ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Monday, September 14, 2015

ข่าวลือกระพือลับ ธนศักดิ์ นายทหารควายขี้เท่อ...วีรกรรมที่ กระทรวงการต่างประเทศ

กระทรวงต่างประเทศโล่งใจได้ไม่นาน ไล่ทหารควายขี้เท่อ ธนะศักดิ์กลับแล้ว ขอบคุณหน่วยสะกัดจุดของท่านรัฐมนตรีดอนจะได้ผลชงักงันดีจังเลย ขยายผลเรื่องชอบใช้งบบานๆของธนะศักดิ์ มีข้อหาติดตัวหลักควงเมียกินฟรี เที่ยวฟรี สั่งให้แต่กระทรวง กต.ควัก แค่ไปบอกรักจีนมันไม่คุ้มราคาค่าโง่รัฐมนตรี ผลาญค่าโรงแรม ค่ารับรองของสองผัว-เมียคางคกอัพเกรดได้กระดอนเร็วกว่าที่คิด ฝากแผลใจไว้ให้ดูต่างหน้าอีกเรื่อง อดีตรัฐมนตรีธนะศักดิ์สั่งทำโทษข้าราชการสาวให้วิ่งรอบเสาธง หน้ากระทรวง อุต๊ะ!! เหวอ..ฮือฮากันลั่นทุ่งบัวแก้ว บ้างก็วิจารณ์ออกรสท่านธนะศักดิ์โรคจิตติดนิสัยมาจากกองทัพไทย ขยันสั่งทหารหญิงวิ่ง แอบเลียปากดูก้นบิดๆของเหล่านักรบสาว เพื่อนายพลเสี่ยวๆเขาก็ทนกัน แต่ข้าราชการสาวใน กต.ยังไม่ชินกันร้องให้นำ้ตา 3 ตุ่ม กลุ้มกับนายพลลายพรางหางลายพร้อย ...จบข่าวรัฐมนตรีเก่า...คิวลัดไปเกาะรัฐมนตรีคนใหม่ มาจากรัฐมนตรีช่วยแซะนั่นเอง  นายดอนได้หย่อนนั่งเก้าอี้ตัวโปรด ยิ้มร่าได้พักเดียว ขย่ม.. ฑูต ภูตผีปีศาจที่สิงกระทรวงต่างประเทศหงายเงิบ เมื่อดอนเสียบพากันเข้าขากับนางอภิรดี จะชวนค้าขายกัน จินตาการไกลโข พอเดินออกห้องประชุมมานายดอนสั่งฑูตทุกประเทศ ต้องทำหน้าที่ขายสินค้าเกษตรของไทยให้ได้ทุกคน .. มะว้าก.. ตายห่าแล้ว คิดว่าดอน- อภิรดีจะลากกันไปดี เป็นถึงอดีตปลัดใหญ่ทั้งคูกลายเป็นมาปลัดขิกทันตาเห็น จะขายจิตวิญญาณให้ทหารอะไรก็ไม่ว่าหรอก แต่พวกฑูตเขาขอให้แหกขาหน้าดู คนไทยไปเมืองนอกเดินบนถนน ยังบอกเป็นคนไทยไม่ได้เลย  จะให้ลากเทวดาองค์ไหนไปก็ไม่ปลอดภัย อย่าฝันไกลถึงเรื่องค้าขายกับใคร .. ทางออกที่ดีคือให้รัฐมนตรีดอน เชิญสองรัฐมนตรีหน้ารับแขกอย่างนางอภิรดี รัฐมนตรีพานิช- นางกนกกาญจน์รัฐมนตรีการท่องเที่ยวโลกสวย ไปเดินอมกล้วย ดูดกล้วย ขายกล้วยทอดบนถนนเมืองนอก ชวนคนมาซื้อของไทย แล้วผลออกเป็นมาเป็นหมู่หรือจ่ายังไง ค่อยมาว่ากันใหม่ ถ้าอวัยวะยังนางสองตัวยังอยู่ครบ ค่อยเวียนมาสั่งการให้ฑูตไปขายมังคุด มะกรูด ลำใย ทุเรียน OKay ด่วย... อย่าผวน

