ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Wednesday, March 9, 2016

ดร. ทักษิณ​พูดอะไรไว้ ที่ World Policy Institute ที่นิวยอร์ค 9 มีนาคม 2559

กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ
อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร บรรยายที่นิวยอร์ก ชี้เศรษฐกิจโลกศตวรรษที่ 21 ต้องอาศัยการพึ่งพากันในเครือข่ายระดับนานาชาติ เตือนไทยจะตกขบวนเศรษฐกิจ หากรัฐธรรมนูญใหม่ทำให้รัฐบาลเลือกตั้งถูกแทรกแซง จนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านสเถียรภาพการเมืองได้

ดร.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงไฮไลต์ของการบรรยาย ที่งาน "สนทนาเป็นการส่วนตัวกับทักษิณ ชินวัตร" (Thaksin Shinawatra in Private Discussion) ซึ่งจัดโดยสถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของไทยจะไม่สามารถวางโครงสร้างพื้นฐานในเชิงสถาบัน ที่จะส่งเสริมให้มีการลงทุน การผลิต และความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศได้ เนื่องจากอาจเปิดช่องให้มีการแทรกแซงอำนาจฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ โดยอำนาจพิเศษของวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ

"เมื่อพิจารณาถึงเค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มันคงเป็นไปได้ยากที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความท้าทายในศตวรษที่ 21 ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 200 คนซึ่งจะถูกแต่งตั้งโดย "ผู้เชี่ยวชาญ" วุฒิสภาจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นในการยับยั้งการออกพระราชบัญญัติต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีขอบเขตอำนาจในการตัดสินคดีที่มากยิ่งขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยคดี เมื่อมีบุคคลใดก็ตามได้ดำเนินการร้องเรียน โดยไม่ได้มีเงื่อนไขที่ว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นข้อพิพาทจริงที่องค์กรทางการเมืองหรือศาลอื่นได้ดำเนินการยื่นเรื่องแก่ศาลรัฐธรรมนูญ"

"หากพวกเราคิดว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย คือ รากฐานเพื่อการสร้างความเจริญเติบโตและเสถียรภาพของประเทศ หัวข้อสำคัญที่พวกเราต้องพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ว่า อำนาจตุลาการจะล่วงล้ำอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว ผมหวังว่าคงจะไม่มีการใช้อำนาจตุลาการที่เกินกว่าความจำเป็นอีกในอนาคต กรณีศึกษาในประเทศต่างๆ ได้แสดงให้พวกเราเห็นว่า การใช้อำนาจพิจารณาทบทวนโดยศาล โดยไม่ได้มีการถ่วงดุลและตรวจสอบ อาจกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่ เหมาะสมและเป็น "ยุทธวิธีเตะถ่วงงาน" จนสุดท้ายก่อให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ" -- อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ว่าควรให้ความสำคัญแก่การขยายความร่วมมือเพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชีย ควรส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนแบบระหว่างประเทศและระหว่างภูมิภาค เพราะความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปสู่ "สภาวะปกติใหม่ของโลกปัจจุบัน" หรือ "New Normal" จากรูปแบบ "การผลิตสินค้าในประเทศเดียว" สู่ "ระบบเครือข่ายการออกแบบ การสรรหาปัจจัยการผลิต และการผลิตที่มีลักษณะข้ามชาติ" และอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย

"ประเทศไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความท้าทายของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้ ตลอดช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนมูลค่าการส่งออกต่อรายได้ประชาชาติของประเทศไทยและมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในประเทศไทยได้แสดงให้พวกเราได้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นเข้ากับชะตากรรมของเศรษฐกิจโลก" -- ดร.ทักษิณ เชื่อมโยงประเด็นสถานการณ์ไทย ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับนานาชาติ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับ สหรัฐฯ ที่มักถูกมองแบบเหมารวมว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อดีตนายกฯไทยมองว่าการปกครองที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสู่นโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่แม้จะเป็นคนละขั้ว แต่เป็นกระบวนการคู่ขนาน ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมให้แก่ทั้งภูมิภาคเอเชียและโลกตะวันตก
 —  

"จีน" กินรวบรถไฟไทย ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"จีน" กินรวบรถไฟไทย


updated: 09 มี.ค. 2559 เวลา 13:00:40 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันนี้ "จีน" ประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย กำลังแผ่อิทธิพลการพัฒนาระบบรางมายังประเทศไทย นอกจากระบบรถไฟความเร็วปานกลาง เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ที่กำลังทำรายละเอียดโปรเจ็กต์ร่วมกัน

