ยินดีต้อนรับ
Tuesday, September 29, 2015
เห็นพิษสงของเผด็จการบ้าที่ดินหรือยังล่ะ
นายกยิ่งลักษณ์ ฟ้องกลไกเผด็จการ...มีอะไรต้องพิจารณา
การ ฟ้องคดีอาญาของ ท่านนายกรัฐมนตรี(หญิง) คนแรกของประเทศไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันวาน และในวันนี้ มีผู้มาโพสต์ ข้อความดังต่อไปนี้:
"การฟ้องร้องของนายกปูในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ถูกต้อง เพื่อรักษาศักดิ์ศรี เพื่อการรุมกัดของเหล่าอธรรมทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่พวกมันก็รู้ว่า การกระทำที่ผ่านมานี้เป้นนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภาอันทรงเกียรติ แต่เหล่าหมาขี้เรื้อนพวกนี้ ต้องการให้นายกปูมีมลทินในเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อจะนำมาเป็นชนักกดดันนายกปูในเรื่องต่าง ๆ เฉกเช่นเดียวกับนายกทักษิณในเรื่อง " ที่ดินรัชดา " จนไม่สามารถกลับมารับโทษที่โดนกลั่นแกล้งเช่นนี้ได้ดังนั้น การกระทำของนายกปูในครั้งนี้ พวกเราผู้รักความเป็นธรรม จะต้องช่วยแพร่ข่าวนี้ออกไปให้มาก และให้พวกเหล่าหมาขี้เรื้อนเหล่านั้น ได้รู้ว่า มึงรังแก " นายกปู " ไม่ได้หรอก
นี่เป็นเพียงมาตรการการต่อต้านของพวกเรา ในด่านแรกเท่านั้นครับ"
ผม ในฐานะนักกฏหมาย ขอเสนอข้อคิด เป็นการบ้านในเรื่องนี้ เพื่อความสุขุมรอบคอบ ดังต่อไปนี้:
๑. การออกคำสั่งฟ้อง ของอัยการสูงสุด และ เพื่อฟ้องนายกหญิงคนแรกของประเทศไทย คุณยิ่งลักษณ์ฯ นั้น ก่อนที่คุณยิ่งลักษณ์ฯ จะโต้กลับ ด้วยการฟ้องคดี เมื่อวันวานนี้ในคดีอาญา
๒.เพื่อความ รู้ที่เห็นแจ้ง และ สัมผัสได้ โดยชอบธรรม
๓. ผมต้องขอถามตรงนี้ว่า "มีการฟ้องเพื่อทำลาย ความชอบธรรมตามกฏหมายของ [คำสั่งฟ้อง] ของท่านอัยการสูงสุด แล้วหรือยัง?"
๔. ถ้ายัง ก็ต้องทำ เพราะ:
๕. การฟ้องคดีในทางอาญา คือการฟ้องคดี เพื่อกล่าวหาว่า ผู้ถูกฟ้อง กระทำความผิด ต่อ กฏหมายอาญา (กระบิลเมือง ถ้อยคำในยุคใช้กฏหมายอาญา ร.ศ. ๑๑๒ ของประเทศไทย)
๖. ความชอบธรรม ตามกฏหมายของตัว "คำสั่งฟ้อง" ของท่านอัยการสูงสุด ยังมีอยู่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
๗. แล้วพวกท่านไม่กลัว ท่านอัยการสูงสุด เขา จะฟ้องโต้กลับว่า "คุณยิ่งลักษณ์ฯ ไปฟ้องเขา เป็นความผิดทางอาญาบ้างเลยหรือไร?"
๘. ที่ท่าน ตั้งญัตติ ในเชิงถามความเห็นมา ผมจึงต้องขอติง เพื่อให้ทุกๆท่าน ช่วยกันระแวดระวัง แก่ท่านนายกฯหญิง ยิ่งลักษณ์ด้วยครับ.
ประยุทธ์ กับประธาน จี.77 เกียรติยศ หรือความอัปยศ ?
ประยุทธ์ กับประธาน จี.77 เกียรติยศ หรือความอัปยศ ?
สิ่งที่คนไทยต้องรู้
-ระยะนี้ ไม่ว่าทางรัฐบาล เช่น เสธ.ไก่อู,สื่อสารมวลชน ตลอดจนผู้สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งทุกเว็บไซด์ของสลิ่ม ต่างออกมายกย่องชื่นชมท่านกันทุกวันที่สามารถทำให้ไทยได้เป็นประธาน จี.77 ในปีหน้า
ความจริง ผมไม่อยากขัดคอท่านหรอกครับ เห็นสลิ่มโพสต์เชิดชูท่านเหลือเกินก็ได้แต่ทำเฉยๆไว้ เพราะทุกวันนี้ก็ถูกเพ่งเล็ง ถูกคุกคามอยู่บ่อยๆแล้ว แต่มาเห็นการให้สัมภาษณ์ของท่านวันก่อนตามลิงค์นี้แล้ว ยอมรับว่า เหลือทนกับความเป็นตัวตนของท่านจนทนไม่ไหวจริงๆ
ท่านกล่าวถึงกรณีที่ประเทศสมาชิกกลุ่มจี 77 รับรองให้ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม สำหรับวาระปี 2559 ว่า
"ทางกลุ่มจี 77 มีการพูดคุยเรื่องความยากจนและความยั่งยืน การคัดเลือกจะเลือกจากประเทศที่มีประสบการณ์ และประเทศที่ประสบความสำเร็จซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการลดความยากจนลงในปี 2543 กว่าร้อยละ 40"
ท่านพูดถูก แต่พูดไม่หมดครับ เพราะจากรายงานของ World Bank,THAILAND ECONOMIC MONITOR NOVEMBER 2005 ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลหลักที่กลุ่ม G77 ใช้เป็นข้อมูลศึกษา มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ทั้งในหน้า 6 และหน้า 14 ว่า
-The poverty headcount ratio in Thailand fell by 10 percentage-points from 2000 to 2004. It fell from 21 percent of population
below the poverty-line in 2000 to 11 percent in 2004 . The largest gain was from the Northeast , though North did pretty well too.
The rise in household incomes, especially agricultural incomes, has contributed to the reduction in poverty.
As the majority of the poor reside in the rural areas and are engaged in agricultural activities, the double digit
rise in farm incomes since 2002 had contributed to poverty alleviation. From 2000 to 2004,
agricultural incomes have risen by 40 percent, higher than the rise in any other forms of income.
http://siteresources.worldbank.org/…/2005nov-econ-full-repo…
คร่าวๆก็คือ
-อัตราความยากจนในประเทศไทยลดลงร้อยละ 10 จุด จากปี 2543 ถึงปี 2547 ลดลงจาก 21 เปอร์เซ็นต์ของประชากรต่ำกว่าเส้นความยากจน
ในปี 2543 เป็นร้อยละ 11 ในปี 2547 ที่มากสุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
การเพิ่มขึ้นของรายได้ครัวเรือน โดยเฉพาะรายได้ทางการเกษตรได้มีส่วนร่วมในการลดความยากจนของคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท
รายได้เริ่มเพิ่มขึ้นกับเกษตรกรตั้งแต่ปี 2545 และ จากปี 2543 ถึงปี 2547
รายได้ทางการเกษตรได้เพิ่มขึันถึงร้อยละ 40 สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ในรูปแบบอื่นๆ
เห็นคำพูดท่านประยุทธ์หรือยังครับ ท่านบอกที่ได้รับคัดเลือกเพราะ "ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการลดความยากจนลงในปี 2543 กว่าร้อยละ 40"
ท่านลืมหรือไม่ทราบกันแน่ว่า ในปี 2543 นั้น เป็นสมัยปลายรัฐบาลของคุณชวน หลีกภัย ที่ถูกพายุเศรษฐกิจกระหนํ่าจนล้มควํ่า ล้มหงาย ทั้งจากเศรษฐกิจฟองสบู่สมัยพล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ และคดี ปรส.อันอื้อฉาว จนต้องยุบสภาไปตอนต้นปี 2544 (6 ก.พ.) ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความยากจนของท่านทักษิณแม้แต่น้อย
ความดีความชอบในการลดความยากจนที่ประสบความสำเร็จจนกลุ่ม G77 ชื่นชมและมีมติให้ไทยเป็นประธานฯในปีหน้านั้น เกิดขึ้นเพราะผลงานของท่านทักษิณ (2544-2549)โดยแท้แน่นอน ไม่มีข้อสงสัย
แต่เพราะความอิจฉา ริษยา กลัวท่านทักษิณจะได้หน้า เลยพูดกั๊กไว้ว่า พ.ศ. 2543 เรียกว่าเจตนา ชุบมือเปิบ เอาความดีความชอบของท่านทักษิณ คนที่ท่านชอบให้ร้าย มาเป็นของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย
ถามจริงๆครับ ฟังท่านประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ตามลิงค์นี้แล้ว ฝ่ายรัฐบาล สื่อที่ชอบเชลียร์ และสลิ่มทั้งหลาย ท่านภูมิอกภูมิใจในตำแหน่งประธาน G77 กับตัวพล.อ.ประยุทธ์ กันมากหรือครับ
สำหรับผม การชุบมือเปิบอย่างไม่ละอายนั้น ชายชาติทหารเค้าไม่ทำกันครับ
ชูวิทย์ ว่าด้วยกรณีระเบิดราชประสงค์: "ไอ้อ๊อด กับ ไอ้ปื๊ด"
ความกระจอกและห่วยแตกของเสธน้ำเงิน (กระบอกอุจจาระของฝั่งทหารพระราชา)
แผ่นดินประเทศไทยอยู่ในมือใครบ้าง?
