องค์กรสื่อเล็งเผยแพร่เจตนารมณ์ "ประวิตร โรจนพฤกษ์" หลังถูก คสช.สั่งห้ามเข้าร่วมประชุมวันเสรีภาพสื่อโลก
-
องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 5 เม.ย.
-
ประณามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่อนุญาตให้นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส เว็บไซต์ข่าวสดภาษาอังกฤษ เดินทางออกนอกประเทศไทย เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมเนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World Press Freedom Day) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ในวันที่ 3 พ.ค.2559
-
อีกด้านหนึ่ง นสพ.เดอะการ์เดียนของอังกฤษ ได้เผยแพร่บทความเขียนโดยนายประวิตร ระบุว่าการที่ คสช.ไม่อนุญาตให้ตนไปเข้าร่วมการประชุมที่เฮลซิงกิ ถือเป็นการละเมิดเสรีภาพในการเดินทาง ซึ่งเรื่องนี้ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. ระบุว่านายประวิตรละเมิดคำสั่งของ คสช.ด้วยการเผยแพร่ข้อความโจมตี คสช.ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
นายประวิตรระบุว่าลึกแล้ว ๆ รัฐบาลทหารไทยตระหนักว่าการดำรงอยู่ของตนไม่มีความชอบธรรม จึงหวาดระแวงและหาทางสกัดกั้นผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน ทั้งในโลกออนไลน์และโลกจริง และผู้ที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ คสช.ได้พยายามแสดงการต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆ เท่าที่จะทำได้ คนเหล่านั้นต้องเผชิญกับการล่วงละเมิดเสรีภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร การถูกยึดหนังสือเดินทาง และอายัดทรัพย์
-
ด้านนายปราเมศร์ เหล็กเพชร อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ระบุว่าการควบคุมหรือจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน ย่อมส่งผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชนทั่วไปเช่นกัน เพราะหากสื่อไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเสรีภาพ ประชาชนก็จะไม่มีโอกาสได้รับรู้ข้อเท็จจริง
-
ก่อนหน้านี้ เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยได้กล่าวในนามของกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ว่าเป็นเรื่องน่าเสียใจที่ คสช. ไม่อนุญาตให้นายประวิตรเดินทางไปร่วมการประชุมดังกล่าว
-
ส่วนนายเบนจามิน อิสมาอิล ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกของ RSF ระบุว่าการล่วงละเมิดอย่างโจ่งแจ้งต่อสิทธิในการเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพของสื่อมวลชนอิสระ ซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน จะทำให้เกิดผลกระทบตามมา และเห็นได้ชัดว่านายประวิตรอาจต้องเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือการออกแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษแทนการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม
-
ทางอาร์เอสเอฟจะแปลแถลงการณ์ของนายประวิตรเป็นภาษาไทยและฝรั่งเศส เพื่อเผยแพร่ต่อไปยังเครือข่ายสื่อมวลชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เรื่องเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร และให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เรียนรู้เรื่องปรากฏการณ์สตรัยแซนด์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าความพยายามปิดกั้นข้อมูลข่าวสารส่งผลสะท้อนมุมกลับ ทำให้ข้อมูลที่ต้องการปกปิดกลายเป็นประเด็นที่มีคนสนใจใคร่รู้มากยิ่งขึ้น โดยอ้างอิงถึงกรณี "บาร์บรา สตรัยแซนด์" นักร้องชื่อดังชาวอเมริกัน ฟ้องร้องช่างภาพไม่ให้เผยแพร่ภาพบ้านพักของตนในปี 2546 แต่กลับทำให้ชาวอเมริกันนับล้านคนได้เห็นภาพที่นักร้องดังต้องการปิดกั้นแทน
Cr.BBC
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.