ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Thursday, January 7, 2016

‘เชคนิมร์ อัล นิมร์’เป็นใครถึงถูกซาอุฯประหาร

'เชคนิมร์ อัล นิมร์'เป็นใครถึงถูกซาอุฯประหาร

Source: http://www.komchadluek.net/detail/20160105/219972.html

'เชคนิมร์ อัล นิมร์'เป็นใครถึงถูกซาอุฯประหาร

            เชคนิมร์ อัล นิมร์ เกิดในปี 2503 ที่หมู่บ้านยากจนเมืองคาติฟ จ.ตะวันออก ( Eastern Province ) ซึ่งเป็นจังหวัดที่ร่ำรวยน้ำมันและพื้นที่ที่มีชาวชีอะห์เป็นประชากรส่วน ใหญ่ เคยไปศึกษาด้านศาสนศาสตร์ที่อิหร่านและซีเรียเป็นเวลาหลายปี ก่อนกลับบ้านเกิดในปี 2537

            เริ่มเป็นที่จับตาของหน่วยความมั่นคง หลังจากปราศรัยเรียกร้องเสรีภาพทางศาสนา สิทธิเท่าเทียมของชาวชีอะห์ และโจมตีราชวงศ์ซาอุฯ อย่างดุเดือด จนทำให้ถูกจับกุม 8 ครั้งช่วงปี 2546-2551 ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เลื่อมใสจำนวนมากโดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวที่ไม่พอใจที่ถูกเลือก ปฏิบัติจากรัฐบาลทั้งในซาอุฯ และเพื่อนบ้านบาห์เรน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชีอะห์แต่อยู่ใต้ผู้ปกครองสุหนี่

            ท่ามกลางกระแส "อาหรับ สปริง" ในปี 2554 ชาวชีอะห์ในบาห์เรนและจังหวัดตะวันออกของซาอุฯ ออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน และเชคนิมร์ กลายเป็นบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนครั้งนั้น ขณะที่รัฐบาลซาอุฯ พยายามสกัดกั้นและกวาดล้างการเคลื่อนไหว รวมถึงส่งรถถังเข้าไปช่วยฟื้นฟูความสงบในบาห์เรนด้วย

            ในสายตาของทางการซาอุฯแล้ว เชคนิมร์ อัล นิมร์ และบรรดาแกนนำชีอะห์อื่นๆคือสมุนอิหร่าน ศัตรูตัวฉกาจในขั้วอุดมการณ์ตรงข้าม

            อย่างไรก็ดี แม้ เป็นที่รู้จักเรื่องการใช้ถ้อยคำดุเดือดในการปราศรัย แต่ไม่เคยมีหลักฐานว่านักการศาสนาเรียกร้องให้ต่อต้านขัดขืนโดยจับอาวุธขึ้น สู้ หรือใช้ความรุนแรง

            เชคนิมร์ เคยให้สัมภาษณ์บีบีซีในปี 2554 ก่อนถูกจับว่า สนับสนุนให้ใช้ถ้อยคำเป็นอาวุธ พลังแห่งถ้อยคำแข็งแกร่งยิ่งกว่า และการต่อสู้ด้วยอาวุธ ทางการจะได้ประโยชน์

            ถึงกระนั้น ทางการเข้าจับกุมตัวในปีถัดไป และเป็นชนวนประท้วงระลอกใหม่อีกในจังหวัดตะวันออก หลังจากมีคลิปที่เชคนิมร์อยู่ในสภาพบาดเจ็บขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้า หน้าที่ ทางการระบุว่า เขาบาดเจ็บที่ขา จากการยิงต่อสู้ขัดขืน

            เดือนตุลาคม 2557 เชคนิมร์ถูกศาลพิเศษที่ซาอุฯตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 เพื่อตัดสินคดีก่อการร้าย พิพากษาว่า มีความผิดในหลายข้อหา รวมถึงยุยงให้เกิดความกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ สร้างความแตกแยกทางนิกาย ไม่จงรักภักดีต่อกษัตริย์อับดุลเลาะห์ ณ ขณะนั้น ด้านน้องชายของเขากล่าวว่า หนึ่งในข้อหาคือยุยงให้ต่างชาติแทรกแซงซาอุฯ

            ต่อมา ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

            กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและชุมชนมุสลิมนิกายชีอะห์ ต่างประณามการดำเนินคดีว่าไม่เป็นธรรม จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ทนายเข้าให้คำแนะนำระหว่างสอบสวน และแจ้งข้อหาคลุมเครือ การตัดสินประหารเป็นความพยายามบดขยี้ผู้เห็นต่างที่มีแต่จะเพิ่มความ ตึงเครียดระหว่างนิกาย

            นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ในปี 2555 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่นักการศาสนาท่านนี้ ปราศรัยแสดงความยินดีกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายนาเยฟ บิน อับดุลลาซิส รัฐมนตรีมหาดไทยในขณะนั้นตอนหนึ่งว่า "บุคคลผู้นี้จะถูกหนอนกิน และทุกข์ทรมานในสุสานนรก คนที่ทำให้ชีวิตของพวกเราตกอยู่ในความกลัวและหวาดผวาเช่นนี้ พวกเราควรยินดีกับการตายของเขาหรือไม่"

            ปัจจุบัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบการประหารคือ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ พระโอรสของเจ้าชายบินนาเยฟ

            นายโทบี แมททีสเซน นักวิจัยอาวุโสด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในตะวันออกกลาง ที่ศูนย์ตะวันออกกลางมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

            ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้เห็นต่างชีอะห์ในซาอุฯ ทวิตเมื่อสุดสัปดาห์ว่า แม้ซาอุฯ ประหารนักโทษจำนวนมาก แต่ การประหารเชคอัล นิมร์ เป็นการประหารผู้เห็นต่างทางการเมืองครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

            และก่อนหน้านี้ แมททีสเซน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างชีอะห์กับสุหนี่ทั้งในซาอุฯ และทั่วตะวันออกกลางย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายสิบปี ชุมชนชาวชีอะห์ในซาอุฯ ตกเป็นเป้าโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายหลายระลอก ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลริยาดกับเตหะรานตกต่ำสุดขีด ซาอุฯ เป็นผู้นำทัพเข้าแทรกแซงสงครามในเยเมน ทำให้เยเมนเป็นสมรภูมิระหว่างแนวร่วมอาหรับสุหนี่นำโดยซาอุฯ กับกบฏฮูที ซึ่งเป็นชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ส่วนวิกฤติการณ์ซีเรีย อิหร่านหนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ส่วนซาอุฯ หนุนกลุ่มกบฏที่มุ่งโค่นอัสซาด

            นักวิจัยท่านนี้กล่าวด้วยว่า ซาอุฯ ภายใต้กษัตริย์พระองค์ใหม่ มีกระแสแตกแยกนิกายเพิ่มขึ้นมาก การกวาดล้างมุสลิมชีอะห์ชนส่วนน้อยรุนแรงกว่าแต่ก่อน แต่เป็นมาตรการที่คนจำนวนมากนิยมชมชอบ

            ( ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2559 )

ที่มา : เอเอฟพี นิวยอร์คไทมส์

ร่วมให้กำลังใจ กลุ่มประชาธิปไตยใหม่!!! 8 ม.ค.

วันที่ 8 มกราคม 2558(พรุ่งนี้) จะเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้ทั้ง 11 คนไปรายงานตัว ร่วมให้กำลังใจพวกเขา เพื่อต่อต้านความไม่เป็นธรรม

แล้วพบกันครับ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=GziF8HCoRjc&feature=youtu.be

นักสู้ผู้ลึกล้ำ(?) บอกว่า "มดแดงล้มช้าง=เพ้อฝัน ไปเน้นโครงการหาเงินดีกว่า"..ถุยส์

ดร.เพียงดิน 7 ม.ค. 2016
ตอน นักสู้ผู้ลึกล้ำ(?) บอกว่า "มดแดงล้มช้าง=เพ้อฝัน 
ไปเน้นโครงการหาเงินดีกว่า"..ถุยส์
mp3 21.6M 2 ช.ม. 6 นาที


ทหารของพระราชา คสช.​สร้างชื่อกระฉ่อน กับ "โครงการราชภักดิ์"

เชื่อหรือไม....ว่า

โครงการราชภักดิ์ เป็นโครงการที่ คสช.ได้สร้างชื่อเสียไว้ขนาดเรียกความสนใจของคนทั้งโลกได้ แต่ที่ขอตั้งคำถามไปถึงโดยตรงเลยคือ "นายประมนต์ สุธีวงศ์" ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (องค์กรคนดีที่มีคดีความเรื่องโกงภาษี) ที่เงียบเหมือนเป่าสาก

ส่วนพี่น้อง เสรีไทย ก็มีการทำคลิปวีดีโอ ออกมาเผยแพร่ว่าด้วยการโกงของทหารในครั้งนี้ แต่สื่อ ออกไปในด้านเสียงเพลง 

เสรีไทย เสนอ คสช. มันก็ทำตามสันดาน​นนนนน 



ส่วนนักการเมือง ข้าราชการใหญ่ และเลขาเสรีไทยคนดัง อย่างท่าน จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ก็ออกมาตีแผ่และกล่าวไว้ในคลิป ของการสัมนาข้ามโลก ครั้งที่ 4 ว่าเป็นการ  โกงทั้งแผ่นดิน


