https://www.youtube.com/watch?v=wukVZieVT08
ยินดีต้อนรับ
พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.
Friday, July 31, 2015
PIANGDIN ACADEMY สำนักวิชาชาวดิน: ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 31 ก.ค. 2558 ...
PIANGDIN ACADEMY สำนักวิชาชาวดิน: ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 31 ก.ค. 2558 ...: ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 31 ก.ค. 2558 ตอน" ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง" วาทกรรมดูถูก ปชช. และทำไม คสช. ไม่กลัวอเมริก...
Tuesday, July 28, 2015
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28 ก.ค. 2558
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28 ก.ค. 2558
เกมการเมืองพิษเศรษฐกิจ! บีบสุเทพลูกป๋าเดินออกจากวัด มุ่งธุรกิจการเมือง เรื่องมีอยู่ว่ามีนายทุนฝั่งทางป๋า ขัดใจนายกลุงตู่แล้ว เคาะตัวเลขลงขันตัดขาดประยุทธ์ ส่งผลดีให้กับทางอุดมเดชไปเต็มๆ พวกกระจอกข่าวอดลือสะพัดไม่ได้ เตรียมส่งอุดมเดชให้ปฎิวัติซ้อนเพื่อตัดหาง ปรีชา-ธีรชัย ออกนอกแถว ผบ.ทบ. มรสุมทางการเมืองจะพัดพา พวกคนของป๋าผงาดครองอำนาจทางการเมืองยาว ก่อนมี
การเมืองใหม่ ใช้แกน อุดมเดช-สุเทพ ตกลงเป็นหุ้นส่วนชนรัฐบาลประยุทธ์ให้ล้มครืนเป็นสุญญากาศ เขี่ยประวิตร-ประยุทธ์ทิ้ง เริ่มคำจำกัดความการปิดประเทศถาวร พลเอกอุดมเดช-นายสุเทพต้องอยู่ในวงที่ป๋าเตรียมขีดเส้นให้ อุดมเดชได้รับตำแหน่งนายกคนใหม่ไปครอง สุเทพได้เงินก่อนใหญ่ไปเพราะกล้าประกาศไม่ลงเลือกตั้งสุเทพเชื่อว่าตามเกมโรดแม๊บที่รับมาไม่มีการเลือกตั้งในประเทศนี้แน่นอนหลังอุดมเดชยึดอำนาจแล้ว
ย่างเข้ากลางเดือนสิงหา ก่อนถึงเดือนกันยา ตามที่คนใกล้ชิดของพลเอกอุดมเดช เผลอไปปล่อยข่าวรั่วไว้ทางอีสานตอนบน แหล่งขุมกำลังจะขนจากหน่วยรบพิเศษ นรศ.ลพบุรี เตรียมการไว้พร้อมหมดหลายเดือนแล้ว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ละฝ่ายของกองทัพที่แปรพักตร์ไปมา เมื่อผลประโยชน์ลงตัว ได้มีการแจกเงินทุนให้ทุกคนเพื่อเป็นขวัญแขะกำลังใจในการส่องสุมกำลังแข่งกัน สายข่าวของนายกรัฐมนตรีได้รู้การระแคะระคายถึงเรื่องการจ่ายเงินส่งค่าจ้างให้ผบ.ทบ. ทำปฏิวัติซ้อน จากการลงขันของพวกนายทุนสายป๋า ใช้ต้นทุนสูงทั้งกำลังเงินและชีวิตของทหารทุกระดับชั้น เป็นการชิงอำนาจกันเองของทหาร โดยทางพลเอกประยุทธ์ถึงกับต้องข่มพลเอกสุรยุทธ์ในที่สาธารณะ เพื่อบอกใบ้เป็นนัยๆพี่อย่าพยายามนะ นายกรู้หมดใครทำอะไร ทหารก็จะมีแต่ความระแวงระวังตัวกันสูงขึ้นไป ผู้พันสายคุมกำลังคนหนึ่งแจ้งมาว่ามีสัญญาณแปลกๆส่งพลังสูง ให้วางเฉยกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายล้มรัฐบาล ทางฝ่ายทหารคุมสายการข่าวก็เชื่อว่าการปฏิวัติซ้อนจะเกิดขึ้นแน่นอน