ระดมสวดมนต์อวยในหลวงกันอีกรอบแล้ว

ระดมสวดมนต์อวยกันอีกรอบแล้ว  เนื้อหามีดังนี้
(จากไลน์กลุ่มพยาบาล พอ.สว.)..."    ขอร้องเพื่อนๆทุกคนช่วยส่งต่อกัน วันนี้อย่างที่เพื่อนๆรุ้ว่าฟ้าหญิงองค์เล็กท่านมาเยี่ยม หน่วยแพทย์ พอ.สว. ที่ฉะเชิงเทรา วันนี้พระองค์ท่านตรัสว่า พระองค์ท่านมีความไม่สบายพระทัยเป็นอย่างมาก เพราะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโทรศัพท์มาบอกข้าพเจ้าว่า ที่แถลงการณ์ออกไปนั้นขัดเกลาให้เบาที่สุดแล้ว แต่อันที่จริงพระอาการของพระองค์ท่านเป็นหนักกว่าที่แฉลงการณ์มาก ท่านขอให้พวกเราช่วยสวดบทโภฌังคปริตร ให้ในหลวง ท่านบอกว่าบารมีท่านไม่ถึงในหลวง เพราะฉะนั้นท่านขอให้นำสวดด้วยการขึ้นต้นด้วย  นะโมสามจบ และตามด้วย  พุทธัง อาราธนัง กะโลมิ  ธรรมมัง อาราธนังข กะโลมิ   สังฆัง อาราธนัง กะโลมิ  และต่อด้วยบทโภฌังคปริตร  ขอให้ทุกท่านช่วยกันสวดมนต์เพื่อในหลวงของเราด้วย ขอให้เริ่มต้นทำเลยนะ               ตั้งแต่ อังคารที่ 14 กย 58 ช่วยส่งต่อไปให้มากที่สุดด้วย

อำนาจที่ คสช.​และเครือข่ายอ้าง... เป็นโมฆะทั้งสิ้น ปชช. ไม่จำเป็นต้องยอมรับ

ในวันนี้ อำนาจที่ใช้ปกครองคนไทย หรือ อำนาจที่อยู่เหนือคนไทยแต่ละผู้แต่ละนามในประเทศนี้คือ อำนาจอะไร? ทางแก้อยู่ตรงไหน?

เชิญท่านพี่น้องประชาชนคนไทย อ่านบทความสั้นๆนี้ แล้วตรึกตรองให้ดีๆ

๑. วันนี้ อำนาจที่มีอยู่ในวันนี้ เหนือคนไทย คืออำนาจ ที่ขัด หรือ แย้ง กับพันธกรณีที่ประเทศไทย มีอยู่กับนานาชาติ และสหประชาชาติ ตาม(สนธิสัญญา) Convention against Corruption, 2003 ที่ประเทศไทยไปให้ไว้ในวันที่ ๑ มีนาคม ปีค.ศ.๒๐๑๑ หรือ ปีพ.ศ. ๒๕๕๔ และ

๒. ในวันที่ ๒๐ - ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ประเทศของคุณ มีการประกาศยึดอำนาจรัฐฯ จึงไปขัด หรือ แย้ง กับพันธกรณีตาม(สนธิสัญญา) Convention against Transnational Organized Crime, 2000 มีผลบังคับทั่วไปในเดือน กันยายน ปีค.ศ. 2003 อีกหนึ่งฉบับ

๓. ที่ประเทศไทย ไปขอผูกพันกับนานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติ โดยการให้สัตยาบันโดยชอบ กลายเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ ในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ปีค.ศ.2013 หรือ ปีพ.ศ.๒๕๕๖ และ

๔. ผลจากสนธิสัญญาในฉบับหลัง เขาเรียกกันว่า "สนธิสัญญา ที่เป็นพวง" หรือ "สนธิสัญญาที่ให้อำนาจพิเศษ แก่ นานาชาติ องค์การสหประชาชาติ และ ประชาชนในชาติ

๕. ที่จะก่อให้เกิด:

