily meals, viewing moderate consumption as a norm.
    • In contrast, the UK and the US have a more varied approach, with both moderate and binge drinking being common, particularly among younger demographics.
  2. Eastern Cultures:

    • In East Asian cultures, such as China, Japan, and Korea, alcohol consumption is often tied to social rituals and business etiquette. For instance, the tradition of "kampai" (a toast) in Japan signifies respect and camaraderie.
    • Despite the cultural acceptance of alcohol in social settings, there is a growing awareness of its health implications, leading to shifts in consumption patterns.
  3. Islamic Cultures:

    • In many Islamic countries, alcohol consumption is prohibited due to religious beliefs. The Quran explicitly forbids intoxicants, leading to stringent laws against alcohol use in countries like Saudi Arabia and Iran.
    • However, the degree of enforcement and cultural attitudes towards alcohol can vary, with some regions showing leniency and others maintaining strict prohibition.

Harms Associated with Alcohol Consumption

The harms associated with alcohol consumption can be categorized into health, social, and economic impacts.

  1. Health Impacts:

    • Short-term Effects: Acute alcohol consumption can lead to intoxication, impaired judgment, accidents, and injuries. Binge drinking, in particular, poses significant risks such as alcohol poisoning and acute pancreatitis.
    • Long-term Effects: Chronic alcohol use is linked to a myriad of health issues, including liver diseases (cirrhosis, hepatitis), cardiovascular diseases, cancers (mouth, throat, liver, breast), and mental health disorders (depression, anxiety).
  2. Social Impacts:

    • Alcohol misuse can strain relationships, leading to domestic violence, child neglect, and marital breakdowns. The social stigma associated with alcohol dependence can further isolate individuals, exacerbating their problems.
    • In communities, alcohol-related incidents can increase crime rates and contribute to unsafe environments.
  3. Economic Impacts:

    • The economic burden of alcohol consumption is substantial, encompassing healthcare costs, lost productivity, and law enforcement expenses. According to the World Health Organization (WHO), the global economic cost of alcohol consumption is estimated to be 1-2% of the gross domestic product (GDP) of high-income countries.

Strategies to Mitigate Alcohol-Related Harms

Addressing the harms associated with alcohol requires a multifaceted approach involving public health policies, community interventions, and individual behavioral changes.

  1. Public Health Policies:

    • Regulation and Taxation: Implementing stricter regulations on the sale and advertising of alcohol, along with higher taxes, can reduce consumption levels. For example, minimum unit pricing has shown effectiveness in Scotland.
    • Legal Drinking Age: Enforcing minimum legal drinking age laws can help delay the onset of alcohol consumption among youths, reducing the likelihood of developing alcohol-related problems later in life.
  2. Community Interventions:

    • Education and Awareness: Public awareness campaigns can inform individuals about the risks associated with alcohol consumption and promote responsible drinking behaviors.
    • Support Systems: Establishing community support groups and providing resources for alcohol dependence treatment can aid in recovery and prevent relapse.
  3. Individual Behavioral Changes:

    • Moderation: Encouraging individuals to adopt moderate drinking habits can mitigate many of the health risks associated with alcohol.
    • Lifestyle Changes: Promoting healthy lifestyle choices, such as regular exercise and balanced nutrition, can counteract some of the negative effects of alcohol.

Case Studies

  1. Iceland's Youth Alcohol Reduction:

    • Iceland successfully reduced teenage drinking through a comprehensive approach involving community engagement, increased extracurricular activities, and parental involvement. By fostering a supportive environment and providing alternative activities, the country saw a dramatic decrease in youth alcohol consumption.
  2. Australia's Alcohol Guidelines:

    • Australia has implemented stringent alcohol guidelines and public health campaigns to educate citizens on the risks of excessive drinking. The government's efforts to promote responsible drinking and provide support for those struggling with alcohol dependence have been instrumental in reducing alcohol-related harms.

