Via #กูต้องใด้ 100 ล้าน
การพัฒนาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศในปี 2558-2559 ระยะเร่งด่วน 20 โครงการ
วงเงินรวม 1.796 ล้านล้านบาท
#โครงการที่ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คือ
1. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามกับผู้รับเหมาเพื่อเริ่มก่อสร้างไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะใช้เวลาดำเนินการรวม 36 เดือน จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในเดือนมกราคม 2562
2. ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ที่แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 13 สัญญา กรมทางหลวง (ทล.) ได้ประกวดราคาและเริ่มทยอยลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลเพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562
3. โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 1.86 พันล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้ว โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามกับบริษัทผู้รับเหมาไปเมื่อเดือนธันวาคม 2558 กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เปิดให้บริการในปี 2561
#โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา
4. มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 8.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 40 สัญญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างประกวดราคางานโยธา โดยได้เปิดซองประกวดราคาตอนที่ 7 ทางแยกต่างระดับสระบุรีแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนต่อรองราคา คาดว่า ทล.จะลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 29 เมษายนนี้ ส่วนตอนที่เหลืออยู่ระหว่างประกวดราคาเช่นเดียวกัน กำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2563
5. การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงิน 5.16 หมื่นล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ประกาศขายซองประกวดราคาแล้ว 2 งาน คือ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค กำหนดให้ยื่นซองวันที่ 21 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้
6. การพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 1 วงเงิน 2 พันล้านบาท ได้ประกวดราคาแล้ว โดยจะลงนามในสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาในเดือนเมษายนนี้ เริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม แล้วเสร็จปี 2561
#โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อจัดทำรายละเอียดประกวดราคา
7. รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 5.34 หมื่นล้านบาท ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะใช้เวลา 3 เดือนกำหนดรายละเอียดต่างๆ จากนั้นจะเปิดประกวดราคาได้ในเดือนมิถุนายน มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการปี 2562
8. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท ก็เป็นอีกโครงการที่ ครม.ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา รฟม.จะใช้เวลา 3 เดือน กำหนดรายละเอียดก่อนเปิดประกวดราคาได้เดือนมิถุนายน ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดบริการปี 2562 เช่นเดียวกัน
#โครงการที่บอร์ดอนุมัติ -คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติ และอยู่ระหว่างการเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.
9. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.98 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติโครงการแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ไม่เกินเดือนกันยายน ลงนามในสัญญาเดือนตุลาคม ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2562
10. รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.48 หมื่นล้านบาท บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติแล้วเช่นเดียวกัน อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้า ครม.อนุมัติ คาดว่าจะประกวดราคาได้ระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562
11. รถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.72 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอ ครม.อนุมัติแล้ว มีกำหนดประกวดราคาไม่เกินเดือนสิงหาคม ลงนามในสัญญากันยายน ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2562
12. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท บอร์ด รฟม.อนุมัติแล้ว กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอ ครม.ในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน กำหนดรายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างได้
#โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน
13. มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 5.56 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ แบ่งก่อสร้างออกเป็น 25 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา กำหนดลงนามกับผู้รับเหมาได้ในวันที่ 31 กรกฎาคม แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปี 2563
14. รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างขั้นตอนอีไอเอเช่นเดียวกัน กำหนดประกวดราคาระหว่างเดือนกรกฎาคม?พฤศจิกายน ลงนามในสัญญาเดือนธันวาคม ก่อสร้างเสร็จเดือนธันวาคม 2562
15. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างอีไอเอเพิ่มเติมส่วนต่อขยายช่วงราษฎร์บูรณะ-วงแหวนกาญจนาภิเษก ประมาณ 5 กม. เพราะมีการย้ายศูนย์ซ่อมบำรุงออกไป ตามแผนเดิมจะเข้า ครม.ในเดือนเมษายนนี้
#โครงการที่เหลือก็อยู่ระหว่างดำเนินการ
16. โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กม. วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท #ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดการดำเนินโครงการโดยเฉพาะเรื่องของแหล่งเงินกู้รวมถึงวงเงินค่าก่อสร้างที่ชัดเจน หลังได้กำหนดให้ไทยลงทุนเองทั้งหมด แต่ยังใช้เทคโนโลยีของจีนตามกรอบความร่วมมือเดิม ซึ่งไทยและจีนจะมีการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งที่ 10 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หลังเทศกาลสงกรานต์ ตั้งเป้าหมายก่อสร้างระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เปิดบริการปี 2562
17. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 9.46 หมื่นล้านบาท เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดำเนินการตามกระบวนการให้เอกชนร่วมทุน(พีพีพี)ต่อไป
18. รถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงิน 1.52 แสนล้านบาท ได้เสนอรายละเอียดผลการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการร่วมทุน และการบริหารโครงการเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อนำเสนอ สคร.ดำเนินการตามกระบวนการพีพีพีแล้วเช่นเดียวกัน
19. โครงการความร่วมมือด้านระบบรางไทย-ญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กม. ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของทางญี่ปุ่น คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2561
20. ระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 21 กม. วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ร.ฟ.ท.คาดว่าจะประกวดราคาได้เดือนกรกฎาคมนี้
#เพิ่มเติมโครงการเร่งด่วน
กระทรวงคมนาคม จะนำส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท และช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ขึ้นมาเป็นโครงการระยะเร่งด่วนด้วย
ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแบบ
คาดว่าอีก 2-3 เดือน จะเสนอ ครม.ได้
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้อนุมัติรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่เพิ่มเติมอีก 2 สาย คือ
- สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 363 กม. วงเงิน 7.69 หมื่นล้านบาท
- สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท
รวมวงเงิน 2 โครงการกว่า 1.37 แสนล้านบาท
หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อน ครม. เห็นชอบโครงการภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้
จากนั้นจะจัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) และเปิดประกวดราคาได้ภายในเดือนตุลาคม 2559-มกราคม 2560 โดยจะดำเนินการควบคู่กับการเวนคืนที่ดินและอีไอเอ
คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2561 จากนั้นจึงจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 48 เดือน แล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565
จะเดินหน้าได้ตามแผนงานที่กำหนดจริงหรือไม่
------ > ประชาชนมัวสนใจเรื่องอื่นๆ และเรื่องปากหมา
จนลืมไปว่า ไอ้ตู่มันอนุมัติงบประมาณได้มหาศาล
เงินภาษีประชาชน เงินกู้ เงินอนาคตทั้งนั้น
ค่าหัวคิวยุคนี้ 30-40% ผู้รับเหมาต่างรู้กันดี
กว่าจะเสร็จงานร่างรัฐธรรมนูญ คงอนุมัติกันไปอีกหลายโครงการ
และแน่นอนมีหลายคนกระเป๋าตุง สบายใจเฉิบ
นี่คสช.ต้านคอรัปชั่นจริงๆ ใช่ไหม?
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.