ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Wednesday, March 23, 2016

วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก

23 มี.ค.59
วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก
ผ่านมาทางไลน์

เป็นที่สังเกตว่าในการแต่งตั้งโยกย้างคราวนี้สื่อต่างๆไม่นำมาวิเคราะห์คาดการณ์หรือลงข่าวสัมภาษณ์ผู้นำทหารคนใด ยกเว้น เดลินิวส์ที่ลงข่าวการแต่งตั้งที่มีชื่อรองแม่ทัพภาค1  สองในสามคนที่เลื่อนระดับสูงขึ้น รวมทั้ง การเลื่อนจากแม่ทัพน้อยเป็นแม่ทัพของภาค 2 ของ พล ท วิชัย แชจอหอ เด็กสร้างของ พล อ. เปรม แต่กลับให้ข้อมูลว่าเป็นนายทหารสายของ รมว กลาโหม  พล อ. ประวิตร เมื่อวันศุกร์ที่19 มี.ค. ก่อน เวลาถึง 10 วันตามที่ พล อ ประวิตรออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าโผจะออกสิ้นเดือนนี้ แต่เย็นวันจันทร์ถัดมา ประกาศราชกิจจานุเบกษา ก็ออกโผแต่งตั้งโยกย้ายออกมาหักหน้า พล อ ประวิตร ทันควัน (คอการเมือง ต้องไม่ลืมพลาด วันศุกร์ เพราะจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในวันนี้บ่อยครั้ง เช่นจับแล้วประกันไม่ทัน ต้องนอนคุกวันหยุด เป็นต้น)  

ในประกาศของราชกิจจานุเบกษา มีความแตกต่างจาก โผเดลินิวส์บ้าง กรณีของ พล ต กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีตขุนพลจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม  แต่ที่ไม่ผิด จากโผ มี สอง ตำแหน่ง คือ พล ต  นัฐ. อินทเจริญ ทส. ของ พล อ ประวิตร จาก รอง มทภ 1 เป็นรองเสธฯทบ.   และ พล ท  วิชัย แชจอหอ จาก แม่ทัพน้อย ภ 2 เป็นมทภ 2  สองตำแหน่งนี้ เป็นการยกขึ้นเพื่อเตรียมเข้าสู่ ไลน์ของ 5 เสือ ทบ  ที่จะว่างลง 3 ตำแหน่ง โดย คู่ชิงผบ ทบ ในงวดหน้า คือ 2 ใน 5 เสือที่เหลืออยู่ คือ พล อ พิสิทธิ สิทธิสาร และ พล อ เฉลิมชัย สิทธิสาร์ท กับอีกหนึ่งตำแหน่งที่รออยู่ไม่ไปไหนคือ แม่ทัพภาค 1 คนปัจจะบันพล ท. เทพพงศ์ ทิพย์จันทร์ ครบ 5 เสือ ทบ 

กลับมาที่นายทหารในระนาบเดียวกันที่ไม่ได้ปรับเลื่อนชั้น เน้นไปคนที่มีบทบาทในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างขั้วของ อำมาตย์กับไพร่ คือ กองทัพภาคที่ 1 ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1  พล ท  อภิรัชต์ คงสมพงศ์  กับรองแม่ทัพภาคที่ 1  พล.ต กู้เกียรติ ศรีนาคา และ พล ต พงศ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ นายทหารเหล่านี้ล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แต่กลับเสียอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ตท20 ที่ด้อยบทบาทในทางสื่อ  เรียกว่ามีงานเรียกใช้ แต่ให้บำเน็จกับเด็กฝาก หากนับลำดับอาวุโสย่อมเป็นการกีดกันเส้นทางเจริญเติบโต นี่เป็นร่องรอยหนึ่งของกุศโลบายแบ่งให้แตกแล้วแยกปกครอง สลายขั้วอำนาจที่คาดว่าจะผงาดในอนาคต ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมน้องเก่ง พี่ไม่"โปร" 