[7/28/15, 6:14:06 AM] แมงโม้: ข่าวด่วน ทางทอมใช้ความเป็นอาจารย์สยบสายกำลังเหล่
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28
สุเทพ สึกมาทำไม? ข่าวลับกรองแล้ว ทหาร กอ.รมน.ส่งมา 28
เกมการเมืองพิษเศรษฐกิจ! บีบสุเทพลูกป๋าเดินออกจากวัด มุ่งธุรกิจการเมือง เรื่องมีอยู่ว่ามีนายทุนฝั่งทางป๋า ขัดใจนายกลุงตู่แล้ว เคาะตัวเลขลงขันตัดขาดประยุทธ์ ส่งผลดีให้กับทางอุดมเดชไปเต็มๆ พวกกระจอกข่าวอดลือสะพัดไม่ได้ เตรียมส่งอุดมเดชให้ปฎิวัติซ้อนเพื่อตัดหาง ปรีชา-ธีรชัย ออกนอกแถว ผบ.ทบ. มรสุมทางการเมืองจะพัดพา พวกคนของป๋าผงาดครองอำนาจทางการเมืองยาว ก่อนมี
การเมืองใหม่ ใช้แกน อุดมเดช-สุเทพ ตกลงเป็นหุ้นส่วนชนรัฐบาลประยุทธ์ให้ล้มครืนเป็นสุญญากาศ เขี่ยประวิตร-ประยุทธ์ทิ้ง เริ่มคำจำกัดความการปิดประเทศถาวร พลเอกอุดมเดช-นายสุเทพต้องอยู่ในวงที่ป๋าเตรียมขีดเส้นให้ อุดมเดชได้รับตำแหน่งนายกคนใหม่ไปครอง สุเทพได้เงินก่อนใหญ่ไปเพราะกล้าประกาศไม่ลงเลือกตั้งสุเทพเชื่อว่าตามเกมโรดแม๊บที่รับมาไม่มีการเลือกตั้งในประเทศนี้แน่นอนหลังอุดมเดชยึดอำนาจแล้ว
ย่างเข้ากลางเดือนสิงหา ก่อนถึงเดือนกันยา ตามที่คนใกล้ชิดของพลเอกอุดมเดช เผลอไปปล่อยข่าวรั่วไว้ทางอีสานตอนบน แหล่งขุมกำลังจะขนจากหน่วยรบพิเศษ นรศ.ลพบุรี เตรียมการไว้พร้อมหมดหลายเดือนแล้ว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ละฝ่ายของกองทัพที่แปรพักตร์ไปมา เมื่อผลประโยชน์ลงตัว ได้มีการแจกเงินทุนให้ทุกคนเพื่อเป็นขวัญแขะกำลังใจในการส่องสุมกำลังแข่งกัน สายข่าวของนายกรัฐมนตรีได้รู้การระแคะระคายถึงเรื่องการจ่ายเงินส่งค่าจ้างให้ผบ.ทบ. ทำปฏิวัติซ้อน จากการลงขันของพวกนายทุนสายป๋า ใช้ต้นทุนสูงทั้งกำลังเงินและชีวิตของทหารทุกระดับชั้น เป็นการชิงอำนาจกันเองของทหาร โดยทางพลเอกประยุทธ์ถึงกับต้องข่มพลเอกสุรยุทธ์ในที่สาธารณะ เพื่อบอกใบ้เป็นนัยๆพี่อย่าพยายามนะ นายกรู้หมดใครทำอะไร ทหารก็จะมีแต่ความระแวงระวังตัวกันสูงขึ้นไป ผู้พันสายคุมกำลังคนหนึ่งแจ้งมาว่ามีสัญญาณแปลกๆส่งพลังสูง ให้วางเฉยกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายล้มรัฐบาล ทางฝ่ายทหารคุมสายการข่าวก็เชื่อว่าการปฏิวัติซ้อนจะเกิดขึ้นแน่นอน
[7/28/15, 6:14:06 AM] แมงโม้: ข่าวด่วน ทางทอมใช้ความเป็นอาจารย์สยบสายกำลังเหล่
Monday, July 27, 2015
สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: เอกสารลับ เปิดแผนชั่ว สุเทพ-อภิสิทธิ์-และทหารหมาฯ ...