ล่าสุดได้ขยายตลาดรุกจาะโครงการของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่กำลังจัดซื้อทั้ง "หัวรถจักร-รถโดยสาร-โบกี้บรรทุกสินค้า" มูลค่าร่วม 14,022 ล้านบาท หลังว่างเว้นมานาน 20-30 ปี โดยผู้ผลิตจีนรายแรกบุกเบิกตลาดสำเร็จ มาจากโรงงานจีนตอนใต้ "บจ.CSR Qishuya" คว้างาน "หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า" 20 คัน พร้อมอะไหล่ 2,020 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยกว่า 100 ล้านบาท/คัน มี "บจ.ป่าไม้สันติ" เป็นผู้แทนการขาย ปัจจุบันใช้ลากจูงรถขนส่งสินค้าสายเหนือและอีสานมายังท่าเรือแหลมฉบัง นับเป็นครั้งแรกที่ "ร.ฟ.ท." ซื้อสินค้าจากจีน จากเดิมซื้อจาก "อเมริกา-เยอรมนี-ฝรั่งเศส"
จากนั้นเป็น "บจ.ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิลส์" ในกลุ่ม CNR ได้เค้ก "รถโดยสารรุ่นใหม่" 115 คัน วงเงิน 4,668 ล้านบาท ซื้อผ่านกลุ่ม บจ.เขาหลักแบมบู ออร์คิด, บจ.ร่วมมิตรเหมืองแร่ และ บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น จะอวดโฉมในเดือน พ.ค.นี้ 

ขณะที่ "โบกี้บรรทุกสินค้า" 308 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 770 ล้านบาท เป็นสินค้าจากผู้ผลิตจีนเช่นกัน มี บจ.สยามโบกี้ เป็นผู้แทนจากไทย เป็นผู้จัดหาให้ ร.ฟ.ท.

ส่วน "ซื้อหัวรถจักรจีอี" 50 คัน วงเงิน 6,151 ล้านบาท เค้กประมูลล่าสุด หนีไม่พ้นได้ผู้ผลิตจากจีน เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า คิวเอส ประกอบด้วย บจ.ซีอาร์อาร์ซี ซิซูเอียน และ บจ.ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล ได้งานประมูลแบบไร้คู่แข่ง กำลังลุ้นจะผ่านการพิจารณาจากบิ๊กคมนาคมหรือไม่

และไม่แค่ "ร.ฟ.ท." ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จากจีน ปัจจุบันมี "ทีพีไอ" ของ เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ร่วมแจมด้วย อนาคตอันใกล้ "ปตท." น่าจะเป็นอีกรายที่จะตามมา และรายอื่น ๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อลอตใหญ่

สาเหตุที่ทำให้สินค้า "จีน" เป็นที่นิยมว่ากันว่าเป็นเพราะมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าทางยุโรปอย่างน้อย 30-50% อย่าง "หัวรถจักร" จีนตั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 100-110 ล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันจีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัย และได้รับไลเซนส์การผลิตจากทางยุโรปที่ผลิตสินค้าได้หลากหลายตามสเป็กที่คู่ค้ากำหนด


ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!! ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559

ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559 ตอน ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!!
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt



ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!! ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559

ดร. เพียงดิน 9 มี.ค. 2559 ตอน ตบหน้า "สลิ่มหลงโลก" WPI ให้เกียรติ ดร. ทักษิณ เสมอ ดร.​ บันคีมูน!!
หรือ
----------------------
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt



ทำไมอีเปรม ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน

ทำไมอีเปรม(ประธานองค์มนตรี เปรม ติณสูลานนท์)

ถึงเกลียดและอิจฉา ดร.ทักษิณ นายกของประชาชน

-
ขอทบทวนความทรงจำบางอย่าง ทำไมอีเปรมเกลียดทักษิณ จากที่ผมลองวิเคราะห์และข้อเท็จจริงบางอย่างที่ตรวจพบ

-
1 นิสัยของสองคนเข้ากันไม่ได้ อีเปรมเป็นขุนนางผูกขาดระบบ อำมาตย์ มาอย่างยาวนาน ทำอะไรชอบคิดแต่สร้างภาพถึงความสง่างาม และจะซ่อนความเลวระยำไว้ใต้พรม อีเปรม ค่อยๆ พูด ค่อยคิดแบบข้าราชการที่เขารับราชการมานานถึง 39 ปี แต่ ดร.ทักษิณเป็นคนรุ่นใหม่ เฉี่ยว ทำงานไว สไตล์เจ้าของธุรกิจและ CEO ที่สำคัญ ดร.ทักษิณรับไม่ได้กับระบบราชการที่จำกัดไปด้วยกรอบของกฎหมาย ดร.ทักษิณไม่โตในระบบราชการ แม้เขาเป็นพันตำรวจโท แต่ก็ไม่เคยทำงานเด่น เป็นดอกเตอร์ แต่นายกของประชาชนคนนี้ เขาผ่านการทำงานและสำเร็จในเชิงธุรการ เมื่อนิสัยมีนิสัยเห้นความเดือดร้อนของประขาขนเป้นที่ตั้ง จึงทำให้ อำมาตย์เผด็จการ ทรราช และไม่ชอบและธาตุแท้ ของความเป้นคนมันต่างกัน ท้ายสุดก็ไปกันไม่ได้