Conclusion

The relationship between alcohol, culture, and harms is complex and multifaceted. While alcohol plays a significant role in many cultural traditions, its consumption is associated with a range of health, social, and economic harms. Addressing these harms requires a comprehensive approach involving public health policies, community interventions, and individual behavioral changes. By understanding the cultural contexts of alcohol consumption and implementing effective strategies, societies can mitigate the negative impacts of alcohol and promote healthier, more resilient communities.






References

  • World Health Organization. (2020). Global status report on alcohol and health 2018.
  • Harvard Medical School. (2021). Understanding Cholesterol.
  • The Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism. (2022). Study on Egg Consumption and Lipid Levels.
  • Iceland's National Health Promotion Center. (2020). Youth in Iceland Program.
  • Australian Government Department of Health. (2021). Alcohol Guidelines and Public Health Campaigns.

Ancient Family’s Use of Eggs in Traditional Therapies for Blood Vessels and Bones



Eggs are not just a staple food; they are a wellspring of nutritional and medicinal benefits. In addition to their high nutritional value, eggs have a long history of being used for therapeutic purposes.

The Nutritional Power of Eggs

Eggs are rich in protein, lecithin, vitamins, and a variety of minerals. Dr. Jhang Wei-Jyun, the fifth-generation heir of Taiwan’s traditional Chinese medicine (TCM) family Huai Sheng Tang, highlights various egg-based therapies that promote vascular and bone health.

Cholesterol Concerns and Realities

Many worry about cholesterol in eggs. However, a Harvard Medical School report indicates that approximately 80% of the body's cholesterol is produced by the liver and intestines, with only 20% derived from food. Dr. Jhang explains that high cholesterol is more often caused by excessive intake of unhealthy fats and sugars, leading to inflammation in blood vessels. The liver produces cholesterol to repair these damaged vessels. Cholesterol-lowering drugs inhibit this process but do not address the underlying inflammation. Dr. Jhang recommends that most adults can safely consume four to five eggs daily, while middle-aged to elderly individuals should limit intake to two to three eggs per day.

Research on Egg Consumption

A 2022 study in The Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism found no link between egg consumption and lipid levels in people with metabolic disorders. In fact, those with normal metabolism who ate more eggs had better lipid profiles and lower levels of triglycerides and bad cholesterol. This indicates that eating eggs can be safe for individuals with hyperlipidemia and beneficial for those with normal metabolism.

Medicinal Properties of Egg Yolks

Egg yolks are rich in calcium, magnesium, zinc, copper, and vitamins A, D, and B-complex, as well as lutein and zeaxanthin, which support eye health. Oleic acid and lecithin in egg yolks can lower blood lipids, enhance brain function, improve memory, and support development. Lecithin is a natural lipid-lowering agent and emulsifier, aiding in fat transport and preventing deposition, which is beneficial for atherosclerosis, fatty liver, and cerebrovascular diseases.

Therapeutic Uses of Eggs in TCM

According to TCM, egg yolk has a calming effect on the mind. Historical records indicate that lily and egg yolk soup can remedy overthinking and restlessness.

Lily and Egg Yolk Soup Recipe:

  • Ingredients: 45 grams dried lilies, 3 egg yolks, 400 milliliters water
  • Directions: Soak lilies overnight. Boil in fresh water until reduced by half, then add egg yolks and bring to a boil.

Medicinal Properties of Egg Whites

Egg whites are rich in high-quality protein and have external applications:

  1. Reduce Swelling and Pain:

    • Ginger Egg White Paste: Mix 40 ml ginger juice, 1 Tbsp egg white, 1 Tbsp flour, and 1 Tbsp rice wine to form a paste. Apply to bruises and swelling (without open wounds).
  2. Protect Mucous Membranes:

    • Black Tea with Egg Whites: Mix raw egg white with hot black tea, let it cool, then sip slowly to soothe vocal cords.
  3. Skin Lightening:

    • Egg White Sweet Wine Mask: Mix 1 Tbsp egg white with 1 Tbsp sweet wine. Apply to dark spots overnight, rinsing off in the morning.