โผหักหน้า พล อ ประวิตร ชุดนี้มีคำตอบที่ให้ประเมินได้ว่า ทั้ง ธีรชัย ผบ ทบ กับ รมว กลาโหม ไม่มีส่วนจัดตั้ง เป็นการชงขึ้น ผ่าน ปลัดกระทรวง กลาโหมน้องชาย กับ พี่ชาย นรม.ส่งขึ้นไป แล้วประกาศใช้ (ในภาวะนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่ราชกิจจานุเบกษา ที่ไร้หลักฐานพระราชลัญจกรแต่งตั้ง แบบขลังๆ ที่เคยได้ชมกันในอดีต )  วิจารณ์แบบแลกหมัดคือการเอาคืนของ ประยุทธ กรณี การแต่งตั้ง ผบ ทบ ปี 2558 ที่ประยุทธ สมคบคิดกับ อุดมเดช ช่วยกันดันปรีชา แต่ถูกประวิตรทุบโต๊ะ ให้ ธีรชัย ที่ถูกดอง ให้รอมาหลายรอบ และที่สำคัญคือการเตะส่งอุดมเดชและทีมงานประเด็นอื้อฉาวโครงการอุทยานราชภักดิ์ของธีรชัยทันทีที่รับตำแหน่ง เรื่องนี้กระทบชิ่งไปถึง พี่น้องจันทร์โอชา ที่เล่นสองหน้า และสลายสายทหารของสุรยุทธ์ที่ถูกวางตัวแทรกเข้ามาอยู่ในแกนหลักของกองทัพคือ พอ  คชาชาติ บุญดี(หลานชายของ พล อ มงคล กมลบุตร ตท 1 บัดดี้ของ พล อสุรยุทธ์ จุลลานนท์)  และ พอ สุชาติ พรหมใหม่ เพื่อน ตท 27 ของ พอ คชาชาติ

สรุปการแต่งตั้งโยกย้ายในรอบนี้ ทำให้เกิดผลพลอยได้ไปเข้าทางเปรมที่มีเด็กเลี้ยงต้อยขึ้นขั้นอาวุโส เข้าป้ายรอตำแหน่ง 5 เสือไปก่อนตัวเต็งอย่าง อภิรัชต์ กู้เกียรติ และพงศ์สวัสดิ์ ที่มีชื่อชั้นเหนือกว่าในแวดวงการเมืองการทหาร ก่อให้เกิดรอยปริแตกทั้งฝ่ายบนและระดับสั่งการกองทัพ เห็นชัดขึ้นอีกระดับว่า ป ประยุทธ เหยียบเรือสองแคม เสนอผลงานเพื่อไปซบฟากของเปรมอีกคำรบหนึ่ง และคนประเภทนี้จะไม่มีที่ลงในวาระสุดท้ายเรียกกันว่า "หมาหัวเน่า"

"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"

 

 

Published on Mar 23, 2016
"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"


นาย ชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฎิบัติการ4) รักษาการแทนผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมผู้บริหาร เปิดแถลงข่าวพร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับ "การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559" โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1.สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน 2.มาตรการรับมือภัยแล้ง ปี 2559 3.โครงการประชารัฐร่วมใจ คนไทยประหยัดน้ำ 4.โครงการเดินรณรงค์ประหยัดน้ำช่วยชาติ พร้อมกันทั่วประเทศ 74 จังหวัด ในวันศุกร์ ที่ 25 มีนาคม 2559 และ 5.รณรงค์สืบสานประเพณีสงกรานต์ เล่นน้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สำนักงานใหญ่ หลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559

ภาพ วัชรชัย คล้ายพงษ์ (Watcharachai Klaipong)

    Category
        News & Politics
    License
        Standard YouTube License  

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน (ฉบับแก้ไขปรับปรุง)

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน (ฉบับแก้ไขปรับปรุง)

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน   

สว. ลากตั้ง ไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่เป็นการไปพบที่บ้านทรราช คสช.