-

2 อีเปรม อยู่แวดล้อมด้วยขุนนางและคนอย่างองค์มนตรีที่มีลักษณะะจารีตนิยม อำมาตย์เผด็จการทรราช ขวาจัด ทั้งพลเอกพิจิตร เกษม วัฒนชัย คนนี้เคยร่วมกับ ดร.ทักษิณตอนหลังขัดใจกัน เลยออกมาก็พาลดร.ทักษิณไปด้วย อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ สองคนนี้ขวาตกขอบและสนับสนุนการล้ม ดร.ทักษิณ  ส่วน สถุนธานินทร์ กรัยวิเชียร คนนี้ขวาตกขอบ คลั่งเจ้า บ้าหมอดู กราบไหว้หมาเป็นอาจินต์  หรือคนนอกองคมนตรี แต่เป็นคนใกล้วังอย่างนายสุเมธ เฟอรารี่  ที่ชอบดูถูกประชาชน ว่า ยังไม่ความพร้อมที่จะเป็น ประชาธิปไตย อดีตเลขาสภาพัฒน์ ตัวนี้  ทำให้แนวคิดกลุ่มคนพวกนี้เป็นจารีตนิยมสุดกู่ หนักข้ออีเปรม ยังนำเอาพลอากาศเอกชลิต รอง คมช มาร่วมงานองคมนตรีอีก ทำให้แนวคิดไปกันไม่ได้กับฝ่ายประชาชน ฝ่ายเสรีนิยม และโลกาภิวัฒน์ พวกนี้นิยมให้ประเทศเดินทางแบบเก่า สมัยอีเปรมปกครองเมื่อสามสิบปีก่อน ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยี่สื่อสาร เนต หรือเปิดประเทศมากมายนัก กลุ่มจารีตนิยมมักเห่อเหิมกับยศ ชั้น การกราบไหว้ มอบคลานของประชาชน แต่เสรีนิยม รับกับยุคเปลี่ยนผ่าน และหลักสิทธิมนุษยชน คนเท่าเทียมกัน ทำให้สองคนนี้เป็นผู้นำสองสำนักและ clash กันในที่สุด

-
3 อีเปรม เห็นใครดีไม่ได้ เห็นใครได้ไม่ดี พร้อมเป็นทหารเฒ่าที่มีความอิจฉาในกลมสันดาน  ตามคำของท่านสมัครที่วายชนม์ไปแล้ว ขี้ริษยา ใครขัดคอมักจำ และอาฆาต ไปดูที่พลตรีมนุญกฤติเล่าเรื่องอีเปรม ริษยาพลเอกเสริม ทำทุกอย่างให้ตนได้ ผบ ทบ นำประเทศรบลาวเพราะไม่พอใจลาวที่ไปคบเวียดนาม ต้องการข่มลาว พอรบแพ้ที่ร่มเกล้า อีเปรมให้ชวลิตรับผิดแทน อีเปรมเขาภูมิใจที่เป็นนายกไทยแปดปี ติดต่อกัน แม้จะมาด้วยปืน อำนาจทหารหมาหน้าตัวเมียเหล่านี้ก็ดีใจ พอดร.ทักษิณเป็นนายกปีที่หก อีเปรมจึงต้องหาทางกำจัดเสีย มิฉะนั้น ทักษิณจะเบรก record เป็นนายกแปดปี หรืออาจจะถึงสิบสองปีได้

-
4 การแต่งตั้งโยกย้ายโผทหาร ปกติ นายกฯ ทุกคนจะส่งให้อีเปรมดูและขอคำปรึกษา แต่ดร.ทักษิณไม่ทำ กลับประกาศมาได้ว่า ผ่านมือนายกแล้ว ใครแก้ไม่ได้ ทำให้อีเปรมแค้นมาก เพราะแก่หงำเหงือกไม่เคยโดนเด็กคราวลูกพูดกระทบให้เจ็บช้ำถึงปานนี้ ประกอบกับนายพลหลายคนรวมทั้งบรรณวิทย์ ก็มาร้องขอให้ป๋าช่วย แต่ป๋าทำอะไรไม่ได้ ทำให้คนแก่ดูด้อยค่า เหมือนหมาหัวเน่า  เมื่อถึงคราวที่อีเปรมต้องรุก ขึ้น บงการ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน จนถึง การสั่งลอบสังหาร ให้ดร.ทักษิณตาย ถึง 4 ครั้ง ขณะที่นายกคนอื่นก่อนหน้าที่ถูกขับไล่ไป โดนแค่ถอดจากตำแหน่ง แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ทั้ง เสนีย์ ธานินทร์ ชาติชาย แต่ไม่ใช่ ดร.ทักษิณที่เขากะเอาให้ตาย แต่กลับไม่ยอมคลานมากราบเท้า อีเปรม แต่กลับนำความที่เกิดขึ้นกับเขา บอกเหล่าให้ชาวโลกได้รับรู้ แม่เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี แล้วก็ตาม คำสัมษาณ์ของ ดร. ทักษิญ ทำเอาโลกตลึง  ไม่คิดว่า ระบอบอำมาตย์ทรราช ในไทย จะโหดร้าย ถึงขนาดนี้