Medicinal Properties of Eggshells and Membrane

The inner membrane of eggshells, known as the “phoenix coat” in TCM, is used for minor burns to reduce evaporation and infection. Ground eggshells, mainly calcium carbonate, can neutralize stomach acid and serve as a calcium supplement.

Vinegar Eggs Recipe:

  • Directions: Sterilize an egg, marinate in vinegar for three days, remove shell and membrane, and mix the egg with the vinegar. Consume by diluting with water, adding to soup, or using as a salad dressing.

Egg Remedies for Muscle Building

For age-related muscle loss (sarcopenia), Dr. Jhang recommends:

  1. Four Spirits Egg Soup:

    • Ingredients: 20 gm poria, 20 gm Chinese yam, 40 gm lotus seed, 20 gm Gordon Euryale seed, 1 egg
    • Directions: Simmer herbs, strain, add an egg, and cook.
  2. Diced Pumpkin and Egg:

    • Directions: Cook pumpkin, scramble eggs with garlic, mix with pumpkin, and garnish with scallions.
  3. Chinese Tea Eggs:

    • Ingredients: 6 eggs, 1 braised tea bag, 2 black tea bags, ½ cup soy sauce, 1 Tbsp rock sugar, 1 tsp salt
    • Directions: Crack boiled eggs, marinate with ingredients in a cooker, and let sit for flavor infusion.

Note: Always consult a doctor for individual treatment options based on personal health conditions.

Credit:  Based on a report by Amber Yang, Epoch Times

Saturday, June 8, 2024

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 3

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 3

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 3

Note: If the Submit button doesn't work, please check the Answer Key at the end.

Tom loves to bake. Every weekend, he tries out a new recipe. Last weekend, he decided to bake a chocolate cake for his family. He carefully measured all the ingredients and followed the recipe step by step. The cake turned out perfect, with a moist texture and rich flavor. His family was delighted and praised him for his baking skills. Encouraged by their compliments, Tom decided to bake cookies the next weekend. Baking had become his favorite hobby, bringing joy to both him and his family.

1. What does Tom love to do?

a) Cook
b) Bake
c) Paint

2. What did Tom bake last weekend?

a) Cookies
b) A chocolate cake
c) Bread

3. How did the cake turn out?

a) Burnt
b) Dry
c) Perfect

4. How did Tom's family react to the cake?

a) They didn't like it
b) They praised him
c) They ignored it

5. What did Tom decide to bake the next weekend?

a) Cookies
b) A pie
c) Muffins

Answer Key:

1. b) Bake

2. b) A chocolate cake

3. c) Perfect

4. b) They praised him

5. a) Cookies

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 2

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 2

Reading Comprehension Exercise for Intermediate Learners, Set 2

Note: If the Submit button doesn't work, please check the Answer Key at the end.

Sarah loved spending time in the garden. She enjoyed planting flowers and watching them grow. Every morning, she would water the plants and make sure they had enough sunlight. Her favorite flowers were roses because of their beautiful colors and pleasant fragrance. One day, while she was tending to her garden, she noticed a small bird's nest in one of the trees. She decided to watch over the nest and protect it from any harm. Seeing the baby birds hatch and grow brought her immense joy and satisfaction. The garden had become a place of peace and happiness for Sarah.

1. What did Sarah enjoy doing in the garden?

a) Planting flowers and watching them grow
b) Playing with her dog
c) Reading books

2. What was Sarah's favorite type of flower?

a) Tulips
b) Daisies
c) Roses

3. What did Sarah find in one of the trees?

a) A bird's nest
b) A squirrel
c) A cat

4. What did Sarah decide to do with the bird's nest?

a) Ignore it
b) Watch over and protect it
c) Remove it

5. How did the garden make Sarah feel?

a) Peaceful and happy
b) Tired
c) Bored

Answer Key:

1. a) Planting flowers and watching them grow

2. c) Roses

3. a) A bird's nest

4. b) Watch over and protect it

5. a) Peaceful and happy