สปท.เปรียบร่างฯมีชัย ไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่เป็นการไปพบที่บ้าน คสช.เลย
-

"สมพงษ์" ชี้ที่มา ส.ว.ไม่ครึ่งทาง เปรียบพบที่บ้าน คสช. ซัด "มีชัย" ดื้อรั้นคงบัตรเลือกตั้งใบเดียว
-

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายสมพงษ์ สระกวี กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากเป็นการรักษาหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อแก้เกี้ยวมากกว่า การให้เลือก ส.ว.ทางอ้อม 50 คนนั้น ไม่ได้ตอบโจทย์อะไรเลย 
-

เพราะหลักใหญ่คือ ส.ว.สรรหา 200 คน ที่ไม่ยึดโยงประชาชน ยังท่องคาถาลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ ยอมผ่อนเพื่อรักษาหน้าตัวเอง หากให้เลือกตั้ง ส.ว.ครึ่งหนึ่งและแต่งตั้งครึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ถึงจะเรียกครึ่งทางมากกว่า ไม่มีเลือกตั้งเลยไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่พบกันที่บ้าน คสช.

-
ส่วนการให้ทั้งสองสภาประชุมร่วมกันโดยใช้มติ 2 ใน 3 ในการเปิดโหวตนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อได้นั้น นายสมพงษ์กล่าวว่า จะเอาสภาแต่งตั้งมารวมกับสภาเลือกตั้งไม่ได้ ถ้ายึดหลักการว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากสภาผู้แทนราษฎร หากให้สภาผู้แทนราษฎรอย่างเดียวมีมติ 2 ใน 3 แล้วเอานายกฯคนนอกเข้ามายังไม่เป็นไร เพราะความรับผิดชอบจะตกอยู่กับผู้แทนราษฎรและพรรคการเมือง ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อประชาชน หากใช้สองสภารวมกันเปิดทางนายกฯ คนนอกถือว่าไม่ชอบธรรม คงถูกวิจารณ์มาก ห้ามไม่อยู่ และหมิ่นเหม่ต่อการทำประชามติ ส่วนการให้คงใช้บัตรเลือกตั้ง ส.ส.ใบเดียวนั้น แสดงถึงความดื้อรั้นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เอง ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน 
-
ทั้งๆ ที่ประเด็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์มากจากหลายฝ่ายและในที่สุดนายมีชัยก็จะถูกกล่าวหาว่าเขียนรัฐธรรมนูญรับใช้เผด็จการตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ซึ่งเป็นที่รู้กันทั้งบ้านเมืองว่านายมีชัยเป็นหนึ่งใน คสช. ดังนั้นเมื่อ คสช.ขอมาก็ปฏิบัติตามไม่ใช่เรื่องแปลก

Cr:  มติชนออนไลน์


"ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง ต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม"

ผมไปอ่าเจอบทความนี้.... จึงได้เห็นมุมมอง สหรัฐที่มองไทย.
-
จริงอยู่ อาจจะเป็นเรื่องเก่าและ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ ทุกตัวอักษร มีคุณค่าควรแก่การศึกษา เพราะ ภาพเมื่อปี 2554 กับ 2559 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย กับ อนาคตของ ประชาธิปไตย ในไทย 

------------------------------------

"ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง ต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม" - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (๒๕๕๔)
-

"ดิฉันพยายามเต็มที่เช่นกันในการแสดงให้ราชสำนักเห็น แต่ว่าต้องยอมรับ ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง เราต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม"
-

ความเป็นไปได้เบื้องหน้า
-

พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนราษฎร ๒๖๕ จาก ๕๐๐ เช่นนี้พรรคยังคงเป้นรัฐบาลต่อไปได้ แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวออกไปจากยิ่งลักษณ์ อีกทั้งการเป็นปราการเสริมความมั่นคงให้แก่รัฐบาล (อย่างน้อยในขณะนี้) (โดยที่เป็นเรื่องตลกร้าย) เกิดจากท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ก่อนหน้านี้เป็นคู่ห้ำหั่นกันกับเสื้อแดงและทักษิณ) ประยุทธ์แสดงออกมาบ่อยครั้งว่ากองทัพ (สถาบันที่ยอมรับกันว่ามีผลงานดีในช่วงวิกฤต) ยังคงอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาล อีกทั้งเป็นข้อผูกมัดให้ทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนรัฐบาลในยามวิกฤต และการปฏิวัติรัฐประหารเป็นไปไม่ได้ ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าเธอได้กระทำมากเสียยิ่งกว่าที่จำเป็นในการให้ความร่วมมือแก่ประยุทธ์ แล้วดูเหมือนประยุทธ์จะเข้าใจและพอใจกับความซื่อสัตย์มุ่งมั่นทำงานหนักของเธอ
-