อันดับ 1 คือ
- ตระกูลสิริวัฒนภักดี ถือครองกว่า 630,000 ไร่ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่างๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์อยู่ในบริเวณอ.ชะอำ จ.เพชรบุรีรวมประมาณ 12,000 ไร่ ที่ดินใน อ.บางบาลจ.พระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 15,000 ไร่
- อันดับ 2 คือ ตระกูลเจียรวนนท์ ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจรในนามกลุ่ม ซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ ธุรกิจโทรคมนาคมทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 200,000 ไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 10,000 ไร่
- อันดับ 3 คือบมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดินกว่า 44,400ไร่
- อันดับ 4คือ สำนักงานทรัพย์สินฯ จำนวน 30,000 ไร่
- อันดับ 5 คือบมจ.ไออาร์พีซี จำนวน 17,000 ไร่
- อันดับ 6 คือ ตระกูลมาลีนนท์ จำนวน 10,000 ไร่
- อันดับ 7 คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน จำนวน 10,000 ไร่
- อันดับ 8 คือวิชัย พูลวรลักษณ์ จำนวน 7,000 ไร่
- อันดับ 9 คือ ตระกูลเตชะณรงค์ จำนวน 5,000 ไร่อันดับ 10 คือ
- ตระกูลจุฬางกูรจำนวน 5,000 ไร่
ส่วนในกลุ่มนักการเมือง
จากผลการศึกษา
พบว่าผู้ที่ถือครองที่ดิน
รายใหญ่ของประเทศ ดังนี้
- อันดับ 1 คือ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถือครอง 2,030 ไร่
- อันดับ 2 คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี มี 2,000 ไร่
- อันดับ 3 คือนายเสนาะ และนางอุไรวรรณ เทียนทองมี 1,900 ไร่
- อันดับ 4 คือนายอนุชา บูรพชัยศรี มี 1,284 ไร่
- อันดับ 5 คือ นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์มี 1,197 ไร่
- อันดับ 6 คือนายทศพร เทพบุตร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่
- อันดับ 7 คือ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดีมี 1,095 ไร่
- อันดับ 8 คือนายสุชน ชามพูนท มี 1,060 ไร่
- อันดับ 9 คือนายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่
- อันดับ 10 คือ นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ มี 755 ไร่
พลังโลกล้อมไทย จะเริ่มปรากฎผลชัดขึ้น หลังจากการประชุมทั่วไปยูเอ็น
"จรัล ดิษฐาอภิชัย" ชี้ ไทยถูกวางให้เป็นประธานG77ตั้งแต่สมัย"ยิ่งลักษณ์"
Monday, September 28, 2015
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนประกาศรายชื่อ “สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในฝัน”
KP Page มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนประกาศรายชื่อ "สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในฝัน" หลังจากเปิดให้ประชาชนร่วมเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสมในการทำหน้าร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 14 - 21 กันยายน 2558 ทางเพจ Facebook รัฐธรรมนูญในฝัน โดยบุคคล 10 คนที่ได้รับเสนอชื่อมากที่สุด ได้แก่ 1. เกษียร เตชะพีระ 2. คณิน บุญสุวรรณ 3. จาตุรนต์ ฉายแสง 4. นิธิ เอียวศรีวงศ์ 5. พนัส ทัศนียานนท์ 6. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ 7. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล 8. สุขุม นวลสกุล 9. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ 10. สมบัติ บุญงามอนงค์ |
ตัวแทนเจ้าไทย ระดมคนไทยหัวเหลืองในอเมริกา ให้ปกป้องเผด็จการทหาร ที่ยูเอ็น
ไม่ ต้องแปลกใจนะฮะ ว่าทำไมคนคลั่งเจ้าที่อเมริกาจึงเดินทางมาจากหลายเมืองเพื่อมาสนับสนุน เผด็จการและพากันกล้าพูดอย่างคลั่งจัดว่าให้ตัดหัวคนชั่วให้หมดแผ่นดิน
เพราะมีข่าวมาถึงผมหลายวันแล้วว่า มือขวาของคิง ชื่อ สุเมธ ลงทุนเดินทางพบคนไทยทั่วอเมริกามากว่าสองอาทิตย์แล้ว เพื่อไปเชิญชวนให้พวกคนไทยออกมาปกป้องเผด็จการชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา คนของคิง กันเลยทีเดียว
ค่ายวังเปิดหน้าปกป้องเผด็จการกันถึงอเมริกากันอย่างไม่มีความกระดากอายกันแม้แต่น้อย
เรื่องนี้มีคนรู้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ที่อเมริกา แม้แต่นักข่าวต่างชาติ
#หมดแล้วครับซึ่งความศรัทธาและเครดิตชื่อเสียง
#เมื่อวังเลือกสนับสนุนและเลือกเผด็จการอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้
ดูภาพวีดีโอ สุเมธพบคนเสื้อเหลืองที่อเมริกา ได้ที่นี่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=fU9NUQos2FA
สัมภาษณ์สด คุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย เรื่องโลกล้อมประเทศ และก้าวย่างเสรีไท
Sunday, September 27, 2015
การฟ้องร้องคดีแพ่ง ในข้อหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตาม ATCA หรือ the Alien Tort Claim Act, 1789
มี ผู้แจ้งกับ ผมว่า น่าจะมี การฟ้องร้องคดีแพ่ง ในข้อหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตาม ATCA หรือ the Alien Tort Claim Act, 1789 หรือ รัฐบัญญัติ ที่ 1350 (กฏหมายภายในของสหรัฐฯ) ต่อ "ท่านผู้นำ ประยุทธ" ในศาลสหรัฐฯค่อนข้างแน่
๑. ผมจะขอยืนรอดู เมื่อ U.S. Marshal หรือ ตัวแทน มาส่งสำเนาคำฟ้อง และหมายแก้คดี (คดีแพ่ง) ของศาล District ศาลใดศาลหนึ่ง หรือ ศาล Federal Court ใส่มือหัวหน้า Security Guard ของสหรัฐอเมริกา และ องค์การสหประชาชาติ มอบหมายให้ดูแล "ท่านผู้นำ" กับคณะ
๒. เมื่อหมายเรียกแก้คดี และ สำเนาคำฟ้อง ถึงมือบุคคลที่ว่า ตามกฏหมายภายในของสหรัฐอเมริกา
๓. "ท่านผู้นำ" ต้องตั้งทนายความ ไปสู้คดีในศาลภายใน ๒๔ - ๔๘ ชั่วโมง ผลการส่งหมายแก้คดี และ สำเนาคำฟ้อง ในคดีนี้ ถือว่า ถึงคณะ คสช. และ ผู้ร่วมขบวนการในประเทศไทย ที่เข้าไปช่วยทำงานทุกๆคน
๔. ผลต่อไปทางกฏหมาย ที่จะต้องเกิด ก็คือ:
๕. อัยการของศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ที่ตั้งขึ้นตามข้อบัญญัติที่ 827(1993) ของคณะมนตรีความมั่นคง หรือ Security Council
๖. ศาลใดศาลหนึ่ง ก็จะขอเริ่มต้นไต่สวนคดีอาญา ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่เดือน กันยายน ปีพ.ศ.๒๕๔๙ จนมาถึงเวลาปัจจุบัน
๗. เมื่อศาลอาญาพิเศษฯ ไต่สวนแล้ว มีมูล "Prima Facie produces the Criminal gravity in this case"
๘. ศาลอาญาพิเศษฯ ก็จะออกหมายจับ "ท่านผู้นำ คณะ คสช. และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดทุกคน ไม่มีการยกเว้น สู่ศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ เพื่อพิจารณา และ พิพากษาคดี ต่อไป.