การที่คสช. โกงและแอบอ้างเบื้องสูงหาเงินเข้ากระเป่าตนเอง ครั้งนี้ ยิ่งกว่าสร้างรอยด่างไว้ให้กับแผ่นดินนี้เท่านั้น

หากยังสร้างเรื่องเสื่อมเสียถึงพระองค์ท่านให้เสียหายอย่างไม่อาจมีอะไรมาทดแทนได้ไม่ว่าจะเป็นการตาย ของคนที่เข้ามาโดน 112 และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตครั้งนี้ หลายต่อหลายราย ที่เป็นข่าว 

ส่วนที่ไม่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็น ประวุฒิ ถาวรศิริ - ไอ้โจ้ - ไอ้โต  และอีกหลายคน ในสายราชองค์ลักณ์ ก็ล้วยแต่ต้องหนีหรือไมก็ต้องลาออกเพื่อเปลี่ยนอาชีพใหม่ แม้จะมียศใหญ่โตอยู่ในกองทัพก็ตาม

การโกงราชภักดิ์ครั้งนี้ลามไปถึงตำรวจในกองปราบอีกหลายคน สายของปรากรม ที่ล่วงลับไปก่อนหน้า ด้วยการผูกคอตายในห้องในห้องไม่มีที่ผูกคอได้

การตีแผ่การโกงราชภักดิ์ ครั้งนี้ สามารถปลุก คนอย่างจตุพร และณัฐวุฒิ ที่ทำตัวเงียบหลังรัฐประหาร ให้ออกมาเคลื่อนไหวได้ ถึงแม้จะเดินไปไม่ถึงหัวหินก็ตาม 

หากแต่เหมือนการปลุก พี่น้องประชาชนที่หลับไหล  และสะกิดต้อมกระตุ้นจิตสำนึกต้านโกงของคนไทย ให้ออกจากบ้านมาที่โครงการราชภักดิ์ 

ไม่ว่าจะเป็นผังตีแผ่ ถึงการโกงครั้งนี้ รวมถึงเมียผู้นำคสช. ก็มีรายชื่อในการโกงครั้งนี้ด้วย ไม่เว้นแม้กระทั้งกลุ่ม จ่านิว ก็เคลื่อไหว แม้จะไปไม่ถึงโครงการราชภักดิ์ก็ตาม เพราะถูก ทหาร คสช. ตัดตู้รถไฟ ดักจับกลางทาง จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ของการใช้อำนาจ กดขี่ ข่มเห่งประชาชน ในครั้งนี้ จนทำให้ น้องๆ ที่ธรรมศาสตร์ ออกมาประกาศโต้ ถึงกรณีนี้

ประชาธิปไตยใหม่ ถึง ราชภักดิ์1- 2  




จริงอยู่ คสช.ออกมาเป่าประกาศเสมอๆว่า ไม่เคยมีปัญหา ไม่มีการโกง ทั้งยังสนันสนุนการต่อต้านคอร์รัปชัน ใครโกงต้องรับโทษ นี่คือจุดยืนที่ชัดเจน ของคสช. หากแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม เพราะคสช.ขัดขวางและกุมขัง นักศึกษาและประชาชนกว่า 30 ชีวิตในวันนั้น

แม้ล่าสุด ผุ้นำ คสช. ก็ได้เรียก "บิ๊กต๊อก"  ให้ปิดปากเงียบเรื่องโครงการราชภักดิ์  หลังที่   

"บิ๊กต๊อก" ตอกฝาโลงราชภักดิ์ ? "มีคนทุจริต" 



ดูเหมือนว่า ผู้นำคสช. "ทำไมเงียบกรณีโกงอุทยานราชภักดิ์" แต่ประชาชนก็เห็นกันอยู่ตำตา พร้อมสื่อทุกแขนงต่างๆ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็แฉกันชนิดที่เละไปหมด มันชัดเจนว่ามีการโกงอย่างมหาศาล จริง

แม้การกล่าวของ ผู้นำ คสช.จะออกมาปัดว่า การตีข่าวของโครงการราชภักดิ์นั้น เพื่อกลบข่าวโครงการ จำนำข้าว ของนายก ยิ่งลักษณ์

แม้จะมีองค์กรและสื่อ มากมายพยายามจะประโคมโหมข่าว  แต่เรื่องนี้ องค์กรภาครัฐ ที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ต่างปิดปากเงียบ ทั้งไม่แตะเลย กับการโกงครั้งนี้


ส่วน บีบีซีไทย - BBC Thai  (ก็กล่าวถึงโครงการราชภักดิ์ว่า)