ในวังก็เหมือนกัน มิได้แสดงอะไรให้เห็นว่าจะฉวยโอกาสระหว่างวิกฤตโค่นล้มรัฐบาล พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชานุญาติให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าสามครั้ง (ที่ประกาศทางการ) นับแต่เธอเข้ารับตำแหน่ง (ในโลกทึบแสงแห่งสถาบันกษัตริย์ไทย นี่เป็นกุญแจไขไปสู่การสร้างความคุ้นเคย) นอกจากนี้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นในได้เปิดให้นายกน ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา (ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ) รวมถึงสยามมกุฏราชกุมารและเจ้าฟ้าหญิงสองพระองค์ กระนั้นที่น่าเอ่ยถึงอยู่ที่การประกาศแต่งตั้งคนโปรดของราชสำนักสองท่าน ดร.สุเมธ และ ดร.วีรพงษ์ เข้าสู่คณะกรรมการฟื้นฟูและบริหารจัดการน้ำ สุเมธผู้ซึ่งถวายคำปรึกษาต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมาช้านาน แล้วยังเป็นประธานมูลนิธิหนึ่งของพระราชวัง ไม่น่าที่จะสนองรับการแต่งตั้งหากพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้ทรงให้ความเห็นชอบ กรรมการอีกสองท่านในคณะก็เป็นผู้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาทเช่นกัน
-

ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ความนิยมของยิ่งลักษณ์เริ่มจะตกลง พรรคเพื่อไทยของเธอยังทำคะแนนได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์คู่แข่ง ที่คนชอบน้อยกว่า และไม่อาจหาเพื่อนใหม่ได้จากการที่เอาวิกฤตมาใช้ฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองให้แก่ตนเอง "คุณไม่อาจที่จะเอาชนะบางสิ่งบางอย่างด้วยความว่างเปล่า" ดังที่มีคนว่าไว้ ถ้าไม่มีรัฐประหาร ยิ่งลักษณ์กับเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นเครื่องเล่นของชาติ
-

นั่นแหละ นี่คือประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าอย่าได้ละเลยคำนึงถึงรัฐประหารเป็นอันขาด แล้วที่ยิ่งลักษณ์พูดไว้ถูกต้องทีเดียว อย่างดีที่สุดประชาธิปไตยในประเทศไทยแค่เปราะบาง ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ดูเหมือนดั่งจริงใจที่ว่าไม่สนใจการรัฐประหาร แต่ด้วยระดับดีกรีของการที่กองทัพสามารถเรียกกลับภาพลักษณ์คืนได้ระหว่างวิกฤต ในมาดวีรบุรุษขณะที่นักการเมืองดูเหมือนดั่งหมดประสิทธิภาพ อาจเป็นแนวโน้มอันตรายต่อประเทศไทยซึ่งติดเชื้อรัฐประหารฝังใน ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ในวังวางขลึม แถมมีท่าน่าฉงนว่าสนับสนุนรัฐบาลละหรือ ประมวลการสำรวจระยะสั้นๆ ในโลกของเว็บบล็อกและเฟชบุ๊ค ก็ปรากฏความจงเกลียดจงชัง และการต่อต้านไม่ย่นย่อต่อดาวพระเคราะห์ทักษิณ อย่างคึกคักในหมู่ผู้ลากมากดีของกรุงเทพฯ
-