-
5 ความขัดแย้งระหว่าง คนกับเหี้ย เริ่มออกอาการลามปามมาถึงเรื่องจัดงานในหลวง  อีเปรม บอก ดร.ทักษิณว่า การจัดงานฉลองในหลวงครองราชย์ 60 ปีน่ะ ขอให้ดร.ทักษิณออก เพราะคนประท้วงดร.ทักษิณมาก เป็นประธานจัดงานแล้วคนจะไม่ยอมรับ (แต่ผิดคาดภายหลังการจัดงานมีคนมาร่วมที่บรมรูปทรงม้ากว่าเจ็ดหมื่นคน)
-
ดร.ทักษิณบอก การเมืองคือ การเมือง แต่การจัดงานเทิดพระเกียรติเป็นเรื่องความจงรักภักดี ผมทำไปหมดแล้ว จัดวางคนไปแล้ว ไม่ยอมออก ถ้าออก ใครจะมาเป็นแทนผม 
-
อีเปรมบอกว่า จะรับสานงานต่อให้ ดร.ทักษิณบอกไม่เห็นด้วย เพราะการที่คนมาประท้วง ไม่ได้แปลว่าผมทำผิด คนกลุ่มใหญ่สนับสนุนผม เลือกตั้งที่ยุบสภา ผมก็ชนะอีก ไม่อาจทำตามอีเปรม แนะได้
-
และแล้ว ความร้าวลึก ระหว่าง นายกของประชาชนกับคนอย่าง เริ่ม เหี้ยก็เริ่ม 

-
อีเปรม โกรธจัด ยิ้มๆ แบบเคืองในใจ แต่สายตาแสดงออก จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่เจอกันอีก มาเจอกันอีกที ตอนงานศพพ่อทรราช พลเอกอนุพงษ์ ตาย ทักษิณยกมือไหว้ อีเปรมก็ทักว่า สบายดีหรือ ดร.ทักษิณบอกสบายดี ป๋าล่ะครับ อีเปรมสวมวิณณานพญาโศก และบอกว่า คนแก่จะเอาสบายยังไงได้ ก็แค่ครั้งสุดท้ายที่พูดในที่สาธารณะ แต่มีการเจรจาลับกันอีกหลายหน ตอนแดงประท้วงแล้วถูกฆ่ากลางกรุงในปี 52 - 53 


6 อีเปรมอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารชัดเจน จากเอกสารของวิกีลิกส์ก็บอกชัด พลเอกสนธิ บัง เคยสารภาพว่า อีเปรมพาเข้าเฝ้าเอง ไม่ใช่เขาขอเข้าเฝ้า ซึ่งหากพลเอกบังพูดความจริง การกระทำของอีเปรมคือ การไม่ผิดคำสาบานที่ปฎิญาณตนว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ แต่นี่เขากลับทำตรงข้ามคือ ฉีก รธน เสียเอง พอรัฐประหารเสร็จ สองวัน สนธิ นำคณะทหารมาคารวะอีเปรม อีเปรมสวมวิญญาน ฮองเฮา ตรวจแถวทหารชั่วเหล่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และด่า ดร.ทักษิณโดนยกคำพูดกระทบทำนองว่า คนโกง คนไม่ดี พระสยามเทวาธิราชลงโทษ

-
อีเปรมในบท ฮองเฮา ทำเสื่อมเสียพระเกียรติเพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งการเมือง ดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 14 วรรคท้าย องคมนตรีต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง แต่นี่อีเปรมเขาเสือก และโดดมาเล่นการเมืองเต็มตัว อาทิ คนไทยโชคดีที่ได้คุณอภิสิทธิเป็นนายกฯ จากการตั้งกันโดยทหาร และเป็นฆาตกร 99 ศพ ในเวลาต่อมา  หรือการเตือนจิ๋วว่า สมัครพรรคเพื่อไทยระวังจะกลายเป็นคนทรยศบ้านเมืองหรือไม่จงรักภักดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า คนเป็นระดับประธานองคมนตรีสำรอก แสดงความอิจฉาออกมาได้แบบหมาๆ ได้ถึงเพียงนี้

-
7 อีเปรมชอบหลักการ divide and rule แบบที่เขาครองตำแหน่งนายกแปดปี โดยการกดขี่ ประชาชนใต้ปกครอง ต้องการให้พรรคการเมืองอ่อนแอ มีพรรคเล็กๆ มากพรรค แต่ดร.ทักษิณสู้ตาม รธน 40 ที่ต้องการเห็นพรรคการเมืองเข้มแข็งสู้กันที่อุดมการณ์ของพรรคใหญ่ เขาต้องการให้มีการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การจัดการแบบ CEO ของภาคเอกชน วิธีคิดของสองคนนี้จึงไปคนละขอบฟ้า 

ที่สุด เมื่อมีโอกาส แก้ รธน เขาต้องการให้พรรคการเมืองพลังประชาชนถูกยุบ กระจายไปหลายพรรค แต่อีเปรมทำไม่สำเร็จ เพราะเพื่อไทยกลับได้เสียงมากกว่าสมัยพลังประชาชนคือ 265 ในการเลือกตั้ง กค 54 เพิ่มจาก 233 เสียงในปี 50 ทำให้อีเปรมผิดหวังรุนแรง กับการบนบานสารการ ในครั้งนี้
-

