มีหนาว! กมธ.ปปช. ขุดคดีฉ้อโกงยื่นส่งศาล ถอด "สิระ เจนจาคะ" ออกจาก ส.ส.
งานนี้มีหนาวแน่! "เสรีพิศุทธ์" ในฐานะประธาน กมธ.ปปช. ขุดคดีฉ้อโกง และอีก
3 คดี ยื่นประธานชวน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถอด "สิระ เจนจาคะ" ออกจาก ส.ส.
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิชอบ(ปปช.)
สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย
ร่วมกันแถลงเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อถอดถอนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากการเป็น
ส.ส. โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า มีผู้ร้องเรียนและให้ข้อมูลระบุว่า
นายสิระ ต้องโทษในคดีต่างๆ และอยากให้ กมธ.ดำเนินการตรวจสอบ
ซึ่งพวกตนพรรคเสรีรวมไทย ยึดมั่นในเรื่องตัวบุคคลเป็นสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน หรือฝ่ายรัฐบาล ถ้าเป็นคนดี
เราก็ยินดีด้วยและพร้อมจะให้การสนับสนุน แต่ถ้าเป็นคนไม่ดี
แม้จะเป็นคนในพรรคเดียวกัน เราก็ไม่เอาด้วย ซึ่งในกรณีนายสิระนี้
เมื่อมีผู้ร้องมา ตนในฐานะประธานกมธ.ปปช. ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ
เพราะเราอยากให้สภาเป็นที่ของประชาชน เอาไว้ทำงานให้ประชาชน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า
มีคำพิพากษากรณีนายสิระ ไม่ว่าจะใช้ชื่อ ชลสิทธิ์, สุรสิทธิ์ หรือ สิระ
เจนจาคะ ก็ถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ประกอบด้วย
1. ศาลแขวงพระนครใต้
กรณีออกเช็คโดยมีเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งนายสิระ
ให้การรับสารภาพและคดีนี้มีระยะเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว
2. ศาลแขวงปทุมวัน กรณีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์และการฉ้อโกง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพทั้ง 2 กรณี
3. ศาลแขวงจังหวัดแพร่ กรณีความผิดต่อร่างกาย จำเลยก็รับสารภาพเช่นกัน
4. ศาลแขวงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่องความผิดต่อชีวิต ประมาท ความผิดต่อ
พรบ.ทางบก โดยจำเลยขับรถยนตร์ชนรถจักรยานยนตร์ ซึ่งจำเลยรับสารภาพเช่นกัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ มาตรา 98 (7)
ถือว่าคดีมีระยะเวลานานกว่า 20 ปีแล้วจึงถือว่าเป็นอันสิ้นสุด
แต่สำหรับมาตรา 98 (10)ที่ระบุว่าเคยต้องคำพิพากษาคดีเกี่ยวกับทรัพย์นั้น
ศาลแขวงปทุมวัน ได้สั่งจำคุก นายสิระ กรณีเกี่ยวกับทรัพย์
ดังนั้นพรรคเสรีรวมไทยจะยื่นเรื่องนี้ไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่านายสิระ
มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัญธรรมนูญมาตรา 98 (10) หรือไม่
และหากมีลักษณะต้องห้ามจริง เท่ากับนายสิระรู้ว่าตัวเองมีคุณลักษณะต้องห้าม
แต่ยังแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน กกต. ในตอนที่ไปสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.
ตนก็จะส่งเรื่องนี้ไปยัง กกต. เพื่อให้
กกต.ร้องไปยังศาลคดีอาญาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
ซึ่งหากมีความผิด จะมีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 2หมื่น-2แสนบาท
นอกจากนี้นายสิระยังต้องชดเชยค่าเสียหายจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ไปจนถึงต้องคืนเงินเดือนและเบี้ยประชุมกมธ.ทั้งหมดที่ได้รับ
ตั้งแต่วันแรกที่เป็นส.ส.จนถึงวันที่พ้นหน้าที่ด้วย เป็นของขวัญปีใหม่คืนให้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า ไม่กลัวว่าประชาชนจะมองว่าเป็นการเอาคืนกัน
เพราะมีปากเสียงกันใน กมธ.ปปช. อยู่บ่อยครั้งหรือ พล.ต.อ.เสรี กล่าวว่า
ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะเวลานายสิระมีปากเสียง
ตนไม่ได้ไปมีปากเสียงด้วยกับเขา โดยนายสิระเองถือว่าเขาได้รับเอกสิทธิ์
เขาก็แสดงเอกสิทธิ์เต็มที่จนบ้างครั้งมากและเวอร์เกินไป
แต่ก็ไปทำอะไรเขาไม่ได้ ดังนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะตนเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.