ที่ซึ่งนำเราไปสู่ประเด็นพี่ชายใหญ่ ผู้ที่ยังคงได้รับความเคารพนบนอบอย่างสูงจากคณะรัฐมนตรีในแวดวงพรรคเพื่อไทย และท่ามกลางผู้สนับสนุนในกลุ่มเสื้อแดง เขาทำตัวสงบเสงี่ยมได้อย่างชาญฉลาดในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาในขณะที่น้องสาวคนเล็กต่อสู้กับอุทกภัย แต่ว่าประเด็นเกี่ยวกับสถานะของเขา และความมุ่งมาดปรารถนาที่จะได้กลับประเทศไทยนั้นครอบคลุมไปเสียหมด ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าการเจรจากับในวังไม่หยุดยั้งของพี่ชายอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า "ได้ผลดี" และแสดงให้เห็นผลลัพท์ในทางเยียวยาต่อการลี้ภัยห้าปีที่เต็มไปด้วยนาฏกรรมของเขา ไม่ว่าจะโดยผ่านทางการมีพระราชโองการอภัยโทษ หรือทางกฎหมายนิรโทษกรรมในรัฐสภาที่ราชสำนักให้ไฟเขียว อย่างดีที่สุดนี่เป็นจังหวะเต้นที่ต้องระวังยิ่งยวด การจัดการพลาดหรือคาดคะเนผิดโดยทักษิณจะก่อให้เกิดนาฏกรรมการเมืองแก่ยิ่งลักษณ์อีกครั้ง
-

เธอจำเป็นต้องเร่งมือดำเนินงานโครงการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปราศจากการคอรัปชั่นหรือเรื่องอื้อฉาวใหญ่โต เพื่อที่จะทำให้พวกต่อต้านเงียบเสียงและผู้สนับสนุนเป็นปึกแผ่น ในขณะนี้ อุทกภัยได้กวาดซัดเอาความเชื่องมงายเรื่องเธอเป็น 'ตุ๊กตาจำลอง' ของพี่ชาย เนื่องเพราะเธอไม่มีประสบการณ์หรือสัญชาติญานอย่างพี่ชาย อย่างน้อยยังมาไม่ถึง ทว่าเธอมีในสิ่งที่พี่ชายไม่มี รวมถึงเสน่ห์และความสง่าและความจริงใจที่เห็นได้ กับการรำลึกอยู่เสมอที่จะโอบรับสถาบันกองทัพและราชสำนัก ด้วยการมีเทคโนแครทรุ่นใหม่ซึ่งทรงพลังอยู่เคียงข้าง เสียงข้างมากแน่นหนาในรัฐสภา ด้วยการวางมือของกองทัพและราชสำนักดังที่ปรากฏ (อย่างน้อยในขณะนี้) และไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ออกมาอีก ยิ่งลักษณ์ผู้มุ่งมั่นมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้

-


ปากอย่าง... ใจอย่าง...

ปากบอกไม่ปฏิวัติ แม่งก็ปฏิวัติ
-
ปากบอกเพื่อขจัดนักการเมืองคอรัปชั่น แต่แม่งก็เห็นทหารมันคอรัปชั่นอยู่ทุกวัน
-
ปากบอกเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ทุกการกระทำคือการเพิ่มความเหลื่อมล้ำ
-
ปากบอกคืนความสุข แต่ความจริงคือการเพิ่มความทุกข์ให้กับประชาชน
-
ปากบอกสังคมนิยม แต่รูปธรรมคือเผด็จการตัวสุดท้ายในโลก
-
ปากบอกเศรษฐกิจดี แต่อัตราฆ่าตัวตายของไทยติดอันดับสามของโลก
-
ปากบอกจะนำพาประเทศชาติเป็นมหาอำนาจอาเซียน แต่ที่เห็นคือตอนนี้ไทยเป็นเพียงกระต่ายที่หลงระเริงและหลับไหล
-
ปากบอกนานาชาติยอมรับ แต่ไม่มีผู้นำชาติประชาธิปไตยเดินทางมาประเทศไทย
-
ปากบอกจะอยู่ไม่นาน แต่ดันออกโรดแมป 20 ปี
-
ปากบอกปกป้องสถาบันฯ แต่ผลที่ได้ คือสถาบันเสียหายป่นปี้
-
ปากบอกจริงใจ แต่ไม่กล้าสบตาผู้คน และด่ากราดคนอื่นได้ทุกวัน
-
แค่ไล่มาได้แค่นี้ ก็นึกไม่ออกแล้วครับ
ว่าคนที่หลับหูหลับตาเชียร์เผด็จการนั้น
พวกเขาทำไปได้ยังไง!

--------

Junya Yimprasert