เอกสารลับ เปิดแผนชั่ว สุเทพ-อภิสิทธิ์-และทหารหมาฯ ในฆาตกรรมหมู่ 2553
ต้อนรับการก้าวออกมารับกรรมหนัก ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
หมดเวลาได้รับการคุ้มครองด้วยผ้าเหลืองแล้ว น่าเศร้า...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1308976398
เอกสารลับ ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 ( ตอน 2) กระสุนจริงและสไนเปอร์
วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:45:00 น.
หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารเสนาธิปัตย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2553 เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อประกอบการจัดทำ”เอกสารแนวทางในการปฏิบัติทางทหาร: กรณีศึกษาการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเมือง” จากความริเริ่มของพล.ท.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เพื่อกำหนดบทบาทของกองทัพบกในการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในเมืองรูปแบบใหม่
(ตอน2)
ความสำเร็จทางยุทธการ : การกระชับวงล้อมพื้นที่ราชประสงค์
1.แผนยุทธการมีพื้นฐานและสอดรับกับความสำเร็จทางยุทธศาสตร์ทางทหารและนโยบายของรัฐบาล
2.แผนยุทธการมีการวางแผนเป็นขั้นตอนรัดกุมมีเสรีในการปฏิบัติตามกรอบเวลามีการวางแผนและปฏิบัติโดยปราศจากแรงกดดันด้วยเวลา
3.การปฏิบัติการข่าวสารนับว่าเป็นผลในระดับยุทธการ ทั้งในส่วนการสร้างขวัญและกำลังใจของฝ่ายปฏิบัติการ และลดขวัญกำลังใจของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย
4.ความสำเร็จของการปฏิบัติงานด้านการข่าวในพื้นที่กลุ่ม นปช.ทำให้สามารถใช้หน่วยได้ตรงกับขีดความสามารถและถูกต้องเหมาะสมกับภารกิจ ยกตัวอย่าง การใช้หน่วยสไนเปอร์ของทุกกรม โดยเฉพาะกับพื้นที่ตึกสูงตามเส้นทางถนนวิทยุและสายสารสิน
5.ความสำเร็จในการจู่โจม แม้ว่าแผนยุทธการครั้งนี้ไม่สามารถจู่โจมด้วยเวลาได้ ก็มีการแก้เกมด้วยการจู่โจมด้วยความเร็วโดยการส่งล่วงหน้าเข้ารักษาความปลอดภัยบนพื้นที่อาคารสูง การเข้ายึดพื้นที่สวนลุมพินีเป็นส่วนใหญ่ได้ก่อนสว่าง และการรุกเข้าพร้อมกัน 3 ทิศทาง
6.การปฏิบัติตามแผนยุทธการ กระทำด้วยการรุกคืบด้วยความระมัดระวังของแต่ละพื้นที่โดยการประเมินศักยภาพของกำลังการ์ดนปช.ให้สูงกว่าเมื่อครั้ง10 เมษายน เพื่อให้มีระบบป้องกันตัวทหารที่มากขึ้น ดังนั้นการปฏิบัติการทางทหารที่ใช้กำลังทหารประมาณ 2 หมื่นนาย มีการสูญเสียทหาร 1 นาย กับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นความสูญเสียที่ยอมรับได้
7.กองกำลังการ์ด นปช.มีการตั้งรับแบบกองโจรวางกำลังเต็มพื้นที่ ขาดผู้เชี่ยวชาญการวางกำลังตั้งรับและร่นถอยแบบทหารที่แท้จริง เนื่องจากการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ทำให้จุดศูนย์ดุลของ นปช.กลายมาเป็นจุดแข็งของการปฏิบัติของกองทัพ