คุณค้นหาเรื่องราวอะไรกัน

Google เผยสุดยอดคำค้นหาประจำปี 2558 "อุทยานราชภักดิ์" ติดอันดับหนึ่ง ส่วน "หมอหยองทำอะไรผิด" ติดอันดับ 1 ใน 10 เรื่องที่คนอยากรู้มากที่สุด ชี้ 10 อันดับคำค้นล้วนเป็นเรื่องบันเทิงบ่งบอกว่าคนไทยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น


Google เปิดเผยผลการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า "Year in Search" หรือ "1 ปีแห่งการค้นหา" ผ่านการสำรวจเพื่อตอบความสงสัยที่เกิดขึ้นจากคำค้นจำนวนกว่าล้านล้านคำในแต่ละปี โดยในปีนี้ผลการสำรวจพบว่า 10 อันดับคำค้นที่คนไทยให้ความสนใจล้วนเป็นเรื่องบันเทิงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงเชือกวิเศษของวงลาบานูน หรือซีรีส์ไทยอย่างรักนะเป็ดโง่ และเพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน

ในแง่คำค้นหมวดข่าวดังในประเทศ ข่าวของแตงโมมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่เรื่องโรฮิงญา ระเบิดราชประสงค์ อุทยานราชภักดิ์ และ Single Gateway อยู่ใน 10 อันดับที่คนให้ความสนใจ ในแง่ของข่าวต่างประเทศ คนไทยค้นหาเรื่องแผ่นดินไหวเนปาล ข่าว Charlie Hebdo ISIS ไปจนถึงข่าวปารีส

ส่วนคำค้นในหมวดสถานที่ท่องเที่ยว 

อุทยานราชภักดิ์ มาเป็นอันดับ 1 และในหมวดของการเสาะแสวงหาความรู้ คำว่า หมอหยองทำอะไรผิด ติดอันดับเช่นเดียวกับคำว่าบางระจันทำศึกกี่ครั้ง ทำไมถึงเรียกส้มตำ กับสิ่งที่ควรทำก่อนอายุ 40 เป็นต้น

Google เปิดเผยด้วยว่าผลการค้นหาชี้ให้เห็นว่าคนไทยหันมาค้นหาข่าวสำคัญผ่านเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยข่าวกอสซิปของบุคคลในแวดวงบันเทิงยังเป็นเรื่องที่คนไทยเกาะติด การให้ความสนใจในเรื่องที่ให้ความบันเทิงแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น


*****

#เสรีชน

เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
1. หวีผมบ่อยๆ: หวีผมเบาๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบาหน่อย เพื่อกันผมหลุด)

2. ถูใบหน้าบ่อยๆ: ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถู หน้าเบาๆ บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง

3. เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ: ให้มองไกล-มองใกล้ มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง หรือจ้อง อะไรนานๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง

4. กระตุ้นใบหูบ่อยๆ: การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน(จุดฝังเข็ม) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว

5. ขบฟันบ่อยๆ: ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย(ไม่ใช่ขบแรงดังกรอดๆ) ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

6. ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อยๆ: การใช้ปลายลิ้น กระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลัง ลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง และส่วนหน้าร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย

7. กลืนน้ำลายบ่อยๆ:การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร

8. หมั่นขับของเสีย: หมั่นขับของเสีย โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย ออกกำลัง เพื่อ ป้องกันท้องผูก เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็น การทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกินทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึมสารพิษ ( กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย

9. ถูหรือนวดท้องบ่อยๆ: ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบาๆ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น

10. ขมิบก้นบ่อยๆ: การขมิบก้นบ่อยๆ ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก

11. เคลื่อนไหวทุกข้อ: การอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย ควรเคลื่อน ไหวข้อต่างๆ ให้ครบทุกข้อทุกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล เช่น การฝึกชี่กง ไท ้เก้ก โยคะ ฯลฯ

12. ถูผิวหนังบ่อยๆ: ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ มีส่วนช่วยให้ เลือดและพลังไหลเวียนดี
เรียนเชิญท่านผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพ พลัง และลมปราณที่ดีไป นานๆ ครับ...
ท่านอาจารย์นายแพทย์ภาสกิจ(วิทวัส) วัณนาวิบูล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแพทย์ แผนจีนแนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนว่า อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกิน นำแนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์โดย ใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบันประกอบ..

อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินได้แก่...

1. ไข่เยี่ยวม้า: ไข่เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลงกินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ

2. ปาท่องโก๋: กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปน เปื้อน ตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย

3. เนื้อย่าง: กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

4. ผักดอง: ผักดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน หรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิดสารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง

5. ตับหมู: ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น

6. ผักขม ปวยเล้ง: ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมากทำให้เกิดการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้

7. บะหมี่สำเร็จรูป: บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดอาหารและการสะสมสารพิษได้

Pongrapat Thanatdachawat's photo.