Saturday, September 26, 2015
ารใช้ Single Gateway กับระบบ Internet ของประเทศไทย ละเมิดกฎหมายนานาชาติอย่างไร?
การใช้ Single Gateway กับระบบ Internet ของประเทศไทย จะเกิดผลเช่นใด? ตามกฏหมายระหว่างประเทศ
ผม ขอให้คำตอบ แก่ท่านผู้อ่านโดยสังเขป ดังต่อไปนี้:
๑. องค์การสหประชาชาติ และ นานาชาติ ได้ประกาศ และบังคับใช้ (สนธิสัญญา ว่าด้วย) Electrical Communication แล้ว
๒. สนธิสัญญาฉบับดังกล่าวมา ข้างต้น ได้บัญญัติให้การติดต่อ สื่อสาร ระหว่างกันทาง Internet ต้องอยู่ภายใต้บังคับของ สนธิสัญญานี้
๓. แม้ประเทศไทย จะไม่เป็นรัฐคู่ภาคีของ สนธิสัญญาฉบับนี้ ด้วยการให้สัตยาบัน เป็นลายลักษณ์อักษร ประเทศไทย มีสถานะเป็นแค่เพียง ประเทศที่ลงนามรับรู้สนธิสัญญา (Signatory State)
๔. แต่ประเทศไทย ไปขอใช้ และรับเอา Model Law (กฏหมายต้นแบบ ที่มีที่มาจาก สนธิสัญญา) มาประกาศ และ บังคับใช้ เป็นส่วนหนึ่งของ กฏหมายไทย
๕. เรื่องราวเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ ในเว็ปไซด์ของ องค์การสหประชาชาติ ให้เข้าไปดู แล้วไปที่ UN CITRAL คนไทยทั้งหลาย ก็จะได้รับรู้เสียที
๖. การที่ไปคัดลอกเอา กฏหมายต้นแบบของเขา มาบังคับใช้ เป็นกฏหมายภายในของ ประเทศไทย เช่นนี้ เป็นยิ่งกว่า การให้สัตยาบัน เป็นลายลักษณ์อักษร เราเรียก การกระทำเช่นที่ว่านี้ ว่า " เป็นการให้สัตยาบัน โดย การกระทำที่ดียิ่งเสียกว่า การให้สัตยาบัน ต่อสนธิสัญญา ด้วยลายลักษณ์อักษร"
๗. ประเทศไทย ต้องถูกผูกพันด้วย การกระทำการของตนเอง ปรากฏ เป็นหลักฐาน ในสายตาชาวโลก ต้องถามตรงนี้ว่า "เราชาวไทย จะเขียนด้วยมือ แล้วลบด้วยเท้า" หรือไม่? ถ้าอยากทำเชิญเลยครับ
๘. กลไกในการแก้ปัญหา หรือ ข้อพิพาท ที่เกิดขึ้น ในเรื่องการประกาศ และบังคับใช้ Single Gateway ตามสนธิสัญญา ที่กล่าวถึงนี้ข้างต้น สนธิสัญญาฉบับที่อ้างถึงนี้ ก็คือ การต้องตั้งอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ มาแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ในระหว่างรัฐ กับประชาชน หรือ ประชาชน กับ ประชาชน
๙. เมื่อประเทศ ประกาศ และ บังคับใช้ Single Gate Way ก็จะเจอกับ ปัญหาที่ว่าทันที มีข้อพิพาทเกิดขึ้น ในระหว่าง รัฐ กับเอกชน ศาลในประเทศไทยทั้งหมด เข้าไปแตะต้องกับปัญหานี้ ไม่ได้ เพราะ:
๙.๑ สนธิสัญญา บัญญัติวิธีการเอาไว้แล้ว โดยเฉพาะ ต้องถือว่า ไม่มีเขตอำนาจศาลไทยเหนือคดี (No Subject - Matter Jurisdiction over Disputes)
๙.๒ ต้องปฏิบัติตามความของ สนธิสัญญาโดยเคร่งครัด กรณีพิพาท ในระหว่าง รัฐ กับ เอกชน ในกรณีนี้ถือว่า ตกอยู่ในบังคับของ คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่องค์การสหประชาชาติ หรือ นานาชาติตามสนธิสัญญาฉบับนี้ จะตั้งขึ้น
๙.๓ ศาลอนุญาโตตุลาการประจำ ที่ กรุงเฮก ที่มีตัวตนอยู่แล้ว เพราะได้เลือกบรรดาอนุญาโตตุลาการผ่านสมัชชาใหญ่ (General Assembly) อาจถูกเลือกโดยองค์การสหประชาชาติ และนานาชาติ ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้
๑๐. การที่จำเลย แพ้คดี ตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของ อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ต้องถูกปรับไหม เป็นเงิน มีมูลค่ามหาศาล คำวินิจฉัย จะออกมาให้จ่ายเป็นเงินดอลลาร์ (ไม่ว่า ยูโร หรือ สหรัฐฯ) เวลาที่จ่ายจริง ต้องจ่ายเป็น "เหรียญทองคำ" โดยคิดจากเงินบาท ที่ไปประกาศ เป็นทางการ ที่ให้มีมูลค่าเท่ากับ ทองจำนวนเท่าใด?ออนซ์ แล้วเทียค่าออกมาเป็น ดอลลาร์ ตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของ อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
๑๑. วิธีการเช่นนี้ มีปรากฏอยู่ ในโลกนี้แล้ว เป็นคดีตัวอย่าง คือ "Alabama Claim ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นโจทก์ ฟ้อง ประเทศอังกฤษ ภายหลังจากที่สงครามกลางเมือง เสร็จสิ้นลง บนแผ่นดินสหรัฐฯ วุฒิสมาชิก Sumner ของรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นหัวหอกในการนำฟ้องคดีนี้"
๑๔. ในเรื่องประเทศไทยนั้น ยังจะ มีปัญหาต่อไปหลังจาก เรื่องนี้ คือ การบังคับใช้ (สนธิสัญญา) Convention against Transnational Organized Crime, 2000 มีผลบังคับประเทศไทยในวันที่ให้สัตยาบัน คือ วันที่ ๑๗ ตุลาคม ปีค.ศ. ๒๐๑๓ หรือ ปีพ.ศ.๒๕๕๖ ทั้งนี้เพราะการประกาศใช้ Single Gate Way ต้องผ่าน เป็นกฏหมายออกมา โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เถื่อน)
ตรงนี้คนไทยทั้งประเทศ จะได้เห็น ระบบเถื่อน สู้กับ ระบบที่ถูกต้องตามกฏหมาย และ ระบบเถื่อน จะถูกลบล้าง ให้มลายไปสิ้น ด้วยระบบครรลอง ที่ชอบด้วยกฏหมาย...........(มีต่อ)
คุณประวิตร ตอกหน้า คสช.ในเวทีสากล The Diplomat ประจานการปรับทัศนคติ แบบป่าเถื่อน!!!
สหภาพยุโรป ทั้งมวลให้มี ท่าทีที่แข็งกร้าว ตอบโต้ประเทศไทย
James Walsky's video.
ดูและฟังเองชัดๆว่า......
สมาชิกสหภาพยุโรป ได้เรียกร้องให้ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งมวลให้มี ท่าทีที่แข็งกร้าว ตอบโต้ประเทศไทย ในกรณีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ(ฉบับหลอกลวง) พวกเขาได้กล่่าวอะไร ไว้อย่างไร ?
(เพราะรัฐบาลเผด็จการออกมาปฎิเสธข่าวนี้ เมื่อวานนี้)
EU called on to take 'stringent action' over 'fake' Thailand constitution
The rejection of a controversial new "fake" constitution in Thailand has triggered demands for the European Union to take "stringent action" in its opposition to the country's ruling military junta.
Thailand's military-appointed National Reform Council (NRC) rejected a new constitution in a vote on Sunday, a result that pushes back the junta's time-frame for an election to April 2017 at the earliest while a new charter is written.
The constitution, which would have been Thailand's 20th in 83 years, was rejected by 135 members of the NRC and approved by just 105. There were seven abstentions.
The 'No' vote means the process of drafting another constitution will start again, delaying any election until 2017 at the earliest.