สถานะปัจจุบัน
จริงๆ อีเปรมรู้แล้วว่า เอา ดร.ทักษิณไม่ลง  และดูเหมือนว่า กาลเวลาที่ผ่านมา จะทำให้ ดร. ทักษิญ แข็งแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว ดร. ทักษิญเขาพร้อมจะประนีประนอมในระดับหนึ่ง 

-
แม้จะมีข่าวการต่อรอง  ให้ ดร.ทักษิณกลับ แต่เงินกว่า 47000ล้านบาทไม่คืนให้  ด้วยความเสียดายเงินของคนอื่น 

-
อีเฒ่าสารพัดพิษแห่งการเมืองไทย ตอนนี้ทำอะไรมากนักไม่ได้เพราะหลายฝ่ายไม่ยอม จะตาย วันตายพรุ้ง แต่ก็รอจังหวะเอาคืน นส.ยิ่งรักและ ดร.ทักษิณ 
-
เพียงแต่ว่า ยิ่งสู้ ยิ่งถลำลึก พร้อมความเสื่อมของสถาบัน ที่ถูกอีเปรมเอามาย้ำยี แบบชนิดเสียหมา ตั้งแต่ปี 2553 ด้วยกระสุนพระราชทาน กว่า 2 แสนนัด  

-
แม้มองภาพรวม การประเมินของฝั่ง กปปส และเหล่าทรราช คสช. จะมีกำลัง เหนือ กว่าฝ่ายประชาธิปไตย หรือประชาชนส่วยใหญ่ของประเทศอยู่ หลายขุม

-
หากมองกองทัพ การเป็นเอกภาพ สั่งได้  แม้ทหารเหล่านั้น จะกินเงินเดือนจากภาษีของ ประชาชน แต่รับใช้ ทรราช คสช. อย่างเตรียบรูปแบบ ก็ตาม 

-
หรือแม้แต่ ผู้พิทักษ์ สินติราษฎร์ ก็กลับกลายเป็น ผู้พิทักษ์ทรราช คสช. อย่างเต็มรูปแบบ เช่นกัน  


ตอนนี้คำสั่งตามกฎหมายของ ทรราช คสช.อยู่ในมือ มุ่งทำลาย นส. ยิ่งรักษณ์ อย่างน่าเกียด ด้วยข้อหา จำนำข้าว 

แต่เอาเข้าจริง อีเปรม ผู้อยู่เบื้องหลัง ทรราช คสช. และศาลตุลาการ กลับพบกับ ประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นทุกครั้งที่ นส. ยิ่งรักษณ์ ขึ้นศาล 
-

นั้นแปลว่าอะไร แปลว่า อีเปรมและ ทรราช คสช. ไม่ใช่คู่ปรับของ ดร. ทักษิญ ไม่ว่าจะมองในมุมใหน  

-
เพราะ

-
คู่ปรับที่คุณเอาชนะไม่ได้ ไม่ใช่ทักษิณ แต่เป็นประชาชน เจ้าของประเทศ  ที่เทิดทูนระบอบประชาธิปไตย ต่ะหากเล่า เรื่องจึงตาลปัตรจนทุกวันนี้ !!!

-------------------

ขอขอบคุณ ต้นฉบับที่คัดลอกมา

#เสรีชน


เป็นสิ่งที่ผมปรารถนา …..ป๋วย

เปิดอนุสาวรีย์ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เนื่องในวาระครบ 100 ปีชาตกาล

ช่วงเช้าวันนี้ ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีพิธีเปิดอนุสาวรีย์ ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เนื่องในวาระครบ 100 ปีชาตกาล ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ศ.ดร.ป๋วย เป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อประเทศไทยหลายประการ เคยเข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทยต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงมหาสงครามเอเชียบูรพาในสงครามโลกครั้งที่ 2 และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำให้เงินบาทมีเสถียรภาพและได้รับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งยังมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขณะที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองจอมพลถนอม กิตติขจร ได้เขียนจดหมายใช้นามปากกา "นายเข้ม เย็นยิ่ง" เพื่อทักท้วงการบริหารประเทศและเรียกร้องประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนก่อตั้งมูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย และตั้งหลักสูตรบัณฑิตอาสา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาได้ออกไปเรียนรู้ ทำงาน และวางแผนการพัฒนาร่วมกับชาวบ้านในชนบท

ในช่วงเหตุการณ์ปราบปรามนักศึกษาประชาชนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ศ.ดร.ป๋วย ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิการบดีในขณะนั้น ถูกโจมตีอย่างหนักจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม จนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศเป็นระยะเวลายาวนาน และเสียชีวิตลงในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2542 ที่ประเทศอังกฤษ ศ.ดร.ป๋วย ได้นำเสนองานเขียนชิ้นสำคัญชื่อ "คุณภาพชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน" ที่สะท้อนความคิดและอุดมคติของนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญของไทย และยังคงได้รับการกล่าวถึงในปัจจุบัน