8.แผนยุทธการเป็นการวางแผนการปฏิบัติรบเต็มรูปแบบเสมือนการทำสงครามรบในเมือง ใช้กำลังขนาดใหญ่ถึง 3 กองพล วางแผนเข้าปฏิบัติการ ซึ่งมีอำนาจกำลังรบเปรียบเทียบสูงกว่ามาก ยิ่งมีการสั่งการให้ใช้กระสุนจริงกับกลุ่มกลุ่มก่อการร้ายผู้ถืออาวุธ และเพื่อป้องกันตัวเองได้ ทำให้ทหารที่เคยสูญเสียความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์ 10 เมษายน ก็มีจิตใจรุกรบมากขึ้น
9.แผนยุทธการในการรุกผ่านฝ่ายเดียวกันจากถนนสาทร ถนนสีลม ถนนสุรวงศ์ และถนนวิทยุ ทำให้กองกำลังทหารสามารถรักษาโมเมนตัมในการปฏิบัติการได้อย่างตอ่เนื่อง และสามารถพิทักษ์ป้องกันพื้นที่ส่วนหลัง (พื้นที่สีลม) ได้อย่างปลอดภัย
10.ความมีเอกภาพในการปฏิบัติ จากการสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 1 กับกองกำลัง 3 กองพลให้ปฏิบัติการได้ถูกจังหวะการรุกและการหยุดหน่วย เพื่อผลการรุกของหน่วยอื่นหรือรอเวลาสำหรับการปฏิบัติชั้นสุดท้าย ยกตัวอย่างหน่วยรุกแตกหัก ได้แก่ พล ม.2 รอ.จากทิศทางสีลมมุ่งสู่สี่แยกศาลาแดง ส่วนที่ 2 กองพลที่เหลือคือ พล.ร.9 รับผิดชอบพื้นที่แยกอโศก เพลินจิต ชิดลม และ พล.1 รอ.รับผิดชอบพื้นที่ดินแดง พญาไท ราชปรารภ กำลังส่วนนี้ต้องตรึงกำลัง ปิดเส้นทางหลบหนี ขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุม นปช.ได้ทยอยออกจากพื้นที่ราชประสงค์ผ่านถนนพระราม 1 ไปแยกปทุมวัน หรือเข้าไปในวัดปทุมวนาราม
ความสำเร็จทางยุทธวิธี : การกระชับวงล้อมพื้นที่ราชประสงค์
ยุทธการกระชับวงล้อมเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เป็นการปฏิบัติทางทหารเต็มรูปแบบ จึงเห็นได้ว่าภารกิจชัดเจน คือการกระชับวงล้อมด้วยกระสุนจริง จากกำลังหน่วยรบหลักของเหล่าทหารราบ เหล่าทหารม้า และหน่วยส่งกำลังทางอากาศ อย่างเช่น ร.31 รอ.ในภารกิจปฏิบัติการพิเศษ อาจเรียกได้ว่าเป็นการรบในเมืองที่ใช้อาวุธยุทธโธปกรณ์ทางทหารเต็มอัตราศึก ทั้งกำลัง อาวุธประจำกายที่ทันสมัย ชุดสไนปอร์ หน่วยยานเกราะ ซึ่งการปรับกำลังและการเปลี่ยนแปลงทางยุทธวิธีที่สำคัญครั้งนี้ก็เป็นผลสะท้อนจากบทเรียนเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ.2553 นั่นเอง
การปฏิบัติการทางยุทธวิธีที่ใช้เวลาทำงาน 9 ชั่วโมง (เวลา 03.30-13.30) ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งทางยุทธวิธีของการรบในเมือง ที่สมควรได้มีการบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการรบในเมือง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.การปฏิบัติการทางยุทธวิธีสอดรับกับแผนยุทธการกระชับวงล้อมของศอฉ.ในระดับยุทธการและนโยบายของรัฐบาลที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อการเมืองชัดเจนผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพชัดเจน ผู้บังคับหน่วยชัดเจนนำมาซึ่งแผนยุทธการและแผนปฏิบัติระดับยุทธวิธีก็มองเห็นทิศทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
2.ปรับยุทธวิธีการปราบจลาจลเป็นยุทธวิธีการรบในเมือง เพื่อการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธ หรือผู้ก่อการร้ายที่แอบแฝงในกลุ่ม นปช.ด้วยฐานข่าวของ ศอฉ.ว่ามีกองกำลังติดอาวุธประมาณ 500 คน มีอาวุธปืนซุ่มยิง อาวุธสงคราม เช่น M 79 M 16 AK 47 และ Travo-21
3.ปรับการยิงกระสุนยางจากปืนลูกซองเป็นการใช้กระสุนจริงจากอาวุธประจำกาย ทำให้ต้องมีการสร้างวินัยอย่างเข้มงวด ตามกฎการใช้กำลัง จากเบาไปหาหนัก ตามหลักสากลมีการยิงให้กรวยกระสุนตกต่ำกว่าหัวเข่า การยิงเมื่อเห็นเป้าหมายหรือบุคคลถืออาวุธ เป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวเอง การยิงขู่จะยิงเมื่อม็อบเคลื่อนที่เข้ามาแล้วสั่งให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุด
4.การจัดระยะห่างระหว่างการวางกำลังของหน่วยทหารกับแนวตั้งรับของม็อบในระยะยิงหวังผลปืนM16 ประมาณ 400 หลา ซึ่งต้องมีกำลังพลเข้าเวรตรวจดูความเคลื่อนไหวกลุ่ม นปช.ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดเวลา
5.การปรับการวางกำลังและการเคลื่อนที่ภายใต้อาคารและทางเดินเท้าไม่มีการจัดรูปขบวนยืนแถวหน้ากระดานเป็นแผงกลางถนน เพื่อเตรียมตัวผลักดันกับฝูงชนในภารกิจปราบจลาจล เพื่อป้องกันการซุ่มยิงจากด้านหลังผุ้ชุมนุม
6.การดัดแปลงที่วางกำลังเป็นการตั้งรับแบบเร่งด่วนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยร่นด้วยกำบังกระสอบทรายสูงระดับครึ่งเข่า เมื่อต้องนอนราบหรือสูงระดับศรีษะเมื่อต้องการยืนปฏิบัติการ และมีการวางแนวทหารตั้งรับเป็นชั้นๆ ตามเส้นทางเคลื่อนที่เข้าหาม็อบ มิใช่เป็นการวางแนวเป็นปึกแผ่นเพียงชั้นเดียว ซึ่งถ้าม็อบมีจำนวนมากกว่า ก็สามารถล้อมทหารและเข้าถึงตัวแย่งปืนได้ง่าย
7.ใช้ลักษณะผู้นำหน่วยขนาดเล็กสูงมาก เพราะต้องอดทน ใจเย็น รอเวลา ทนต่อการยั่วยุ การรับควันไฟกลิ่นยางรถยนต์ที่เหม็นรุนแรงตลอดทั้งวันทั้งคืน
8.การใช้ส่วนสไนเปอร์คุ้มครองการเคลื่อนที่ในการรุกไปข้างหน้าและการป้องกันให้หน่วยเมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือเมื่อกองกำลังหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลาข้ามวันข้ามคืน อีกทั้งต้องรับภารกิจอารักขาผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีกด้วย
9.การวางกำลังตามแนวทางเดินเท้าสามารถวางกำลังได้ ยิ่งกระจายกำลังออกไปให้ได้มากก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายคุ้มค่าน้อยลง และไม่ตกเป็นเป้าหมายคุ้มค่าน้อยลง และไม่ตกเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่ให้กับกระสุน M 79 ของกำลังก่อการร้าย
10.พัฒนารูปแบบการวางจุดตรวจการณ์ข้างหน้า (Out Post) โดยใช้สะพานลอยข้ามถนนมีการปิดฉากม่านดำเสริมด้วยบังเกอร์และกระสอบทราบ ทำให้ลดการตรวจการณ์ของการ์ด นปช.และเสริมการป้องกันได้อีกทางหนึ่ง ทั้งสามารถปกปิดการถ่ายรูปจากสื่อมวลชน
11.การปรับกำลังและระดมพลแม่นปืนเท่าที่มีอยู่ของกองทัพบกเข้าประจำพื้นที่เพื่อต่อต้านการซุ่มยิงของกลุ่ม นปช.ทั้งบนอาคารสูงและพื้นที่สูงข่ม
12.การกำหนดพื้นที่อันตรายเป็นฉนวนกั้นกลางระหว่างแนวระยะยิงหวังผลของหน่วยทหารกับแนวตั้งรับของกลุ่มนปช.เป็นยุทธวิธีประการหนึ่ง โดยมีการประกาศเขตการยิงด้วยกระสุนจริง (Live Firing Zone)