One of the thorniest issues was a late addition to the draft, the creation of a National Committee on Reform and Reconciliation Strategy which would be dominated by military, allowing it to exercise power over the executive and legislative branches in any "crisis".
NRC member Sangsit Phiriyarangsan, who voted to pass the charter, said he believed it was voted down because of a desire to postpone elections.
According to the junta's own rules, it must now establish a new constitutional drafting committee within 30 days which will have 180 days to write a new charter. The new constitution, however, will not be subject to a vote by the NRC but instead be submitted directly to a referendum.
Thailand is currently using an interim constitution drafted last year which gives sweeping unchecked powers to the junta led by former army commander Prayuth Chan-ocha.
The vote comes at a time of increased instability in the county, including a badly faltering economy, last month's terrorist outrage in Bangkok that killed 20 people and the health of 87-year-old King Bhumibol Adulyadej.
The Pheu Thai party, ousted from power last year, described the constitution as "totally disregarding the sovereignty of the Thai people".
Reaction to the outcome of the vote was swift, with veteran UK Socialist MEP David Martin, a member of the European Parliament's ASEAN delegation and his party's coordinator on the international trade committee, saying, "Until Thailand returns to democracy there can be no negotiations on an FTA. Also that EU should use all diplomatic pressure possible to encourage Thailand on the path back to democracy."
Fellow ASEAN member, Julie Girling, an MEP for the European Conservatives and Reformists Group said: "The military government in Thailand has promised a speedy transition to democracy but they are not delivering. The EU can help but patience is running out. Urgent action is now required with a clear timetable, anything less will mean that Europe will have to take more stringent action."
The ASEAN delegation covers relations with ten countries of south-east Asia.
Another senior MEP Charles Tannock, a Foreign Affairs Committee member, said, "Rejection of the constitution goes some way to proving that the military junta is playing for time, particularly at a junction when the ailing health of the King is paving the way for a potential succession crisis. As the timetable for the adoption of a new constitution drifts ever further away, EU member states should seek to exert more pressure on the Thai authorities to find a solution, exploring the option of elections for a constituent assembly to draft the constitution if need be."
Further comment came from David Camroux, an associate professor at the respected Paris-based Centre De Recherches Internationales and an expert on Thailand at the European Institute for Asian Studies (EIAS), a leading Brussels-based think tank.
He told this website, "What is occurring in Thailand is not so much a 'crisis', to use that much-abused term, but something far more serious, a profound malaise within Thailand as a whole that has been brewing for over a decade. If one were to seek an image that of Russian dolls comes to mind.
"The longstanding competition for power among elites is eclipsed by social cleavages, economic uncertainty and an almost existential angst linked to a fin de règne."
Camroux, also co-editor of the Journal of Current Southeast Asian Affairs, argues that Thailand needs to be seen in the larger Southeast Asian context, adding, "Diplomatic pressure in the form of communiques may be counterproductive. What the EU should be doing though is supporting civil society groups, particularly lawyers, who are opposed to the junta and its fake constitution.
"I would suggest also a 'pincer movement' around Thailand in which, for example, the EU supports and monitors the November elections in Myanmar, encouraging the formation of a broad-based coalition government. The objective is to provide clear cases of democratic success. That would shame the Thais out of their sense of moral superiority."
He also argues that Thailand's stalled Free Trade Agreement (FTA) negotiations with the EU should continue to be put on hold, saying: "The EU's 'market power' through trade is one of our rare levers."
Maja Kocijancic, spokeswoman for the European Union External Action Service (EEAS), said, "As a friend and partner, the EU remains committed to the restoration of democracy in Thailand, as set out in the council conclusions of 23 June 2014.
"We note that the National Reform Council did not approve the draft charter, or draft constitution, and trust that there will be an inclusive process leading to a speedy return to democracy."
ขอขอบคุณ ข่าวและคลิปจาก EU Reporter
Friday, September 25, 2015
แกน นำแดง ปลุกผู้ลี้ภัยเพราะรัฐประหาร ฟ้องแพ่ง"ประยุทธ์"ที่ศาลแมนฮัตตัน นิวยอร์ค
แกน นำแดง ปลุกผู้ลี้ภัยเพราะรัฐประหาร ฟ้องแพ่ง"ประยุทธ์"ที่ศาลแมนฮัตตัน นิวยอร์ค โดยเรียกร้องให้ อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ดำเนินการยื่นฟ้องเป็นคนแรก .......
พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ จอม เพชรประดับ ใน Thaivoiemedia ....
กรณี นายประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าโจรกบฏ คสช นายกรัฐมนตรีที่ปล้นอำนาจประชาชน เดินทางมาร่วมประชุม ยูเอ็น ที่ นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ว่า..... คนไทยที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการรัฐประหาร สามารถยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเขตพื้นที่ศาลแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา..ได้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ พักชั่วคราวขณะนี้ ในข้อหาการละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาซึ่งไทยเองเป็นภาคีอยู่ด้วย...
เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้อำนาจยกเลิกหนังสือเดินทาง จับกุม คุมขัง ญาติพี่น้องในประเทศไทย รวมทั้ง การละเมิดสิทธิเสรีภาพของอย่างร้ายแรง โดยเรียกร้องให้ อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศและถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง ห้ามเข้าประเทศไทย ดำเนินการยื่นฟ้องเป็นคนแรก...