Cr. BBC Thai



ก็แค่อยากเล่าให้ฟัง เมื่อ 5 มีค.58

ทรราช คสชใช้ความอยุติธรรม ตอกย้ำ อย่างชัดเจน กำจัดพี่น้องฝ่ายประชาธิปไต
-
ผมเห็นข่าวนี้ มาหลายวัน และไม่เห็นใครเอาข่าวนี้มาตีแผ่ อาจจะเป็นเพราะ พวกเขาเบื่อ หรือ สงสัยว่าเป็น ข่าวเก่า หรือไม่เห็น ฯลฯ 
-

ศาลส้นตีน ตัดสินจำคุก ประกอบไปด้วย

1.นายนิสิต สินธุไพร
2.นายสำเริง ประจำเรือ
3.นายนพพร นามเชียงใต้
4.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
5.นายสมญศฆ์ พรมมา
6.นายสิงห์ทอง บัวชุม
7.นายธนกฤต หรือ วันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี
8.นายวรชัย เหมะ
9.นายพายัพ ปั้นเกตุ
10.นายธรชัย ศักมังกร
11.นายศักดา นพสิทธิ์
12.นายวัลลภ ยังตรง
13.นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง
14.นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
15.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ 
-

หากเรามองมุมของ ฆาตกร ป๊อบคอร์นที่หลักสี่ และการสนันสนุน อย่างเป้นทางการของกลุ่ม กปปส. และ ไอ้ล้วนอิสระ - ชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูน ของไทยรัฐ อีกทั้งการระดมทุน ช่วยเหลือ และ สรรเสริญ ว่า ป็อบคอร์น คือ Hero
-
หากแต่....ผมมองว่า การตัดสิน ของศาลส้นตีน กรณีตัดสินจำคุก ป็อบคอร์น เพียง 1 คน ได้เรียกเสียง ฮือฮา ให้กับ สังคม สัสสลิ่ม อย่างเห็นได้ชัด 
-
ทั้งที่ ป็อบคอร์น คือ ฆาตกร 
-
ทั้งที่ ป็อบคอร์น ขัดขวางการเลือกตั้ง 
-
ทั้งที่ ป็อบคอร์น เป็นสมุนสนันสนุน ระบอบ เผด็จการฯ
-
หากมอง กลับมุม กรณีวันที่ 5 มี.ค.58 ศาลส้นตีนจังหวัดพัทยา ได้ตัดสิน จำคุก 15 แกนนำเสื้อแดง 4 ปี " ไม่รอลงอาญา" 
-
โดยศาลได้ใช้ส้นตีนพิเคราห์แล้ว ว่า การนำคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา นั้นเป็นความ อันใหญ่หลลวง
-
เป็นความผิดที่ ยิ่งใหญ่กว่า การฆ่าคนตายในปี 53 อย่างนั้นหรือ ?
-
เป็นความเป็นมากกว่า การยึดสถานที่ราชการ และสนามบิน อย่างนั้นหรือ ?
-
เป็นความผิด มากที่ ศรัทธาระบอบ ประชาธิปไตย อย่างนั้นหรือ ?
-
แม้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปี 52 และเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า การที่เสื้อแดงจำนวนมากไป พัทยา เพื่อต้องการไป ยื่นหนังสือ เท่านั้น
-
เหตุการณ์เกิดจาก มี กลุ่มชายเสื้อสีน้ำเงิน ที่ ไอ้ เนวิน ชิดชอบ สมุนรับใช้เผด็จการ พาพวกมาช่วย ยิง ช่วยตีคนเสื้อแดง ไม่ใช่หรือ 
-
และด้วยเหตุดังกล่าว จึงนำพาให้เสื้อแดง ต้องหลบเขาในที่ปลอดภัย ของโรงแรม ไม่ใช่หรือ 
-
สุดท้าย เราจะอยู่กัน อย่างนี้หรือ 
เราจะอยู่ใต้ตีนเผด็จการ กันอย่างนี้ ใช่ไหม 
-
ฤ. ว่าเราต้องการเห็น ลูกหลานเรา ตาย หรือไม่ก็ติดคุก เพราะ เรียกร้อง หา ความยุติธรรม หรืออย่างไร 
-
หาก อ. สุรชัย และ พ.ต.ต.เสงี่ยม อยู่เมืองไทย ก็ต้องติดคุกไปด้วยแล้ว 
-
ข่าวบอกต่ออีกว่า นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้กล่าวขณะทำเรื่องประกันตัวอยู่ที่ศาลจังหวัดพัทยา ว่า ตนเองเดินทางมาศาลตั้งแต่เช้า หลังจากฟังคำพิพากษาทุกคนมีกำลังใจดี ไม่ได้กังวลอะไร เคารพการตัดสินของศาล และพร้อมที่จะสู้โดยการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
-
ล่าสุด มีความพยายาม ขอความเมตตาจาก ศาล ส้นตีน ในชั่นอุทธรณ์ ว่าจะ ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด หรือไม่ก็ต้อง ติดตามกัน ครับ 

ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้อง เสื้อแดง ทุกคน

#เสรีชน



ทหารทรราช คสช. แม่งโง่และเสือกขยัน ก็จะพากันฉิบหาย

ทหารทรราช คสช. แม่งโง่และเสือกขยัน ก็จะพากันฉิบหาย

ความในใจของใครบางคน ที่ผมไปอ่านแล้ว โดนใจ เลยเอามาฝาก...

----------------------------

ทหารมันต้องการทำอะไร?

ถ้าจะตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ต้องตอบว่าทหารมันต้องการ "ทำเหี้ย"

คงไม่มีใครที่พอมีสมองที่จะเชื่อว่าประยุทธ์ทำรัฐประหาร เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายและคืนความสันติสุขให้กับประชาชน
-

ถ้าใครไม่แน่ใจก็ลองทบทวนบทบาทกองทัพและประยุทธ์ก็ได้ ประยุทธ์และทหารเผด็จการอื่นร่วมกันก่อรัฐประหาร ๑๙ กันยา เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากนั้นก็เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเข้าข้างฝ่ายเผด็จการ พอมันต้องจัดการเลือกตั้งอีกเพื่อดูดี ฝ่ายทักษิณก็ชนะอีก มันเลยให้ศาลทำรัฐประหารตุลาการแล้วตั้งรัฐบาล อภิสิทธ์-สุเทพ ในค่ายทหาร ต่อมาเมื่อเสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย แก๊งประยุทธ์-อนุพงษ์-อภิสิทธ์-สุเทพ ก็จัดการฆ่าคนที่ไม่มีอาวุธในมือเก้าสิบราย หลังจากนั้นมันจำเป็นต้องยอมให้มีการเลือกตั้งอีก แล้วมันก็แพ้อีกทั้งๆ ที่ประยุทธ์เสือกการเมืองโดยวิจารณ์พรรคเพื่อไทยก่อนวันเลือกตั้งเป็นประจำ ปลายปีที่แล้วประยุทธ์ก็นั่งเฉยอมยิ้มปล่อยให้อันธพาลสุเทพก่อความรุนแรงและทำลายกระบวนการเลือกตั้ง ดังนั้นข้ออ้างของประยุทธ์ในการก่อรัฐประหารฟังไม่ขึ้น ไม่ต่างจากข้ออ้างเหลวไหลของผู้ก่อรัฐประหารในอดีตทุกครั้ง

-
เราต้องหวังว่าพลเมืองผู้รักประชาธิปไตยในไทย จะจดจำชื่อของพวกทำเหี้ยทั้งหลาย เพื่อขึ้นบัญชีดำและจัดการกับพวกก่ออาชญากรรมต่อประชาชนในอนาคต ไม่ใช่ไปอโหสิกรรม นิรโทษกรรม หรือลืมคนทำชั่วแบบในอดีต ชื่อแรกๆต้นๆ ในบัญชีดำของเราต้องเป็นแก๊ง ประยุทธ์-อนุพงษ์-อภิสิทธ์-สุเทพ แต่ขอเพิ่มชื่อทักษิณเข้าไปด้วย เพราะเขาเคยก่ออาชญากรรมต่อประชาชนในปาตานี และสงครามยาเสพติดด้วย เราต้องไม่ "สองมาตรฐาน" เหมือนฝ่ายตรงข้าม

-
ทุกวันนี้เราเห็นทหารมุ่งหน้าปราบ รังแก และจำคุก คนเสื้อแดงและพลเมืองผู้รักประชาธิปไตยอื่นๆ ในขณะที่ปล่อยให้อันธพาลประชาธิปัตย์และพวกชนชั้นกลางลอยนวล แต่พวกนี้คือกลุ่มคนที่ทำลายความสงบสุขของสังคมไทยด้วยการไม่ยอมรับกติกาประชาธิปไตยตลอดแปดปีที่ผ่านมา

-
ประยุทธ์กำลังพยายามทำสงครามกับคนเสื้อแดงและพลเมืองรักประชาธิปไตยทุกคน มาตรการในการเรียกเราไปรายงานตัว ขัง บังคับให้สัญญาว่าจะไม่ทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งรวมไปถึงนักวิชาการและผู้สื่อข่าวด้วย มาตรการในการใช้ทหารบุกบ้านคน มาตรการในการพยายามคุมพื้นที่สาธารณะเมื่อมีข่าวว่าคนอาจออกมาประท้วง มาตรการในการเก็บหนังสือจากร้านหนังสือ และมาตรการในการปิดกั้นการแสดงออกในสถานที่ศึกษา ล้วนแต่เป็นมาตรการของเผด็จการสุดขั้วที่มีกลิ่นอายของระบบฟาสซิสต์ แต่มันยังไม่มีการจัดตั้ง "รัฐตำรวจ" เบ็ดเสร็จแบบที่พวกฟาสซิสต์ทำ มันคงทำไม่ได้ด้วย เพราะต้องไปฝืนใจประชาชนส่วนใหญ่อย่างหนักและต่อเนื่อง
-