๕.๑การเจรจาให้ปฏิบัติตามสนธิสัญญา,

๕.๒ ส่งเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการ ชี้ขาดในปัญหาข้อขัดแย้ง, หรือ

๕.๓ ให้ศาลโลก เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด" ให้ไปดูรายละเอียดในสนธิสัญญา เข้าใจว่าจะเป็นบทบัญญัติที่ ๓๘ ฉะนั้น

๖.หากจะเกิดข้อขัดแย้ง เป็นชนวนลุกลามไปสู่ "สงครามกลางเมือง" เหมือนในประเทศซีเรีย ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ย่อมขอให้นานาชาติ และองค์การสหประชาชาติ

๗. ดำเนินการตามสนธิสัญญาในฉบับหลังได้ หากคณะผู้ปกครองประเทศ "ท่านผู้นำ" ไม่ยอมทำตาม

๘. ก็ต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยขององค์การสหประชาชาติ และนานาชาติ ในทันที

๙. ข้อความอันนี้คนไทย ควรต้องรับรู้ ในสิ่งเหล่านี้ เพื่อช่วยตัวเอง นี่คือ ความชาญฉลาดของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คนไทยควรต้องรับรู้ไว้ และดำเนินการตามกฏหมายที่เปิดโอกาศให้ปฏิบัติ ได้แล้ว ก่อนที่จะสายเกินแก้!!!!!!!!!!!!!!!

Radovan Karadzic คือใคร? วันนี้โลกรู้จักเขาในฐานะใด?

Radovan Karadzic คือใคร? วันนี้โลกรู้จักเขาในฐานะใด?

๑. Radovan Karadzic ก็คือ อดีตประธานาธิบดีของรัฐเซริบส์ ที่ก่อตั้งรัฐเซริบส์ ขึ้นใน Bosnia Herzegovina (อ่านว่า บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า) เป็นการก่อตั้งรัฐซ้อนรัฐ

๒. รัฐบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศยูโกสลาเวีย ประกอบไปด้วย ชนชาว Croats และ ชาว ยูโกสลาเวีย หรือ สลาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม รวมแล้ว อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นี้ ๒ ใน ๓ ของประชากรของรัฐนี้ มีชาวเซริบส์ อาศัยอยู่ราวจำนวน ๑ใน ๓ ของประชากรของรัฐนี้

๓. เมื่อนายพล ตี โต้ ถึงแก่อนิจกรรมลง พื้นที่ที่เป็นรัฐบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า ได้ประกาศแยกตัวเองออกมาเป็น รัฐ หรือ ประเทศอิสระในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 1992 เช่นเดียวกับ โคโซโว่ (Kosovo) ได้รับการรับรอง ให้เป็นรัฐ หรือ ประเทศ จากนานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติทันที เมื่อเหตุการณ์ผันแปรไปเช่นนี้

๔. ชาวเซริบส์ ที่เป็นคนเผ่าสลาฟ ซึ่งเป็นประชากรของรัฐ หรือ ประเทศใหม่นี้ เกิดความเดือดร้อน ไม่พอใจ เพราะได้กลายเป็น ชุมชนส่วนน้อยของประเทศ จึงประกาศตั้งรัฐซ้อนรัฐ เป็นประเทศขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "Srp ska" แต่ไม่มีใคร ประกาศให้การรับรองแก่ ประเทศเกิดใหม่ประเทศนี้

๕. ประเทศใหม่ ที่ประกาศจัดตั้งขึ้นโดยชาวเซริบส์ ได้ประกาศให้ Radovan Karadzic เป็นประธานาธิบดีคนที่หนึ่งของประเทศ ที่เกิดใหม่นี้ Radovan Karadzic ซึ่งประกาศตนเอง เป็นแพทย์ทางเลือก และประกอบอาชีพอยู่ในเมือง Sarajevo และเมืองเบลเกรด ของประเทศบัลกาเรีย

๖. จึงไปจัดตั้งกองกำลังชาวเซริบส์ ขึ้นในรัฐใหม่ และ รวบรวมกองกำลังชาวเซริบส์ ที่สังกัดอยู่ในกองทัพยูโกสลาเวียเดิม ที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศยูโกสลาเวีย มาเป็นกองทัพชาวเซริบส์ เพื่อหวังจะกำหราบชาว Croats และชาวสลาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม จึงเกิด การรบราฆ่าฟัน ปล้น ฆ่า ข่มขืนกัน เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง เป็นระบบขึ้น ในรัฐ หรือ ประเทศ บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า (ตรงนี้เห็นควรศึกษาเปรียบเทียบกับ กรณีที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจัดตั้ง คณะกปปส. ขึ้น แล้วเกิดผลร้ายต่อประเทศนี้ และส่งผลร้ายมาจนถึงในทุกวันนี้)

๗. ประธานาธิบดี Radovan Karadzic ของรัฐเซริบส์ ที่เกิดใหม่ ได้รับสมญานามจากชาวโลก และ องค์การสหประชาชาติว่า "เป็น Butcher of Balkan" เมื่อเกิดการรบราฆ่าฟัน ปล้น ฆ่า ข่มขืนกัน เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง เป็นระบบในรัฐ หรือ ประเทศ บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า มีคนตายเป็นแสนๆคน จึงเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

๘. องค์การสหประชาชาติ ถูกชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชากรของ EU เกือบทุกประเทศ เริ่มออกมากล่าวโจมตี และติฉินนินทา องค์การสหประชาชาติ ไม่อาจยอมรับได้ในสิ่งเหล่านี้ องค์การสหประชาชาติ จึงพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ย เพื่อให้เกิดความสงบ และ สันติสุขขึ้นในประเทศ หรือ รัฐที่เกิดใหม่นี้

๙. องค์การสหประชาชาติจึงได้แต่งตั้งให้นาย Cyrus Vance อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกา และ Lord David Owen อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของ ประเทศอังกฤษ เข้าป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย และประธานาธิบดี Radovan Karadzic ได้ถูกรับเชิญให้เข้ามาร่วมเจรจาสันติภาพด้วย ในทุกครั้งที่มีการเจรจา หรือการประชุมตามคำชี้แนะขององค์การสหประชาชาติ

๑๐. ในคราวใดที่จะต้องมีการเจรจา หรือ การจัดประชุมโดยกลุ่มชนเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่เราเรียกว่า "Fractions" ในสำนักงานใหญ่ของ องค์การสหประชาชาติ ที่มหานคร New York นาย Radovan Karadzic ก็ไปเข้าร่วมประชุมด้วย โดยองค์การสหประชาชาติ เป็นคนขอวีซ่าให้ Radovan Karadzic เดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ ตามข้อตกลงพิเศษ (ข้อตกลงระหว่างประเทศ ที่ได้ลงนามไว้ในระหว่าง องค์การสหประชาชาติ กับ ประเทศสหรัฐอเมริกา)

๑๑. ตามข้อตกลงนี้ "ผู้ได้รับเชิญ จะได้รับวีซ่าให้เดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกาในประเภท C- 2 และเป็นการให้เดินทางเข้าไปในประเทศสหรัฐฯ เพียงเที่ยวเดียว (Single Trip) เมื่อเป็นแขกรับเชิญในประเภทนี้ เมื่อลงจากอากาศยานแล้ว ต้องตรงไปยังสำนักงานใหญ่ของ องค์การสหประชาชาติ ที่เดียว หากการประชุม หรือ การเจรจา ไม่อาจสัมฤทธิ์ผลในเที่ยวนั้นในวันเดียว จะต้องยืดเวลาอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อการประชุม หรือเจรจา เพื่อการต่อเนื่องต่อไป ในคราวนั้น ก็จะไปอยู่ในโรงแรม ที่มีระยะห่างเกินกว่า ๒๕ ไมล์ จาก สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติไม่ได้ (ซึ่งหมายความว่า "ถูกจำกัดรัศมีในการเดินทาง" และ การอยู่อาศัย")

๑๒. นาย Radovan Karadzic ไปเข้าร่วมประชุมกับ คณะผู้เจรจาขององค์การสหประชาชาติ ที่ได้ตั้งไว้ดังกล่าวมาแล้ว อยู่ราวปีเศษ ในการเข้าร่วมประชุม ที่กล่าวนี้ ในเที่ยวที่สอง และ เที่ยวที่สาม เขาถูกญาติผู้ตายในรัฐบอสเนีย คือ Kadic ยื่นฟ้องเป็นคดีในทางแพ่งในฐาน ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในศาล Southern District of New York หรือ S.D.N. Y. ปรากฏตามคดีหมายเลขอ้างอิง 70 F.3d 232 (2nd.Cir.1995) ทั้งนี้เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่ง เป็นแม่ทัพใหญ่ในกองกำลังชาวเซริบส์ ในบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า และ กองกำลังดังกล่าว ได้ปล้น ฆ่า และข่มขืนชาว Croats และชาวลสาฟ ที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นมุสลิมตาย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเรือนแสนคน ในบอสเนียฯ

๑๓. ในการนำส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง นาย Radovan Karadzic รับหมายฟ้องคดีที่จัดส่ง โดยเจ้าหน้าที่ศาล และ เข้ามาต่อสู้คดีนี้ในฐานะจำเลย การส่งหมายฟ้องคดี และ สำเนาคำฟ้อง มีการจัดส่งไปให้เขาที่โรงแรมที่องค์การสหประชาชาติ จัดให้พักอาศัยท่ามกลาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การสหประชาชาติ ที่ถูกจัดมาอารักขา (หมายเหตุ คนที่ถูกรับเชิญให้ไปโชว์ตัวในลักษณะนี้ ไม่ว่า Slobodan Milosevic หรือ นาย Radovan Karadzic มักจะพบจุดจบ หรือ ลงเลยในรูปแบบเดียวกัน คือ ถูกหมายอาญา จับ ตัวไปขึ้นศาลนานาชาติ เพื่อพิจารณาคดีในฐานความผิด เป็นอาชญากรสงคราม [ฆ่า ข่มขืน] และ ความผิดอาญาในฐานที่เป็นปรปักษ์กับมนุษยชาติ) ในเวลาต่อมาเสมอๆ....................... (มีต่อ)

“กลียุค" ○ทหารควบคุมตัว "ประวิตร โรจนพฤกษ์"

"กลียุค"

○ทหารควบคุมตัว "ประวิตร โรจนพฤกษ์" นักข่าวอาวุโส ปรับทัศนคติ ยังไม่รู้อยู่ที่ไหน น่าแปลกไล่จับกันเป็นว่าเล่น หรือใกล้จะถึงกำหนดการงานใหญ่อีกครั้ง ใครมีข่าว ใครมีเบาะแสอื่นๆเอามาแชร์กันครับ พี่น้องที่อยู่ต่างประเทศก็ห่วงประเทศและเพื่อนร่วมชาติเราคนไทยด้วยกัน

.
○ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เผด็จการทหารจะจนแต้ม มันจะตัดขาดการสื่อสารทุกอย่างเพื่อไม่ให้รวมตัวกันติด และครั้งที่จะถึงในอนาคตอันใกล้ก็เช่นกัน โลกโซเชียลเน๊ตเวิร์ค ,การสื่อสารอื่นๆก็คงจะถูกตัดเช่นกัน พี่น้องมีแผนเตรียมรองรับไว้หรือยัง

โพสต์ระดมคนไทยในเมกา ปกป้องประยุทธ์ หลังองค์กรสิทธิเตรียมประท้วงกลางที่ประชุม UN

โพสต์ระดมคนไทยในเมกา ปกป้องประยุทธ์ หลังองค์กรสิทธิเตรียมประท้วงกลางที่ประชุม UN 

Mon, 2015-09-14 19:22 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา สุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล (Human Rights Watch) ให้สัมภาษณ์กับ Thaivoicemedia โดยกล่าวถึงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมประชุมสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 23 ก.ย. - 1 ต.ค. นี้ ที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ว่า นิวยอร์ค เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Human Rights Watch อยู่แล้ว ดังนั้นการเดินทางเยือนยูเอ็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับการประท้วงทั้งการตั้งคำถามในที่ประชุม และการต่อต้านนอกห้องประชุม เกี่ยวกับการริดรอน ละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุด โดยข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้นำรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยส่งถึง บัน คีมูน เลขาธิการยูเอ็นแล้ว ดังนั้นจะมีสมาชิกในที่ประชุมจะถาม พล.อ.ประยุทธ์ในเรื่องนี้ ขณะที่ภายนอกห้องประชุมก็จะมีกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนทั่วโลกที่จะรอพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อซักถามอย่างไม่ประนีประนอม ดังนั้นไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาจริงหรือไม่ หรือจะส่งตัวแทนมา ก็จะเจอการประท้วงต่อต้านและซักถามอย่างแน่นอน ล่าสุดวันนี้(14 ก.ย.58) เมื่อเวลา 11.35 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ 'สุวรรณ วงษ์กัณหา' โพสต์ในเฟซบุ๊กกลุ่ม 'สีสัน"การเมือง' ในลักษณะสาธารณะ ระบุว่า ด่วนมากขอเชิญคนไทยที่อยู่ในเมืองนิวยอร์ค และทุกรัฐในสหรัฐอเมริกา ให้รีบระดมพลรวมตัวกันไปช่วยปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ซึงจะต้องไปร่วมประชุมสหประชาชาติดังกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า หากว่าท่านไม่ไปช่วยปกป้องนายกก็เหมือนกับพวกท่านปล่อยให้นายกถูกพวกฝูงหมาป่าฮายีน่ารุมทึ่งท่านแต่เพียงคนเดียว อย่าปล่อยให้ท่านเดียวดายถูกพวกหมาป่ารุมกัด เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศของคนไทยผู้รักชาติอย่างแท้จริง

การฮุบครองที่ดิน ของศักดินา ในภาคตะวันออก (เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น)

 รู้ไว้ด้วยครับไม่มีใครกล้าขุดคุ้ยเรื่องที่ดินทางภาคตะวันออกหรอกครับ อำมาตย์ตัวใหญ่ส่งทหารเจ้าถิ่นทหารเสือราชินีคุมหมดทุกอย่างแล้วทุกจังหวัด ขุดเรื่องขึ้นมายากที่สุด เริ่มเรื่องของเรื่องไล่มานานสักสี่สิบ ห้าสิบปีก่อน คณะคนชั้นสูงกำลังติดต่อกับเจ้าที่ทำที่ดินคนท้องถิ่นพาได้รู้จักท่านหญิงปิ๋ม ท่านหญิงอะไรต่อมิอะไรอีกหลายคน เมียทหารตำรวจเงินถุงเงินถัง ยกขบวนพาเหรดมาหาที่ดินดีๆ ข่าวก็บอกคนหนึ่งเป็นแม่ของหม่อมโสมสวลี เป็นคนชอบล่าหาที่ดินแถบตามเขาตามชายทะเลถูกๆแถวนี้เหมือนกัน ทางส่วนราชการเกรงใจกันนักก็ต้องหาวิธีได้ออกโฉนดให้แม่คนดัง ในที่สุดก็ได้ออกที่ทำกินให้ท่านหญิงปิ๋มประเดิมเป็นชื่อแรกๆ ตอนหลังลูกสาวตกกระป๋องท่านหญิงปิ๋มก็ทยอยขนออกมาขายเพื่อลดความเสี่ยง มีมากเกินไป อย่างที่ดินสนามกอล์ฟเขาสอยดาว ชื่อมือแรกก็ของชื่อของท่านปิ๋มก่อนธนาคารกรุงเทพจะซื้อต่อไปทำสนามกอล์ฟต่อ ถึงเล่นเอาผิดเขาสอยดาวไม่ได้เพราะติดที่ลูกสาวท่านหญิงยังได้ชูคออยู่ตอนนี้ทหารเสืออาจจะเคลียร์ให้บริสุทธ์ถูกกฎหมายได้หมดแล้ว แต่ที่ดินชื่อพวกเจ้านายเก่าติดอยู่ตามเกาะแก้วพิสดารอีกจำนวนมากก็อย่าหวังใครจะเอามาเล่นเรื่องป่าสงวนที่ดินเก่าของท่านหญิงปิ๋มได้ ท่านผู้หญิงบุษบา ( นามสกุลเก่า กิตติยากร)อีกคนก็ชอบไปนั่งวิปัสนาหาที่ดินถูกๆเหมือนกัน ตอนนี้พลเอกดาวพงษ์ก็สั่งอธิบดีกรมป่าไม้ส่งหลานสุเทพมาดูแลด่านป่าไม้สำคัญๆ แต่ความจริงน่าจะมาดูต้นทางให้พวกเจ้านายที่ดิน วังเจ้านายที่รุกล้ำป่าสงวนอยู่หลายๆที่มากกว่าครับ

เป้าหมายของคณะราษฎรเสรีไทยเพื่อการเปลี่ยนระบอบ

เป้าหมายของคณะราษฎรเสรีไทยเพื่อการเปลี่ยนระบอบ

Wednesday, July 1, 2015

7:42 PM


เนื่องจากบ้านเมืองที่ได้ตกไปอยู่ในอุ้งเท้าของเผด็จการในระบอบอำมาตยาราชาธิปไตยอย่างชัดเจน ตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปี  2549 เป็นต้นมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการรัฐประหารครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม  2557 นั้น  ประเทศไทยได้กลายเป็นเสมือนรัฐล้มเหลว  ไม่มีขื่อ ไม่มีแป ไม่มีการเคารพหลักประชาธิปไตย มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างโจ๋งครึ่ม  โดยชนชั้นนำ อันได้แก่สถาบันกษัตริย์ องค์มนตรี ทหาร ข้าราชการระดับสูง นักวิชาการ นักคิดนักเขียน นักสื่อสารมวลชน และอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่ ไม่ได้คิดถึงประชาชนเป็นหลักอย่างแท้จริง แถมสร้างปมปัญหาให้ถึงทางตัน เป็นลิงแก้แห ซึ่งนับวันจะพันตัวเอง จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และยิ่งจะช่วยประเทศชาติไม่ได้  สิ่งที่พวกเขาทำ กลับเป็นการมุ่งแสวงหาและรักษาอำนาจ และผลประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก บนความเสียหายของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ  วันนี้ เราจึงสรุปได้อย่างมั่นใจแล้วว่า เผด็จการที่ได้ปล้นอำนาจประชาชนไปนั้น ได้นำประเทศชาติไปสู่ความเสียหายที่หนักหนาสาหัส จนยากจะเยียวยาได้ง่าย และไม่ใช่คำตอบของสมการปัญหาแน่นอน เพราะพวกเขาคือตัวแปรที่ทำให้เกิดปัญหาที่กลายเป็นวิกฤติการเสียเอง

 

ดังนั้น การรวมตัวของปวงชนชาวไทยครั้งนี้ จึงเป็นการรวมตัวของประชาชน ที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใดฝ่ายหนี่งในสมการความขัดแย้ง  แต่เป็นตัวแทนประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง และเท่าเทียมกัน  โดยมีเป้าหมายสำคัญดังนี้

 