______________
ผบกระทบสิบประการ เมื่อ Single Gateway ที่รัฐบาลเผด็จการทำสำเร็จ
ใช่สิ ทักษิณโกงกินบ้านเมืองชนิดมีหลักฐานเต็มตา
- สั่งสลายการชุมนุม : ยกฟ้อง
- สั่งฆ่าคนตาย 99 ศพ : ยกฟ้อง
- หนีทหาร : ยกฟ้อง
- ทุจริต GT200 : ยกฟ้อง
- โกงโรงพัก 396 แห่ง : ยกฟ้อง
- โกงชุมชนพอเพียง โกงชาวบ้านตาดำๆ : ยกฟ้อง
- โกงไทยเข้มแข็ง มหากาพย์แบ่งเค๊กพรรคร่วม : ยกฟ้อง
- ทุจริตครุภัณฑ์อาชีวะศึกษา sp2 : ยกฟ้อง
- ทุจริตครุภัณฑ์สาธารณะสุข ล๊อคเสปค : ยกฟ้อง
- บุกรุกป่าสงวนเขาแพง : ยกฟ้อง
- ทุจริตปืนเล็กยาว (ทราโว่) : ยกฟ้อง
- ทุจริตรถหุ้มเกาะยูเครน (เอารถเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมาขาย): ยกฟ้อง
- ทุจริตประกันราคาข้าวอุ้มนายทุน: ยกฟ้อง
- ทุจริตแฟลตตำรวจ : ยกฟ้อง
- โยกย้ายข้าราชการไม่เป็นธรรม (จ่าเพียร)เกษียณด้วยชีวิต : ยกฟ้อง
- ทุจริตสั่งซื้อเครื่องบินการบินไทย : ยกฟ้อง
- ปรส. 800,000 ล้าน : ยกฟ้อง
- มิยาซาว่า : ยกฟ้อง
- ทุจริตคอมพ์โรงเรียน : ยกฟ้อง
- เช็คช่วยชาติ ซื้อเสียงล่วงหน้า : ยกฟ้อง
- ทุจริตปลากระป๋องชาวดอย ไม่มีโรงงานหนอนเพียบ : ยกฟ้อง
- นม(โรงเรียน)เน่า : ยกฟ้อง
- ข้าวบูด(ข้าวอยู่ในถุงยังชีพน๊ะจ๊ะ) : ยกฟ้อง
- โกงรถเมล์ : ยกฟ้อง
- ทุจริตเรือดับเพลิง (อภิรักษ์) แถมต้องเสียค่าเช่าที่จอดอีกหลายล้านและคดียังไม่สิ้นสุด ก็ต้องเสียไปเรื่อยๆสัส : ยกฟ้อง
- ทุจริตรถดับเพลิง (อภิรักษ์) : ยกฟ้อง
- ทุจริตสนามฟุตซอลหนองจอก ป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ : ยกฟ้อง
- ทุจริตโฮปเวล : ยกฟ้อง (เจ๊ปูสั่งทุบทิ้งไปแล้ว)
- ทุจริตงบประชาสัมพันธ์ ไอ้เตี้ยหนองใน : ยกฟ้อง
- ทุจริต จัดซื้อรถพยาบาล (รถกระบะหกแสน แม่งซื้อคันละล้าน): ยกฟ้อง
- ทุจริตรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพิ่มงบไปอีกหลายหมื่นล้าน : ยกฟ้อง
- ทุจริตหัวรถจักร (หัวรถไฟ) ล๊อคสเปคเอื้อพวกพ้อง : ยกฟ้อง
- ทุจริตถนนปลอดฝุ่นหลายหมื่นล้านบาท จนปลัด"ทรัพย์ล้อม"รวยอื้อ : ยกฟ้อง
- ทุจริตงบภัยพิบัติฉุกเฉิน : ยกฟ้อง
- ทุจริตสอบเข้า ร.ร. นายอำเภอ แกล้งทำข้อสอบรั่ว : ยกฟ้อง
- ซื้อขายตำแหน่งตำรวจ จ่ายกันเป็นกิโลเมตร (กิโลเมตรละล้าน) :ยกฟ้อง
- ซื้อ-ขายตำแหน่งผู้ว่า : ยกฟ้อง
- จ้างฝรั่งคิดนโยบายชั่งไข่ 70 ล้านบาท : ยกฟ้อง
- ร้องเพลงชาติ จังหวัดละล้าน : ยกฟ้อง
- ทุจริตข้าวโพด : ยกฟ้อง
- รมต.ตปท. ด่าผู้นำประเทศ(กัมพูชา)ว่ากุ้ยบ้าๆบอๆ : ยกฟ้อง
- เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ : ยกฟ้อง
- ทุจริตเรือเหาะ 370 ล้านบาท : ยกฟ้อง
- จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง : ยกฟ้อง
- ทุจริตกล้องCCTV กล้องดัมมี่ : ยกฟ้อง
- ขึ้นค่าทางด่วนเอาใจนักลงทุน : ยกฟ้อง
- ทุจริตสต๊อกน้ำมันปาล์ม : ยกฟ้อง
- เป็นนายกแต่มี 2 สัญชาติ : ยกฟ้อง
- อุโมงค์ ดัมมี่ (กทม.) : ยกฟ้อง
- ทุจริตชุมชนพอเพียง : ยกฟ้อง
- SMS อภิสิทธิ์ ใช้ภาษีประชาชน : ยกฟ้อง
- ทุจริตคอมพ์กระทรวงมหาดไทย : ยกฟ้อง
- ทุจริตแบบเรียน ป.3 : ยกฟ้อง
- ทุจริตเสาธง โรงพยาบาลโคตรแพง : ยกฟ้อง
- ครม.อนุมัติแดกด่วน กู้ 600,000 ล้าน ก่อนยุบสภา : ยกฟ้อง
- ทุจิรตโครงการต้นกล้าอาชีพ 6,900 ล้านโครงการต้องล่มกลางคัน : ยกฟ้อง
- พรก.ฉุกเฉิน ปี 53 แจ้งกำลังเกินจริง งบกว่า 5,000 ล้าน : ยกฟ้อง
- ทุจริตตัดล๊อคเสปค รถบรรทุกทหาร 3 ตัน สามพันกว้าล้าน : ยกฟ้อง
- ทุจริตประมูลสินค้าเกษตรมันสำปะหลัง ไม่โปร่งใส : ยกฟ้อง
- ซื้อเครื่องบินการบินไทยไม่มีเก้าอี้ : ยกฟ้อง
- เครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์หาย 5 เครื่อง : ยกฟ้อง
- TAXI ป้ายดำ อิทธิพลเถื่อน : ยกฟ้อง
- มาเฟียจอดรถสนามบินเกี่ยวโยงพรรค ปชป. : ยกฟ้อง
- กรุงเทพธนาคม : ยกฟ้อง
- ที่จอดรถ TAXI อัจฉริยะ : ยกฟ้อง
- ป้ายโฆษณาอัจฉริยะ : ยกฟ้อง
- เรื่องการบินไทย : ยกฟ้อง
Thursday, September 24, 2015
‘ทักษิณ’ แกล้งตายหรือใกล้ตาย?? โดยพูลเดช กรรณิการ์
เพราะก่อนหน้านี้ ทักษิณออกมาดับเครื่องชน คสช.อย่างรุนแรง เริ่มจากการออกมาพูดถึงเบื้องหลังการปฏิวัติเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีการยึดอำนาจของ คสช. และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการท้าทายให้ คสช.ถอดยศ รวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์ คสช.ในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างที่เดินทางไปพบคนไทยในฟินแลนด์และเยอรมัน
แต่ท่าทีล่าสุดระหว่างอยู่ในฮ่องกงเหมือนหนังคนละม้วน
โดยนายขวัญชัยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ระหว่างที่ ทักษิณพำนักอยู่ที่ฮ่องกงว่า ได้พูดคุยกับอดีตนายกฯทักษิณที่บอกกับเขาว่าให้แกล้งตายนานขึ้นอีกนิด สถานการณ์เวลานี้ให้นิ่งเฉยก่อน อย่าตื่นตระหนก และแกล้งตาย
"ท่านบอกผมว่า ให้คอยกระทั่งเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งนั่นจะเป็นช่วงที่เราจะได้รับชัยชนะ ตอนนี้มีเพียงแค่คำถามที่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่" นายขวัญชัยกล่าวกับรอยเตอร์
เป็นที่น่าสังเกตว่า นายขวัญชัยระบุกับรอยเตอร์ว่า ได้พูดคุยกับทักษิณเมื่อประมาณหนึ่งเดือนมาแล้ว ซึ่งเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วทักษิณยังเดินสาย โจมตี คสช.อยู่ในยุโรป แล้วจะสั่งไพร่พลให้แกล้งตายหรือ เพราะที่จริงจะต้องสั่งสู้
จากข้อสังเกตข้างต้น จึงเป็นไปได้สองทาง คือ หนึ่ง นายขวัญชัยเพิ่งคุยกับทักษิณในช่วงที่ทักษิณอยู่ในฮ่องกงนี่แหละ และทักษิณได้เปลี่ยนท่าทีผ่านมาทางนายขวัญชัย สอง มีการพูดคุยกันระหว่าง คสช.กับตัวแทนทักษิณในเมืองไทย และตกลงกันได้ โดยให้ทักษิณหยุดความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ เพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง ซึ่งทักษิณก็ตอบตกลง โดยนายขวัญชัยน่าจะมีส่วนอยู่ในการพูดคุยลับครั้งนี้ด้วย จึงถูกมอบหมายให้เป็นผู้ออกมาส่งสัญญาณถึงไพร่พลของทักษิณโดยอ้างทักษิณ
อีกคนหนึ่งที่ออกมาพูดถึงท่าทีของทักษิณในช่วงที่ ทักษิณอยู่ในฮ่องกง แต่ครั้งนี้ไม่ได้พูดโดยอ้างคำพูดทักษิณเหมือนเคย คือ นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว ที่กล่าวว่า ที่มีแหล่งข่าวใกล้ชิดอ้างว่าทักษิณจะออกคลิปวิจารณ์การเมืองและ คสช.นั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ให้ข่าว แต่เชื่อว่าจะไม่มีการออกคลิปใดๆ เพราะอดีตนายกฯคงอยากจะใช้ชีวิตเงียบๆ และไม่ประสงค์จะเป็นเงื่อนไขที่ถูกโยงไปให้เกิดความขัดแย้ง และคงจะไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองในประเทศ ดังนั้นแหล่งข่าวข้างต้นจึงให้ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความจริง
คำพูดของนายนพดลคือการพยายามยืนยันว่า ทักษิณหยุดรบ และจะไม่ออกมาชนกับ คสช. ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับที่นายขวัญชัยบอกว่า "แกล้งตาย"
ทำไมทั้งนายขวัญชัยและนายนพดลถึงต้องออกมาพูดแทน "นายใหญ่" ว่า "แกล้งตาย"
หนึ่ง เพราะทักษิณออกมาพูดเองไม่ได้ว่า แกล้งตาย เพราะหากพูดเองจะทำให้ไพร่พลในฝ่ายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการให้สู้เสียศรัทธา สอง ทั้งนายขวัญชัยและนายนพดลมองเห็นแล้วว่า สถานการณ์ในตอนนี้สู้ไปก็ "ตายจริงๆ" สาม เพื่อส่งสัญญาณตอบรับไปยัง คสช.ว่าจะหยุดรบ จนกว่าจะถึงเลือกตั้ง ขานรับตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ออกมาพูดถึงทักษิณว่า "ผมก็อยากให้ท่านอยู่เฉยๆก่อน ถ้าท่านอยากจะเล่นอะไร พรรคพวกจะทำอะไร ก็รอหลังมีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ขอให้นายกฯทำงานก่อน"
ข่าวว่า "บิ๊กป้อม" พูด ถึงทักษิณอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไม่ได้เคร่งเครียดอะไร คล้ายกับแน่ใจว่ายังไงทักษิณก็ต้องตอบรับ หรืออาจได้รับสัญญาณจากทักษิณมาแล้วว่าจะหยุด (แกล้งตาย)
คล้ายเป็นอาการอารมณ์ดีของผู้ชนะ
ทำไมทักษิณและแกนนำมวลชนคนสำคัญอย่างนายขวัญชัยและที่ปรึกษากฎหมายคู่ใจอย่างนายนพดล จึง "แกล้งตาย" ง่ายดายนัก
หรือแท้ที่จริงกำลัง "ใกล้ตาย" จึงแสร้งทำเป็น "แกล้งตาย" เพื่อกลบเกลื่อน
ถูกต้อง ทักษิณกำลังใกล้ตาย เพราะสถานการณ์หลายอย่างตกอยู่ในกำมือหรือการควบคุมของ คสช.เบ็ดเสร็จแล้ว
หนึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 5 แสน 1 หมื่นล้านบาท หากไม่จ่ายเงินชดใช้ก็จะถูกยึดทรัพย์ นอกจากนี้ยิ่งลักษณ์อาจติดคุกจากคดีเดียวกันนี้ด้วย
อย่างนี้เรียกว่าใกล้ตาย ไม่ใช่แกล้งตาย เพราะเมื่อ คสช.และรัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าในเรื่องเรียกชดใช้ค่าเสียหาย ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้า และหยุดไม่ได้
ทักษิณเจอดอกนี้เข้าไป ถึงกับนิ่งและแก้ลำไม่ออก แม้กระทั่งมุกเดิมที่เคยนำมาใช้สมัยตัวเองถูกยึดทรัพย์ โดยอ้างเป็นเรื่องการเมือง และเป็นเรื่องการใช้อำนาจจากคณะปฏิวัติ ก็นึกไม่ออก และไม่งัดมาใช้ เพราะเงินตั้ง 5 แสนล้าน เป็นใครก็ต้องมึน
สอง พานทองแท้ ชินวัตร ก็คอขึ้นเขียงในคดีทุจริตแบงก์กรุงไทยเช่นกัน หาก คสช.และรัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยไม่กลัวว่าจะถูกแฉกลับว่ามีคนในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีส่วนรับผลประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตนี้
สถานการณ์ของนายพานทองแท้ก็ถือว่าใกล้ตายตามยิ่งลักษณ์ไปอีกคน ทั้งน้องสาว ทั้งลูกชาย ใกล้ตาย
สาม แกนนำคนสำคัญในเครือข่ายทักษิณ ทั้งแกนนำในพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เข้าคุกไปครึ่งตัวเกือบทุกคนแล้ว เนื่องจากถูกศาลตัดสินจำคุก และทุกคนอยู่ในระหว่างประกันตัว ดังนั้น หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะต่อต้าน คสช.อีก ก็หนีไม่พ้นจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกเต็มตัว
ดังนั้น สถานการณ์ในส่วนไพร่พลของทักษิณถือว่า เดี้ยงทั้งกองทัพ ขณะที่อีกบางส่วนก็ต้องหนีไปต่างประเทศ ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นสู้กับ คสช.ได้ในตอนนี้ ถึงไม่อยากแกล้งตาย ก็ต้องแกล้งตาย ซึ่งที่จริงคือตายจริงๆแล้วในตอนนี้
สี่ นี่ยังไม่รวมกับการที่ คสช.และรัฐบาลเปิดเกมบุกรุกเข้าสู่พื้นที่ฐานมวลชนรากหญ้าของทักษิณ โดยใช้อดีตขุนพลคู่ใจของทักษิณ คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้าไป "ย้อนเกล็ด" ทักษิณ ซึ่งทักษิณยังรับมือไม่ถูกว่าจะสู้อย่างไรกับเกมบุกครั้งนี้ หรืออาจต้องยอมถูกบุกไปก่อน เพื่อต่อรองหรือแลกกับอะไรบางอย่าง
ทั้งสี่สถานการณ์ข้างต้น ซึ่งอยู่ในกำมือของ คสช.ถึง 3 สถานการณ์ ยกเว้นสถานการณ์ที่สี่ ทำให้ทักษิณต้องแกล้งตาย โดยบอกว่าจะไปสู้ในตอนเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าตัวเองจะชนะอีกครั้ง
ซึ่งเป็นการแกล้งตาย เพื่อรักษาชีวิตยิ่งลักษณ์ พานทองแท้ และแกนนำคนสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ แกล้งตายเพื่อหวังต่อรองไม่ให้ถูกชดใช้ค่าเสียหายและถูกยึดทรัพย์อีกรอบ
ทว่า หากมองให้ขาดจะพบว่า การแกล้งตายครั้งนี้ จะนำไปสู่การตายจริงๆของระบอบทักษิณในที่สุด เพราะยังไงคดีของยิ่งลักษณ์ พานทองแท้ และแกนนำคนสำคัญ นั้นก็ไม่สามารถ "ถอยหลัง" ได้ (ก็เหมือนกับคดีของทักษิณ) ทุกคดียังไงก็ต้องเดินหน้า อย่างดีที่ทำได้คือถ่วงเวลาไว้เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าทักษิณจะไม่สามารถลุกขึ้นต่อกรกับ คสช.ได้อีกเลย ขณะที่อีกด้านหนึ่ง คสช.ก็จะต้องใช้ห้วงเวลาที่ทักษิณแกล้งตาย รุกคืบขจัดฐานกำลังและยึดคืนพื้นที่ทางการเมืองทุกอย่างของทักษิณกลับคืน รวมทั้งการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อตัดรากถอนโคนระบอบทักษิณอย่างสิ้นซาก
ดังนั้น เมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ทักษิณคงจะไม่มีแรงเคลื่อนไหวอะไรอีก เพราะ คสช.คงไม่ยอมปล่อยให้ทักษิณแกล้งตาย แต่คงทำให้ตายจริงๆไปเลย ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า!!!
เลห์กลในสงครามข่าวสาร ของเผด็จการศักดินา
เลห์กลในสงครามข่าวสาร ของเผด็จการศักดินา
.........................
ผด็จการ(ทหาร)+อำมาตย์มีวิธีการเล่นสงครามข่าวโดยการเอาข่าวหนึ่งมากลบอีก ข่าวหนึ่งเพื่อเบี่ยงเบนกระแสต่อต้านของประชาชนขอให้พี่น้องฝ่ายปชต.รู้เท่า ทันเลห์กลอันชั่วร้ายของเผด็จการศักดินายกตัวอย่างเหตุการณ์ข่าวที่ผ่านมา ดังนี้
1.ข่าวนักศึกษาดาวดินถูกจับกุมขังเริ่มก่อกระแสความไม่พอใจของประชาชนไปในวง กว้างมากยิ่งขึ้นในห้วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีข่าวน้องแตงโม.แตงเน่ากินยาฆ่า ตัวตายหลังจากผิดหวังจากโตโน่ข่าวกินยาฆ่าตัวตายของน้องแตงเน่าถูกปลุกความ สนใจมากกว่าข่าวนักศึกษาดาวดินที่ถูกคุมขัง
2.ข่าวรัฐบาลประยุทธส่งผู้อพยพอุยกูร์ให้จีนได้สร้างความไม่พอใจของผู้ นับถือศาสนาอิสลามไปอย่างกว้างขวางเริ่มก่อกระแสความไม่พอใจของคนไทยไปในวง กว้างในระหว่างนั้นก็มีข่าวว่าจีนพบกล่องดำของสายการบินมาเลย์เซียแอร์ไลน์ ที่สูญหายไปและรัฐบาลมาเลเซียสร้างความผิดพลาดจนทำให้คนบนเครื่องบินต้องหาย สาปสูญ
ข่าวดังกล่าว มีผลให้ข่าวส่งผู้อพยพอุยกูร์เบาบางลงและเริ่มเงียบไปจนมาเกิดเหตุระเบิดราช ประสงค์เรื่องราวดังกล่าวจึงถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง
3.ข่าวผู้รักประชาธิปไตยแสดงออกด้วยการเดินจาก มธ.ไปอนุเสาวรีย์ ปชต.สามารถกระตุ้นให้ประชาชนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความเป็นประชาธิปไตยและในขณะ เดียวกันที่บิ๊กเหล่ประยุทธเตรียมตัวเดินทางไปนิวยอร์คได้เกิดกระแสเตรียม การประท้วงโดยคนไทยผู้รักปชต.ที่หน้าองค์การสหประชาชาตินิวยอร์คและเริ่มจุด กระแสความสนใจของผู้รักปชต.ไปทั่วประเทศ
.....อยู่ดีๆก็มีข่าว"ตั้น" จิตภัส กฤดากร(ภิรมย์ภักดี) กำลังจะได้รับการติดยศเป็นร.ต.ต.หญิงตำเหน่งรองสารวัตรข่าวดังกล่าวจุดพลุ ความไม่พอใจต่อวงการตำรวจและผู้รักปชต.อย่างรุนแรงเพราะตั้นคือหนึ่งใน นกหวีดที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีตำรวจและขบวนหารยุติธรรมแต่ข่าวดังกล่าวมีผลให้ ข่าวความไม่ชอบธรรมหรือเลวร้ายของรัฐบาลเผด็จการทหารที่กำลังเกิดกระแสต่อ ต้านไปทั่วประเทศได้ถูกกลบด้วยข่าว"ตั้น"ในชั่วข้ามคืน
................................
