"ไม่อยากถูกวิจารณ์ ก็ลาออกไป"
ผมเป็นคนหนึ่งที่ระอาและละอายกับพฤติกรรมการแสดงออกของนายกรัฐมนตรี ผมเคยวิจารณ์หลายครั้งแต่ไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ตอนนี้เลิกแปลกใจเมื่อเห็นการแสดงออกของคนรอบข้างที่ไม่ได้ตระหนักว่า นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นตัวแทนของประเทศและกินเงินเดือนจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชนจึงย่อมจะ ถูกวิจารณ์ได้เสมอ นายกรัฐมนตรีต้องระมัดระวังในการแสดงออก เพราะมันคือหน้าตาของประเทศตามคำพังเพยที่ว่า "สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล"
สิ่งที่ทำให้คนไทยต้องอับอาย มากคือ การที่รัฐบาลได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนของตัวเองจนทำให้ ประชาคมโลกรุมประณาม เช่น การห้ามคนแสดงความคิดเห็นต่าง การจับกุมคุมขังคนตามอำเภอใจโดยอ้างเพื่อการปรับทัศนคติ การนำพลเรือนขึ้นศาลทหารทั้งที่ศาลปกติก็มีอยู่แล้ว ล่าสุดถึงขนาดยกกำลังไปห้ามการตั้ง "ศูนย์ปราบโกงประชามติ" โดยอ้างว่ากลไกภาครัฐทำงานได้อยู่แล้ว ก็ขนาดผมแสดงหลักฐานการโกงของ อผศ. ว่ามี คสช. เป็นตัวการร่วมก็ยังเพิกเฉยแล้วจะให้ประชาชนไว้ใจได้อย่างไร เหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ละเมิดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ ประเทศไทยรับรองมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้ารัฐบาลจะปฏิบัติกับประชาชนโดยยอมรับถึงสิทธิของความเป็นคน นายกคงไม่ต้องเสียเวลาไปอ้อนวอนให้โลกเข้าใจแบบที่ต้องทำทุกครั้งเมื่อไป ต่างประเทศ เรื่องนี้แทนที่คนรอบข้างจะช่วยกันตักเตือนกลับยุส่ง แถมมาแสดงความเกรี้ยวกราดใส่คนที่จ่ายภาษีให้เป็นเงินเดือนของตัวเองอีก จงจำไว้ว่าอำนาจที่มีและใช้อยู่ทุกวันนี้คืออำนาจที่ยึดไปจากประชาชนทั้ง สิ้น ถ้าไม่อยากถูกวิจารณ์ก็จงลาออกไปและคืนอำนาจให้ประชาชน รับรองไม่มีใครอยากพูดถึงพวกคุณแน่นอน
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
6 มิถุนายน 2559