13.การกำหนดเขตห้ามบิน เป็นแผนยุทธการที่สนับสนุนงานยุทธวิธี ทำให้มั่นใจว่าการรบเหนือน่านฟ้าพื้นที่ราชประสงค์ ฝ่ายเราสามารถครองความได้เปรียบทางอาศัยอยู่
14.ยุทธวิธียอมเสียพื้นที่ แล้วถอยกลับมาตั้งรับในพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า ห่างจากระยะยิงของพลซุ่มยิงกลุ่ม นปช.เห็นได้จากความล้มเหลวในการกระชับวงล้อมในพื้นที่ 14 พฤษภาคม ถือว่าเป็นยุทธวิธีที่ชาญฉลาด ด้วยการไม่บุกตะลุยเข้าสู่คิลลิ่งโซน (Killing Zone)
15.การถอนกำลัง หรือการวางกำลังกระจายตัวมากขึ้นภายหลังค่ำมืด ก็ถือว่าเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการไม่ตกเข้าไปในกับดักที่เป็นเป้าหมายคุ้มค่า
16.การใช้หน่วยรถหุ้มเกราะเมื่อจำเป็นและต้องการผลแตกหักในการสลายการชุมนุมเท่านั้น จึงทำให้ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของยานเกราะก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553
17.การใข้รถหุ้มเกราะกับพลรบเคลื่อนที่ตามกันนั้นเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่ได้แปรเปลี่ยนไปเพื่อเป็นการข่มขวัญการ์ด นปช.เพราะลดการสูญเสียพลรบ จากอาวุธ M79 จรวด RPG หรือระเบิดเคโมร์ตามแนวตั้งรับ นปช.
18.การสนธิกำลังอย่างลงตัวของชุดรบที่ประกอบด้วยชุดสไนเปอร์ ขบวนรถหุ้มเกราะพลรบหลังรถหุ้มเกราะขุดผจญเพลิง ขุดกู้ระเบิด (EOD) เป็นที่ประสบความสำเร็จที่น่าสนใจ
19.การกำหนดระยะเวลาการปฏิบัติการที่ส่งผลให้มีเสรีในการปฏิบัติทางยุทธวิธีเช่น การเริ่มปฏิบัติในตอนเช้าตรู่ ทำให้มีเวลามากพอสำหรับกำลังในการรุกเข้าเคลียร์พื้นที่ แต่การรบในเวลากลางคืนทำให้การมองเห็นจำกัด อาจตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังก่อการร้ายที่แอบแฝง และที่สำคัญไม่มียิงฝ่ายเดียวกันหรือยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์
20.การใช้หน่วย ปจว.ทางยุทธวิธี เพื่อทำความเข้าใจก่อนการบุกสลายการชุมนุมถือว่าเป็นหลักสากลประการหนึ่ง
21.การใช้หน่วยในพื้นที่วางกำลังส่วนล่างหน้าไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อตรึงกำลังป้องกันมิให้มวลชนคนเสื้อแดงยกกำลังเข้าช่วยที่ราชประสงค์ ต่อจากนั้นจึงใช้กำลังหลักเข้าสลายกลุ่มชุมนุม
22.การยอมถอนตัวของกำลังทหารออกจากพื้นที่ราชประสงค์ภายหลังถูกโจมตีด้วย M79 ในช่วงตอนเย็นตรงพื้นที่แยกสารสิน ถอยกลับไปยังพื้นที่ปลอดภัยถนนสีลมถือว่าเป็นการตัดสินใจในระดับยุทธวิธีที่ถูกต้อง เพื่อลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
23.มีการซักซ้อมแผนและซักซ้อมการปฏิบัติทั้งหมดทั้งในพื้นที่ตั้งหน่วยและที่ร.11 รอ. เป็นการสร้างหลักประกันความมั่นใจสู่ความสำเร็จ และเป็นการลดเกณฑ์เสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง
.................
(ติดตามอ่านตอน3 ตอนจบ) ข้อเสนอแนะจากบทเรียนทางยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี พรุ่งนี้(26มิ.ย.)