กิริยาการหลงตนเองของประยุทธ์ ทั้งในเรื่องที่จะให้ประชาชนกราบไหว้ และในเรื่องที่อ้างว่าตน "ทำงานหนักเพื่อชาติ" บวกกับความโง่เขลาปัญญาอ่อนของการรณรงค์ให้ประชาชนกลับคืนสู่ความสุข ซึ่งไม่มีใครนอกจากสลิ่มที่จะเชื่อหรือไม่หัวเราะเยาะในใจนั้น ล้วนแต่เป็นเรื่องน่าสมเพช (ทหารแม่งโง่และเสือกขยัน ก็จะพากันฉิบหาย )

กิริยาต่างๆ และวิธีการของประยุทธ์ทำให้ผมนึกถึง จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอก สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ....ใช่ครับ สฤษดิ์มันหลงตนเองถึงขนาดแต่งตั้งตนเองให้เป็นหัวหน้าทุกอย่าง รวมถึงหัวหน้าจอมคอร์รับชั่นอีกด้วย

-
สฤษดิ์มันโหดร้าย จับนักต่อสู้คนดีหลายคนมายิงเป้า แต่สฤษดิ์ก็เป็นคนน่าสมเพชด้วย เป็น "จอมพลผ้าขาวม้าแดง" ที่เอาผู้หญิงไปทั่วแล้วแจกเงินรัฐจากภาษีประชาชนให้เมียน้อย และเป็นนักธุรกิจมาเฟียที่ละเมิดกฏหมายที่ตนเองมีส่วนในการร่าง ไม่ว่าจะขายน้ำมันหรือดิบุกเถื่อน หรือกอบโกยเงินใต้โต๊ะ รัฐบาลกับผู้นำประเทศอื่นๆ รู้เรื่องนี้ไปกันหมด เสียชื่อประเทศไทย แต่ต่างประเทศซีกตะวันตกยอมปิดปากเพราะสฤษดิ์เลือกจะเลียสหรัฐในยุคสงครามเย็น

-
ที่สำคัญคือ ยุคสฤษดิ์กับยุคนี้ มันต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน เวลามันผ่านไปกว่า 50 ปี วุฒิภาวะของพลเมืองไทยพัฒนาไปไกล ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น ทุกคนมีการศึกษา ทุกคนมีส่วนเสียโดยตรงจากเผด็จการ และคนส่วนใหญ่เป็นผู้ทำงานในเมืองหรือนอกภาคเกษตร เผด็จการทหารครองเมืองนานๆ ไม่ได้ ประชาชนจะลุกฮือต้านในที่สุ

-
พลเอก "น้ำนม" ประยุทธ์ไม่มีวันหมุนนาฬิกากลับได้ ไม่ว่าเขาจะฝันเปียกกี่คืนเรื่องนี้
ประเด็นคือ ประยุทธ์กับพวกประจบสอพลอรอบตัวมัน โง่เขลาเต็มตัวที่ฝันว่าจะหมุนนาฬิกากลับแบบนั้น หรือเขามีเป้าหมายอื่น?

-
เรื่องความโง่เขลาของประยุทธ์กับพรรคพวกนั้นผมพร้อมจะเชื่อ แต่มันก็เป็นไปได้อีกว่ามันไม่โง่ถึงขนาดนั้น ไม่ว่ามันจะเลวและมือเปื้อนเลือดแค่ไหน

-
ถ้าประยุทธ์กับพวกประจบสอพลอรอบตัวมันมีเป้าหมายอื่น เป้าหมายหนึ่งที่อาจเป็นไปได้คือ เขากำลังพนันครั้งใหญ่ว่า ถ้าเขาข่มขู่พวกเรา ถ้าเขาขังแกนนำ และถ้าเขาสร้างกระแสความกลัว ในไม่ช้าพวกเราจะหดหู่หมดกำลังใจ หลังจากนั้นมันก็จะเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งอีกรอบ เพื่อให้พรรคการเมืองของทักษิณและยิ่งลักษณ์ไม่มีวันชนะหรือครองอำนาจได้ เขาพนันว่าเราจะไม่สู้เรื่องนี้

-
ถ้านี่คือเป้าหมายของพวกมัน เราต้องทำทุกอย่างที่จะไม่หดหู่หมดกำลังใจหรือยอมจำนน เราอาจลดระดับการเคลื่อนไหวชั่วคราว แต่ในพื้นที่ใต้ดินเราต้องทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างเครือข่ายทางการเมือง ที่หนักแน่นกว่าเดิม พอมีโอกาสเราก็จะได้ระเบิดออกมาประท้วงและล้มเผด็จการได้
-

วันนี้ประชาธิปไตยไทยถอยหลัง แต่ในอนาคต เมื่อเราพร้อม เราจะลุกขึ้นสู้และล้มระบบอำมาตย์ทั้งหมด โค่นมันแบบถอนรากถอนโคน

ใจ อึ๊งภากรณ์