ยินดีต้อนรับ
Sunday, September 20, 2015
ที่ประชุมสหภาพยุโรป ลงมติ คว่ำบาตร ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย 13 ก.ค. 2558
ที่ประชุมสหภาพยุโรป ลงมติ คว่ำบาตร ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย ความตกลง ความร่วมมือความช่วยเหลือ แม้แต่การเดินทางมาเยือนประเทศไทย ถูกระงับทั้งหมด
บนเงื่อนไขจนกว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไปแล้วค่อยคุยกันใหม่ ตอนนี้ระงับความสัมพันธ์ชั่วคราว ซึ่งไม่เฉพาะ อียู เท่านั้น ทั้งสหรัฐฯ ทั้งประเทศมุสลิม หรือกรณี ประเทศตุรกี ที่ออกแถลงการณ์ ต่อกรณีที่ไทยส่ง ชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และมีการกระทำที่ขัดต่อหลักการมนุษยชน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยยิ่งถูกเพ่งเล็ง เข้าไปอีก
การเคลื่อนไหว ทางการเมืองในประเทศไทย แม้แต่เข็มหล่น ก็รู้กันไปทั่วโลก การจับกุมนักศึกษา และผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง หรือการเข้มงวดตรวจสอบการทำงานของสื่อ อียู หยิบมาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ คว่ำบาตร ประเทศไทยเช่นกัน
ความสัมพันธ์ปัจจุบัน เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบผิวเผิน ที่ประเทศเหล่านั้นจะได้ประโยชน์จากประเทศไทยมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคม หรือการกู้ยืมเงิน แต่ในหลักการประชาธิปไตย ประเทศเหล่านั้นก็ยังยืนหยัดจะเอารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ดี
ตั้งแต่ นี้เป็นต้นไป แรงเสียดทานจากระบอบประชาธิปไตย จะทวีความเข้มข้นขึ้น รัฐบาลจะใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามก็ยิ่งจะส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เช่นกัน
นี่ไม่ใช่หมากเกมทางการเมือง ที่ คสช.หวาดระแวง แต่เป็นปรากฏการณ์ความจริงวันนี้ ที่ไม่ว่าประเทศไทย หรือประเทศไหนก็ตาม ที่ไม่ได้อยู่ในวิถีของระบอบประชาธิปไตยก็จะเจอกับมาตรการเหล่านี้
อยาก ให้ดูตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านที่จะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า มีความพยายามจากฝ่ายรัฐบาลทหาร ที่จะแก้รัฐธรรมนูญ จับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมัดมือมัดเท้ามัดปาก ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
ทำทุกวิถีทางที่จะรักษาอำนาจเอาไว้ให้ได้
แต่ ในที่สุดแล้วความหมายของระบอบประชาธิปไตย คืออำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน จะใช้ปลายกระบอกปืนชี้ไปทางไหน ก็ไม่ยั่งยืนถาวร เท่ากับอำนาจการตัดสินใจของประชาชน
จะจินตนาการให้พรรคการเมืองต้อง เป็นอย่างนั้น ให้นายกฯ ต้องมาจากคนนอก ให้พรรคนี้ต้องจับมือกับพรรคโน้น ให้คนนี้อยู่ให้คนนั้นไป แล้วการยึดอำนาจจะไม่สูญเปล่า ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีของประชาธิปไตยได้
เพราะระบอบ ประชาธิปไตยจะต้องไม่ถูกครอบงำทางความคิดจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้ถูกลิขิตโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่ละเมิดความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
เพราะคนไทยไม่ได้กินแกลบกินรำ.
หมัดเหล็ก
ชูวิทย์ I'm No.5 แด่น้องตั๊น : ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา
ชูวิทย์ I'm No.5
ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา
เธอเป็นแกนนำการประท้วงร่วมกับสุเทพแห่ง กปปส.
เธอเป็นลูกคนรวยตระกูลดังน้ำเมาแห่งชาติ
เธอเป็นดาวเด่นเด็กปั้นของประชาธิปัตย์
เธอคิดจะสอยดาวมาประดับไว้บนบ่า เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล
แต่เธอไม่สามารถเรียกความรักความศรัทธาจากบรรดาพี่น้องตำรวจได้
เพราะแม้แต่ผมเองที่เคยแฉความไม่ชอบมาพากลของวงการตำรวจมามากมาย ก็ไม่เคยยุยงส่งเสริมให้ใครไปรื้อทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะรู้อยู่ว่าท้ายสุด "เสือย่อมไม่กินเนื้อเสือ"
แต่เธอและเครือข่ายของสุเทพ สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามลงจากอำนาจ ทั้งบุกสถานที่ราชการ ปิดถนนโดยไม่คิดถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน หรือแม้กระทั่งหยามศักดิ์ศรี ย่ำยีสัญลักษณ์ของตำรวจ
แล้วจนถึงบัดนี้ เธอยังจะมีความฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตำรวจอีกหรือ?
ผมว่าเธอสามารถมีแฟนเป็นตำรวจหรือแม้แต่แต่งงานกับตำรวจ สังคมไทยคงยอมรับได้
แต่การที่จะสมัครเป็นตำรวจเสียเองคงเหลือเกินจะรับไหว หรือนี่คือการปฏิรูปตำรวจอย่างที่ป่าวประกาศเสียงแจ้วๆบนเวที กปปส.?
โบราณเขาถึงมักบอกพวกที่ทำอะไรโดยไม่มองดูตัวเองว่า "ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา" เสียบ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร