นักการเมือง (อีแอบ) อาทิตย์ที่จะถึงนี้ สปช. จะโหวตร่างรัฐธรรมนูญ เดินหน้าตามโร้ดแม็พไปสู่การลงประชามติ ฝั่งหนึ่งเห็นว่าดีว่างาม เสมือนเป็นดวงดาวเจิดจรัสเปิดทางปฏิรูปประเทศไทย อีกฝั่งหนึ่งมองเป็นโคลนตม ไร้ราคา พาประเทศชาติถอยหลังลงคลอง ทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นักการเมืองมักตกเป็นจำเลย ของอย่างนี้ว่ากันไม่ได้ เพราะบรรดานักการเมืองทำตัวเอง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ทุกคนล้วนเสนอตัวอาสามาทำงานผ่านการเลือกตั้งของประชาชนและกฎเกณฑ์สารพัด แต่มีอีกจำพวกหนึ่ง เป็นนักการเมืองอีแอบ ไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ ได้ดิบได้ดีทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร โดยการเข้าหาขั้วอำนาจ ณ ขณะนั้น เชียร์ตะบี้ตะบัน เลียทุกเรื่อง ยกยอน้ำลายสอ ปั้นน้ำเป็นตัว เพื่อให้ตัวเองดำรงอยู่ในวงจรอำนาจ ตอนนี้มีพวกใหม่ผุดขึ้นมาอีก เป็นจำพวกที่สองของอีแอบ เคยเป็นนักการเมือง แต่แสร้งทำว่าไม่เล่นการเมืองแล้ว ทั้งที่ในอดีตมีคุณสมบัติเป็นนักการเมืองชั้นเลว 101% แต่ทำเป็นลาออกชุบตัวในน้ำทะเล แล้วเป็นแกนนำ "เครื่องมือการเมือง" (Political Tools) ให้แก่พรรคการเมือง หรือศูนย์อำนาจการเมือง เสมือนหนึ่งเป็นกองโจร รบแบบไร้รูปแบบ ทำงานได้อิสระ ปล้นดะ ไร้วินัย ทั้งสองจำพวกนี้ไม่ได้ดีไปกว่านักการเมืองเลย หากนักการเมืองเลว ยังเลวในระบบ มีกฏเกณฑ์ที่ต้องระมัดระวัง แต่พวกเลวนอกระบบ สันดานอยากทำอะไรก็ทำ ได้คืบจะเอาวา เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนเหมือนเจ้าไม่มีศาล ฉกฉวยหยิบกินของเซ่นไหว้ ไม่เคยเห็นหน้าตอนเลือกตั้ง แต่ไม่เคยห่างหายจากการเมือง รัฐธรรมนูญยังไม่ได้จำกัดห้ามคนจำพวกนี้เอาไว้ อย่างนี้น่ากลัวกว่ากันแยะ ประชาชนโปรดระวังเอาไว้เถิด |
ยินดีต้อนรับ
Thursday, September 3, 2015
ระบอบการปกครองสำหรับอนาคตไทย ควรเปลี่ยนอะไรบ้าง?????
"อำนาจนิยม"ในโรงเรียน.ทำลายอนาคตชาติ
น.ส.ณัฐ นันท์ นรินทรเวช นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี อดีตรองผู้อำนวยโรงเรียนเสิงสาง นครราชสีมา ใช้อารมณ์แสดงอาการดูถูก เหยียดหยาม และทำร้ายนักเรียนด้วยการตบหัว โดยอ้างว่าทำไปเพราะความรัก ความหวังดีที่ครูมีต่อนักเรียนว่า ผู้บริหารโรงเรียน หรือ ครู อาจารย์ จะต้องแยกให้ออกว่าระหว่าง จิตวิญญาณความเป็นครู กับ การทำร้ายร่างกาย หรือการดูถูก เหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นคน การทำร้ายร่างกายเท่ากับผิดกฎหมายดังนั้นการจะอ้างว่า ทำไปเพราะวิญญาณของความเป็นครู จึงไม่อาจจะอ้างได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในโรงเรียน และระบบการศึกษาของไทย ยังคงใช้ ความเป็นอำนาจนิยม สั่งสอนนักเรียน แต่ควรจะต้องมีระบบที่จะถ่วงดุลย์อำนาจระหว่างนักเรียน และครู หรือผู้บริหารโรงเรียน การลงโทษนักเรียน ทำได้แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนโดยคณะบุคคล ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของครูเพียงคนเดียว ดังนั้นอย่าสั่งสอนเด็กด้วยความกลัว หรือ สร้างระบบอำนาจนิยมขึ้นมาในโรงเรียน เพราะจะทำให้เด็กไทยไม่มีวุุฒิภาวะ ไม่มีจิตนาการ ขาดความคิดสร้างสรรค์ กรณีที่เกิดขึ้นที่ ร.ร.เสิงสาง ควรจะเป็นบทเรียนสำคัญในระบบการศึกษาไทยที่จะต้องนำมาถกเถียงพูดคุยและหาทางแก้ปัญหาระยะยาว แทนที่จะแก้ปัญหาเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของครู และโรงเรียน
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ 3 กันยายน 2558 ตอน ความหลากหลายของขบวนปฏิว้ติ คือสิ่งจำเป็น
ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน...?? ทำยังไง?
ข่าวลับจากวงในกองทัพ กรณีอุยกูร์ ลึก...งามหน้าอีก ทหารร่วมค้าอุยกูร์
ไพ่ใบสุดท้ายของจีน...สงครามโลก...ทางการเงิน จริงหรือ?
ไพ่น๊อคดอลล่าร์ของจีนได้แบออกมาให้ทุกคนเห็นแล้ว ไพ่ใบนี้คือAsia Infrastructure Investment Bank หรือAIIBที่จะเปิดดำเนินการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ด้วยเงินทุนประเดิม$100,000ล้าน
ขงเบ้งทิ้งไพ่AIIBลงเมื่อไหร่ ดอลล่าร์จะหงายเก๋ง
ที่ร้ายไปกว่านั้น ไพ่AIIBจะฆ่าทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก และธนาคารกลางของสหรัฐหรือยูเอสเฟดเดอรัลรีเสิร์ฟแบงค์ไปพร้อมๆกัน
เหมือนกับเป็นการกินโต๊ะจีนที่ห้อยเทียนเหลา
AIIBจะกินเรียบเพราะว่าจีนวางโครงสร้างการเงินโลกใหม่ที่อิงความมีส่วนเกี่ยวข้องของนานาประเทศที่เข้ามาร่วมแล้วจะได้ประโยชน์กันทุกประเทศ ผิดกับระบบดอลล่าร์ที่ผูกขาด กันความมีส่วนร่วมหรือแบ่งผลประโยชน์ให้ประเทศอื่นออกไป พูดง่ายๆ คนอื่นยิ่งฉิบหายมาก สหรัฐยิ่งได้กำไรเจ้าเดียว
AIIBมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง57ประเทศ มีจีนเป็นเจ้ามือ และมีประเทศในเอเซียและยุโรปเป็นลูกมือ ไทยแลนด์เป็นลูกมือที่มีระดับพอสมควรเพราะว่าจะลงขันถึง$1,500ล้าน
ที่ล้ำลึกคือAIIVจะปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศกำลังพัฒนาด้วยเงินหยวน และเงินสกุลของประเทศที่เป็นสมาชิก สร้างความแตกต่างด้วยการแข่งกับธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย หรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆที่ปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ผูกขาดอย่างเดียวให้ทุกประเทศเป็นทาสหรือเป็นหนี้ดอลล่าร์
สมมุติว่ารัฐบาลลาวต้องการลงทุนสร้างพัฒนาเครือข่ายเทเลคอมมีมูลค่า$200ล้าน ลาวสามารถกู้เงินจากAIIBได้เป็นเงินหยวน เงินบาท เงินวอนของเกาหลี หรือเงินสกุลอื่นของประเทศสมาชิกของAIIBได้ สมมุติต่อไปอีกว่าลาวขอกู้หยวน บาทและวอนเป็นจำนวนเทียบเท่า$200ล้าน ทั้งจีน ไทยและเกาหลีก็ทำsyndication loan หรือปล่อยกู้ร่วมกันให้กับรัฐบาลลาวไป
ในกรณีนี้ เงินหยวนของจีน เงินบาทของไทย เงินวอนของเกาหลีที่ลงในAIIBจะมีบทบาทมากขึ้นในการค้าขายระหว่างประเทศ เงินลงขันของไทยในAIIBจะงอกเงยขึ้นมา
เป็นการได้ประโยชน์ของประเทศสมาชิกร่วมกัน โดยที่หยวนไม่จำเป็นต้องผูกขาด เหมือนกับที่ระบบการเงินโลกปัจจุบันออกแบบมาให้ดอลล่าร์ผูกขาดแต่เจ้าเดียว
จะเห็นได้ว่าจีนได้ทำข้อตกลงสว๊อปค่าเงินกับประเทศคู่ค้าแล้ว เพื่อต่อไปค้าขายกันเป็นหยวน/บาท หยวน/ริงกิต หยวน/วอน หยวน/เยน หยวนรูเบิ้ล หยวน/รูปี
วิธีการนี้จะช่วย 1. ล้มการผูกขาดดอลล่าร์ 2. ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนกับดอลล่าร์ 3. ลดค่าธรรมเนียมดอลล่าร์ 4. ลดความไม่สะดวกที่มาจากการต้องใช้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักเดียว
วิกฤติการเงินโลกที่ผ่านมาเป็นวิกฤติดอลล่าร์ และทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง1997 (กู้ดอลล่าร์มากไป) วิกฤติดอทคอมปี 2001 วิกฤติตลาดบ้านซับไพรม์ปี2007 วิกฤติWall Street 2008 ยกเว้นวิกฤติยูโรที่เกิดตั้งตั้งแต่2010เป็นต้นมา ตอนนี้ฝรั่งพยายามบอกว่าเป็นวิกฤติหยวน ทั้งๆที่หยวนยังแกร่ง แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีปัญหา แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์จีนในการเอาคืนกองทุนฝรั่งในสงครามการเงิน
AIIBเป็นทางเลือก หรือทางออกจากกับดักพิษดอลล่าร์กระดาษที่สร้างวิกฤติทั้วโลก แต่ละรอบของวิกฤติ พวกนายแบงค์เมการวยขึ้นๆ
เมื่อAIIBปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้นเป็นเงินของประเทศสมาชิก ความต้องการหรือดีมานด์ของดอลล่าร์จะน้อยลงตามลำดับ ถึงจุดๆหนึ่งเมื่อไม่มีใครต้องการดอลล่าร์ ดอลล่าร์จะไหลกลับสหรัฐก่อนใหเกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง
ผลก็คือ 1. เฟดต้องพิมพ์เงินมหาศาล ทำQE4,QE5, QE6, QE7...จนเจ๊งไปเอง
2.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลกที่ปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์ หาลูกค้าไม่เจอ นั่งตบยุงกันเป็นแถว
3. ดอลล่าร์กลายเป็นกระดาษกงเต๊ก
จีนแย้มไพ่ออกมาให้เห็นแล้ว แต่เป็นไพ่นกกระจอก ฝรั่งเล่นไม่เป็น เพราะว่าคนละตำรา
thanong
2/9/2015
ยกเลิกหนังสือเดินทางของคุณ จาตุรนต์ ฉายแสง นี่คือการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ตน (ความสะใจของผู้สั่งการ)
ว่า ด้วยเรื่อง การไปถอดถอน หรือ ยกเลิกหนังสือเดินทางของคุณ จาตุรนต์ ฉายแสง นี่คือการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ตน (ความสะใจของผู้สั่งการ) ถามว่า ประเทศไทย และคุณประยุทธฯ "ท่านผู้นำ" อยากตกเป็นจำเลยในศาลนานาชาติใช่หรือไม่?
คำตอบ ที่ผมจะมอบให้คณะคสช. "ท่านผู้นำ" และครม.ประยุทธฯ 3 ก็คือ คำตอบสั้นๆดังต่อไปนี้:
๑. ในกรณีนี้นอกจาก จะเป็นการกระทำ ที่เรียกว่า "Abused of Powers for Private Gains" อันเป็นการกระทำที่เรียกว่า "Corruption" ตาม (สนธิสัญญาขจัดหรือปราบปรามการคอร์รัปชั่น ปีค.ศ.๒๐๐๓) หรือ Convention against Corruption,2003 ตามความหมายอย่างกว้างของสนธิสัญญาฉบับนี้แล้ว
๒.ผมว่า ประเทศไทย กำลังเดินเข้าสู่โหมด ของความหายนะแน่นอน อยู่ดีไม่ว่าดี ไปถอดถอนหนังสือเดินทางของ นักการเมือง แบบคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ต้อง
๓. ถามตรงนี้ว่า เคยอ่านเรื่อง ที่ผมนำคำพิพากษาของศาล Supreme Court ของสหรัฐฯ ที่ผมนำมาลงไว้ในเรื่องคุณปวิณ ชัชชวาลย์พงศ์พันธุ์ และ เรื่อง การถอนหนังสือเดินทางของ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วไม่ใช่หรือ? ในชุมชนแห่งเสรีภาพ (the Land of Liberty
๔. คำตอบในเรื่องนี้ อยู่ที่บทความเหล่านั้น ถามตรงนี้ว่า กฏหมายอันมี ที่มาจากสนธิสัญญา คือ พันธกรณี ย่อมอยู่เหนือกฏหมายทุกฉบับของ ประเทศไทย รวมทั้งคำสั่งของ คสช.ใช่หรือไม่? ไปหาคำตอบด้วยตัวพวกท่านเอง
๕. เมื่อใดที่ผู้เสียหาย ได้รับผลร้ายเพราะการกระทำ ที่ว่านี้ เขาย่อมเกิดสิทธิในการฟ้องคดีในศาลนานาชาติ โดย อัตโนมัติ หรือ จะเรียกอีกอย่างว่า เขาได้รับสิทธิในการฟ้องคดี แบบ Automatic Exhaustion ในศาลนานาชาติทันที ตรงนี้ผมต้องขอถามอีกครั้งว่า กระทรวงจับฉ่าย ต้องตกเป็นจำเลยด้วยในเรื่องนี้ อยากเสี่ยงไหม? ถ้าอยากเสี่ยง ก็ต้องลองดู สักตั้ง
๖. เดี๋ยวผมจะเอาเรื่องราว และ คดีในกรณีนี้มาลงให้ดู โดยสังเขป และทุกคำพิพากษาของศาล Supreme Court ของสหรัฐอเมริกา ที่นำมาลงให้อ่านกัน วันนี้ องค์การสหประชาชาติ นำเอามาใช้เป็นหลัก ในการดำเนินวิเทโศบายขององค์การ "ท่านผู้นำ" อย่าหลงเชื่อ แต่กระทรวงจับฉ่าย เดี๋ยวจะเดือดร้อน ไม่สิ้นสุด.
เมื่อเห็นว่าจำเป็น ก็ต้องเตือนกันไว้ ก่อนจะเดินพลัดตกเหวลึก.