หมายเหตุ
1.กรณีข่าวจากเหตุการณ์ต่างๆทำให้มองเห็นเลห์กลของเผด็จการศักดินาที่พยายามเบี่ยงเบนความสนใจต่อการกระทำอันล้มเหลวของตนเอง
2.ประชาชนผู้รักปชต.ที่กำลังต่อสู้กับเผด็จการศักดินาควรรู้เล่ห์กลในการ เล่นสงครามข่าวสารเพราะฝ่ายเผด็จการศักดินาจะอาศัยประสบการณ์ เครื่องมือรัฐตลอดจนกลไกราชการเพื่อกลบเกลื่อนหรือเบี่ยงเบนข่าวสาร ที่มีผลกระทบต่อตัวเอง
3.ข่าวของบุคคลบางคน จะมีอิทธิพลในการจูงใจต่อความสนใจค่อนข้างแรงเช่นข่าวแตงโมข่าวตั้น ซึ่งเป็นบุคคลที่ฝ่ายปชต.ไม่พอใจและเกลียดชังอยู่แล้วการเล่นข่าวของบุคคล ดังกบ่าวของเผด็จการศักดินาจะสามารถกลบเกลื่อนหรือเบียงเบนความสนใจของ ประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้นประชาชนผู้รักปชต.ควรรู้เท่าทันหากจะติดตามข่าว"ตั้น"ได้รับการอวยยศ หรือไม่ก็ไม่ควรทิ้งเป้าหมายในการเล่นข่าวความเลวร้ายหรือล้มเหวจากการกระทำ อันไม่ชอบธรรมของเผด็จการศักดินาเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายในความเป็น ประชาธิปไตย..อย่างแท้จริง
“ทำไมคนไทยหลายคนต้องหลบลี้ หนีภัย ไปอยู่ต่างประเทศ”
Wednesday, September 23, 2015
การฟ้องคดีในสไตล์ อเมริกา มีลักษณะเช่นใด?
การฟ้องคดีในสไตล์ อเมริกา มีลักษณะเช่นใด?
๑. การฟ้องคดีในสไตล์อเมริกา จะถือว่า เป็นความลับสุดยอดในระหว่าง โจทก์ ผู้ฟ้องคดี กับ ศาลผู้รับคำฟ้อง (การฟ้องคดีแพ่ง) ในเรื่องฐานความผิด ที่ผู้เป็นโจทก์ นำมากล่าวอ้าง เพื่อฟ้องคดี
๒. เมื่อผู้เป็นโจทก์ ฟ้องคดี (ทางแพ่ง) เข้ามา เมื่อศาล (ผู้พิพากษา)ได้ตรวจดูคำฟ้องที่รับมาจาก เจ้าหน้าที่ศาล ผู้รับฟ้องแล้ว (Registration Officer) เมื่อเห็นว่า คำฟ้อง ได้อ้างอิง หลักการ ในฐานความผิด ที่ได้ฟ้องอย่างถูกต้อง สมบูรณ์แล้ว และ มีข้อเท็จจริงที่ใช้เป็นหลักแหล่งอ้างอิง ในการฟ้องคดีของโจทก์ ครบถ้วนสมบูรณ์ ตามข้อหาที่ฟ้อง
๓. ผู้พิพากษา หรือ ศาล ก็จะรับฟ้องนั้นไว้เพื่อพิจารณาต่อไป โดยศาลจะนำคำฟ้องนั้น ใส่ลงในซอง แล้วปิดผนึก พร้อมกับบันทึกเลขรับคดี (Docket Number) ลงบนหน้าซองที่ใส่คำฟ้องนั้น ที่ปิดผนึกแล้ว ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ศาลผู้รับฟ้องเพื่อ (Registration Officer) ให้นำไปบันทึกเลขฟ้องคดี ทั้งนี้เพื่อจะเตรียมจัดส่งหมายแก้คดี แก่จำเลย และเอกสารอื่นที่จำเป็นสำหรับ U.S. Marshal หรือตัวแทน เพื่อส่งสำเนาคำฟ้อง และหมายแก้คดีแก่จำเลย ต่อไป
๔. เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลผู้รับฟ้อง (Registration Officer) ได้ไปดำเนินการตามข้อที่ ๓ แล้ว ก็จะนำซองใส่คำฟ้อง ที่ปิดผนึก นำส่งคืนแก่ผู้พิพากษา หรือศาล เพื่อนำไปใส่ซองพลาสติค ที่มีซิป (Zip) แล้วใส่ซองนั้นลงในซองพลาสติค แล้วรูดปิดซิป แล้วจึงนำไปใส่ในไฟล์ที่มี ขอเพื่อเกี่ยวห้อยในตู้นิรภัย หรือ ตู้เซฟของศาล
๕. แล้วก็นำเข้าเก็บในตู้เซฟ หรือ ตู้นิรภัย แล้วผู้พิพากษา หรือศาล ก็จะหมุนระหัสเพื่อปิดตู้เซฟ หรือ ตู้นิรภัยนั้น ในชั้นฟ้องคดี จึงเป็นเรื่อง ที่เป็นความลับในระหว่างโจทก์ผู้ฟ้องคดี กับศาลเท่านั้น ไม่มีใครที่จะล่วงรู้ได้ว่า คำฟ้องของผู้เป็นโจทก์ ฟ้องจำเลยในข้อหาใด? มีพยานหลักฐานใด? และฟ้องอาศัยหลักแหล่งแห่งหนใดในข้อหา? มีกฏหมายใดสนับสนุน
๖. เมื่อโจทก์ และ/หรือทนายของโจทก์ มาแจ้งแก่ศาลว่า จำเลยที่ฟ้องคดีไว้ ในขณะนี้อยู่ที่ใด? มีภูมิลำเนาตรงตามคำฟ้องหรือไม่? จึงเป็นเรื่องของโจทก์ผู้ฟ้องคดี และทนายจะต้องเป็นผู้แจ้งแก่ศาล เพื่อจะจัดส่งคำฟ้อง และคำแก้คดีแก่ฝ่ายจำเลย โดยผู้เป็นโจทก์ต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งแก่ศาล ผ่าน เจ้าหน้าที่ศาลผู้รับฟ้อง (Registration Officer)
๗. เมื่อศาลได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ศาลผู้รับฟ้อง (Registration Officer) คดี ศาลก็จะเรียก U.S. Marshal หรือผู้แทน มาพบเพื่อนำสำเนาคำฟ้อง และหมายแก้คดี ไปส่งแก่จำเลยยังถิ่นฐาน ที่มีตัวจำเลยอยู่ในเขตอำนาจของศาล พร้อมกับโจทก์ผู้ฟ้องคดี
๘. เมื่อ U.S. Marshal หรือ ผู้แทน ไปกับโจทก์ เพื่อส่งสำเนาคำฟ้อง และหมายแก้คดีแก่จำเลยแล้ว ก็จะกลับมากรอกแบบฟอร์ม เพื่อแจ้งแก่ศาลถึง ผลการส่งสำเนาคำฟ้อง และ หมายแก้คดี แก่จำเลย ที่ได้จัดส่งไปให้แก่จำเลย จนครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
๙. เมื่อได้จัดส่งสำเนาคำฟ้อง และ หมายแก้คดีแก่จำเลยแล้ว ตรงนี้เอง ที่คำฟ้องคดีของโจทก์ ผู้ฟ้องคดี จะไม่เป็นความลับ อีกต่อไป เพราะจำเลยได้รับทราบคำฟ้อง และข้อหา และข้อเท็จจริงในคำฟ้องทั้งหมดแล้ว จำเลย จึงมีหน้าที่ต้องมาแก้ต่างในคดี โดยปกติ จำเลย ต้องแต่งตั้งทนายเข้ามา เพื่อต่อสู้คดีภายใน ๒๔ – ๔๘ ชั่วโมงนับแต่รับคำฟ้อง
๑๐. ส่วนคู่ความทั้งสองฝ่าย จะมากำหนดวัน เพื่อทำการสืบพยาน ในระบบไต่สวน กับศาล หรือ ผู้พิพากษาเจ้าของคดี โดยคู่ความทั้งสองฝ่าย มีเวลาเตรียมคดี และพยานหลักฐานในคดี อย่างช้าภายในกำหนดเวลา ๓๐ วัน ในชั้นแรก และต้องให้โอกาศคู่ความฝ่ายตรงกันข้าม มีโอกาศได้ตรวจดูพยานหลักฐานในคดี และยื่นคำคัดค้านพยานหลักฐานได้ในเวลา อันพอสมควร
ดร.เพียงดิน รักไทย 2014-10-28 ตอน สู่เส้นทางปฏิวัติ (ของจริง) สรุปบทเรียนและกำหนดเส้นทาง
Tuesday, September 22, 2015
สงกรานต์ กระจ่างเนตร แนะนำประยุทธ์ เรื่องไปอยู่ที่ยูเอ็น