  1. เพื่อเป็นศูนย์กลาง รวบรวมและประกาศเจตนารมย์ร่วมของปวงชนชาวไทย สำหรับการเปลี่ยนระบอบจากระบอบเผด็จการอำมาตยาราชาธิปไตยไปสู่ระบอบเสรีประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ใช้โดยประชาชนหรือตัวแทนที่ผ่านการเลือกตั้งหรือมติของประชาชน และดำเนินการทุกด้านเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่สถาบันกษัตริย์ สถาบันทหาร สถาบันข้าราชการ และชนชั้นผู้ได้เปรียบในสังคม อย่างที่เป็นอยู่ โดยจะปฏิเสธความชอบธรรมของอำนาจ กลไก และสถานะของผู้ที่ปล้นอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย และต้องล้มล้างผลพวงของการรัฐประหารอย่างสิ้นเชิง เพื่อยืนยันอำนาจพื้นฐานของประชาชน ในฐานะเป็นเจ้าของประเทศตัวจริง
  2. มุ่งเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ในเวทีระดับประเทศ และระดับนานาชาติ โดยมีการการจัดตั้งและดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีเครือข่ายทั่วโลกที่พร้อมปฏิบัติงานได้จริง  ในการชี้้แจง ร้องเรียน ร้องขอความช่วยเหลือ และเจรจาต่อรองกับองค์กร องค์การ และผู้นำประเทศในระดับต่าง ๆ
  3. มุ่งรณรงค์ให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ที่มีอำนาจและพิษร้ายต่อระบอบประชาธิปไตย และทำลายเครือข่ายของระบอบอำมาตยาราชาธิปไตย เพื่อสถาปนาระบอบที่ประชาชนมีอำนาจ ได้ใช้อำนาจ และได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากระบอบที่ประชาชนเป็นหัวใจอย่างแท้จริง
  4. มุ่งเน้นให้พลังประชาชนอันมหาศาล เป็นกำลังหลักในการแก้ปัญหาของประเทศไทย อย่างถอนรากถอนโคนและตรงสาเหตุอย่างแท้จริง ไม่ให้เหลือซากของระบอบเผด็จการทุกรูปแบบ ที่ฝังรากและบ่อยทำลายอำนาจ และผลประโยชน์ของประชาชนมาตลอด  โดยเน้นที่การใช้พลังประชาชนอันมหาศาล ในการชี้นำทิศทาง บนความชอบธรรมที่ใครแย้งไม่ได้ บนยุทธวิธีที่เน้นสันติอหิงสา และการใช้สิทธิของประชาชนเจ้าของอำนาจตามสิทธิที่มีอยู่ในหลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายนานาชาติ ที่ประเทศไทยได้ลงนามตกลงไว้แล้ว
  5. มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยต้องลงสัตยาบันรับธรรมนูญกรุงโรม เพื่อรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ
  6. เน้นเร่งรัดให้ประเทศไทยและคนไทย ได้พัฒนาศักยภาพให้สูงสุด ภายใต้ระบอบทุนนิยมเสรี ที่ประเทศไทยจะเปิดเจรจาค้าขายและคบหาสมาคมกับชาวโลกทุกประเทศ โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  แต่จะนับถือหลักการตามกฎหมายและข้อตกลงที่ประเทศไทยทำไว้กับนานาชาติอย่างเต็มที่
  7. มุ่งทำลายกลไกเศรษฐกิจแบบผูกขาด ที่สานกันเป็นเนื้อเดียวกับกลไกการกดขี่ ขูดรีด และคดโกง ของระบอบเผด็จการอำมาตยาราชาไตย แล้วมุ่งสร้างระบบเศรษฐกิจที่เน้นการสร้างศักยภาพ โอกาส การเป็นเจ้าของร่วม และความอยู่ดีกินดีของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อประกันว่า ประชาชนจะได้รับสวัสดิการสังคม และบริการพื้นฐานทุกชนิดอย่างทัดเทียมนานาอารยประเทศ
  8. มุ่งปฏิวัติวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพของคนไทยอย่างเอาจริงเอาจังและเร่งด่วน ให้คนไทยทิ้งสิ่งที่เป็นพิษภัยในวัฒนธรรมไทย เรียนรู้และสร้างนิสัยส่วนบุคคลและสร้างสังคมใหม่ ที่ทำให้คนไทยหลากหลายเผ่าพันธุ์ ศาสนา เพศ วัย และความแตกต่างอื่น ๆ ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อันเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมายที่ประกันสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค  โดยใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ มีคุณภาพ และมีสันติสุข

 

ผลโหวตชื่อองค์การ  http://www.poll-maker.com/results370658x9D538D86-14

ลิงค์สำหรับโหวต http://www.poll-maker.com/poll370658x40c549cc-14