คุณสงกรานต์เริ่มต้นด้วยการอวยพรให้นายกฯและคณะโชคดี ก่อนที่จะบอกว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ต้องเตรียมพร้อมพลเอกประยุทธ์อย่างรัดกุม ว่าควรจะต้องปรับทัศนคติของตัวเองให้มีเหตุมีผลมากขึ้น ในการพูดจาในประเทศเสรีประชาธิปไตย ที่นักข่าวถูกฝึกมาเหมือนกับสุนัขตำรวจให้พร้อมจะกัดไม่ปล่อย หากเจอวาทะปกปิดหลอกลวง หรือไม่มีเหตุมีผลเพียงพอ
คุณสงกรานต์ยังให้คำแนะนำแก่พลเอกประยุทธ์ถึง 3 ข้อ ในการเอาตัวรอดจากการปรากฏตัวในเวทียูเอ็นครั้งนี้ นั่นก็คือ
1. ไม่ควรปฏิเสธว่าไทยไม่ได้ปกครองด้วยเผด็จการทหารอย่างที่รัฐมนตรีดอนทำในการสัมภาษณ์หลายครั้งที่ผ่านมา เพราะการจับกุมนักศึกษาที่เดินขบวนอย่างสงบ และการคุมขังนักข่าวที่แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ บ่งบอกว่าไทยไม่ได้แค่ไม่มีประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังปราศจากหลักนิติรัฐด้วย
2. การที่นายกฯระเบิดอารมณ์หรือแสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่สื่อต่างประเทศ จะไม่ถูกมองเป็นเรื่องตลกขำขันเหมือนที่ทำกับสื่อไทยแน่นอน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อน พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ไปเล่นมุขสารภาพรักกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน จนเป็นเรื่องฮือฮากันทั้งโลก คุณสงกรานต์แนะนำว่าถ้านายกฯหรือรัฐมนตรีดอนจะสารภาพรักก็ขอให้บอกรักประเทศชาติและในหลวงจะดีกว่า
3. เมื่อนายกฯได้มีโอกาสไปนิวยอร์กแล้ว ก็ควรไปเยือนสถานที่ที่คุณสงกรานต์เคยมีโอกาสไปศึกษา นั่นก็คือมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เพื่อซึมซับบรรยากาศในที่ที่ไม่มีการละเมิดเสรีภาพทางวิชาการ และส่งเสริมความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อการแลกเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์ และลองเรียกหนึ่งในศาสตราจารย์ของโคลัมเบียมา "ปรับทัศนคติ" ดู จะได้รู้ว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
คุณสงกรานต์ปิดท้ายว่าตนเองรักชาติ และเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ก็รักชาติเช่นเดียวกัน แม้จะมีความเห็นสวนทางกันว่าประเทศควรเดินหน้าไปในทิศทางใด โดยคุณสงกรานต์มองว่าประเทศจะต้องเดินหน้าไปภายใต้การรับฟังความเห็นของประชาชน ไม่ใช่ปราบปรามกดขี่ และต้องปฏิรูปทัศนคติแบบไทยๆ สร้างสังคมที่เปิดกว้าง ให้โอกาสคนเก่งขึ้นมาสู่ระดับบนของสังคมได้ด้วยศักยภาพของตนเอง ไม่ใช่เส้นสาย มิฉะนั้นสิ่งที่จะขึ้นมาอยู่ในระดับบนของประเทศ จะไม่ช่หัวกะทิ แต่เป็นอย่างอื่นแทน
อย่ากินปลา Dory กันนะ มันเป็นปลาเลี้ยงของเวียดนาม
อุ๊ยตาย..อกอีแป้นจะแตก..รู้ป่าว..รางวัลที่ “ปายุด” จะไปรับเนี่ยมันเป็นผลงานของ “อีปูร์ “ นะ..
อุ๊ยตาย..อกอีแป้นจะแตก..รู้ป่าว..รางวัลที่ "ปายุด" จะไปรับเนี่ยมันเป็นผลงานของ "อีปูร์ " นะ..
ไม่มีสาวกตัวไหนรู้เรื่องนี้เลยเร๊อะ...แถมประโคมข่าวด้านเดียว.."ปายุด รับรางวัล" ๆๆๆๆๆๆ
เผด็จการนี่....ถึงมันจะเกลียดปลาไหลแต่มันก็กินน้ำแกงนะ...
เชิญอ่านข่าวที่เขาส่งมาให้ผมจากอเมริกาครับ:
ประยุทธ์ จันทร์โอชา......จะเหนียมหรือละอายใจบ้างไหมเนี่ย
ถ้าคนทั้งโลกรู้ว่ารางวัลที่ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะไปรับที่ยูเอ็น
เป็น ส้มหล่นมาจากผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเหมือนกับที่ธนศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์อดีต รมต. ต่างประเทศของไทยไปเอาหน้าที่ยูเอ็นเมื่อปีก่อนเรื่องการรักษาสุขภาพถ้วน หน้าซึ่งเป็นผลงานของทักษิณ
บรรดาผู้ยกย่องบูชาท่านผู้นำหัวหน้าเผด็จการไทยต่างกระตู้วู้ ดีใจช่วยกันกระจายข่าวนี้กันอย่างเอิกเกริกว่าประยุทธ์ จันทร์โอชาได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล ICTs In Sustainable Develpment Award (หรือรางวัลการพัฒนาที่ยั่งยืนของ ICT) ที่ยูเอ็น แต่หารู้ไม่ว่านั่นมันเป็นผลงาน "อีปูร์"
รางวัลนี้มอบในนามของสหภาพการโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (หรือ International Telecommunication Union) ในระหว่างงานเลี้ยง Gala Celebration ในตอนค่ำของวันเสาร์ที่ 26 กันยายน ที่ห้อง The Delegates Dining Room บนชั้น 4 ของตึก United Nations Headquarter ห้องอาหารนี้หันหน้าออกสู่แม่น้ำ Hudson มองเห็นวิวสวยๆและแสงสีของ Manhattan
ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้มี 10 ท่าน ไม่ใช่มีเพียงประยุทธ์ จันทร์โอชาเพียงคนเดียวอย่างที่สลิ่มไทยเข้า มีใครที่ได้รับรางวัลบ้างตรวจสอบได้จากภาพที่แนบมา แต่อยากบอกให้โลกรู้ว่ารางวัลนี้มันเป็นผลงานของ "อีปูร์" ไม่ใช่ของประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้ฉุนเฉียว
ผลงานของประยุทธ์ จันทร์โอชาคือยกเลิกโครงการณ์แจกฟรี tablet ปี ละเป็นล้านเครื่องเพื่อการเรียนการสอนให้นักเรียน ไล่ปิดวิทยุชุมชน ไล่ปิดสถานีโทรทัศน์ของคนเสื้อแดง ไล่ปิดเวปไซ้ท์ ไล่ล่าคนเล่นเฟสบุ๊คด้วยข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ไล่ล่าคนเล่นเนตด้วยข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ...ผลงานที่ร่ายมาอย่างคร่าวๆข้างต้น ICT คงไม่มอบรางวัลให้แน่นอน