คลิกอ่าน เอกสารลับ ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 ( ตอน 1) "มาร์ค"สั่งกระชับวงล้อมเพื่อ"ยุติ"ไม่ใช่"เจรจา"
ต้อนรับการก้าวออกมารับกรรมหนัก ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
หมดเวลาได้รับการคุ้มครองด้วยผ้าเหลืองแล้ว น่าเศร้า...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1308976398
เอกสารลับ ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 ( ตอน 2) กระสุนจริงและสไนเปอร์
วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:45:00 น.
หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสารเสนาธิปัตย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2553 เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อประกอบการจัดทำ”เอกสารแนวทางในการปฏิบัติทางทหาร: กรณีศึกษาการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเมือง” จากความริเริ่มของพล.ท.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เพื่อกำหนดบทบาทของกองทัพบกในการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในเมืองรูปแบบใหม่
(ตอน2)
ความสำเร็จทางยุทธการ : การกระชับวงล้อมพื้นที่ราชประสงค์
1.แผนยุทธการมีพื้นฐานและสอดรับกับความสำเร็จทางยุทธศาสตร์ทางทหารและนโยบายของรัฐบาล
2.แผนยุทธการมีการวางแผนเป็นขั้นตอนรัดกุมมีเสรีในการปฏิบัติตามกรอบเวลามีการวางแผนและปฏิบัติโดยปราศจากแรงกดดันด้วยเวลา
3.การปฏิบัติการข่าวสารนับว่าเป็นผลในระดับยุทธการ ทั้งในส่วนการสร้างขวัญและกำลังใจของฝ่ายปฏิบัติการ และลดขวัญกำลังใจของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย
4.ความสำเร็จของการปฏิบัติงานด้านการข่าวในพื้นที่กลุ่ม นปช.ทำให้สามารถใช้หน่วยได้ตรงกับขีดความสามารถและถูกต้องเหมาะสมกับภารกิจ ยกตัวอย่าง การใช้หน่วยสไนเปอร์ของทุกกรม โดยเฉพาะกับพื้นที่ตึกสูงตามเส้นทางถนนวิทยุและสายสารสิน
5.ความสำเร็จในการจู่โจม แม้ว่าแผนยุทธการครั้งนี้ไม่สามารถจู่โจมด้วยเวลาได้ ก็มีการแก้เกมด้วยการจู่โจมด้วยความเร็วโดยการส่งล่วงหน้าเข้ารักษาความปลอดภัยบนพื้นที่อาคารสูง การเข้ายึดพื้นที่สวนลุมพินีเป็นส่วนใหญ่ได้ก่อนสว่าง และการรุกเข้าพร้อมกัน 3 ทิศทาง
6.การปฏิบัติตามแผนยุทธการ กระทำด้วยการรุกคืบด้วยความระมัดระวังของแต่ละพื้นที่โดยการประเมินศักยภาพของกำลังการ์ดนปช.ให้สูงกว่าเมื่อครั้ง10 เมษายน เพื่อให้มีระบบป้องกันตัวทหารที่มากขึ้น ดังนั้นการปฏิบัติการทางทหารที่ใช้กำลังทหารประมาณ 2 หมื่นนาย มีการสูญเสียทหาร 1 นาย กับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นความสูญเสียที่ยอมรับได้
7.กองกำลังการ์ด นปช.มีการตั้งรับแบบกองโจรวางกำลังเต็มพื้นที่ ขาดผู้เชี่ยวชาญการวางกำลังตั้งรับและร่นถอยแบบทหารที่แท้จริง เนื่องจากการเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ทำให้จุดศูนย์ดุลของ นปช.กลายมาเป็นจุดแข็งของการปฏิบัติของกองทัพ
8.แผนยุทธการเป็นการวางแผนการปฏิบัติรบเต็มรูปแบบเสมือนการทำสงครามรบในเมือง ใช้กำลังขนาดใหญ่ถึง 3 กองพล วางแผนเข้าปฏิบัติการ ซึ่งมีอำนาจกำลังรบเปรียบเทียบสูงกว่ามาก ยิ่งมีการสั่งการให้ใช้กระสุนจริงกับกลุ่มกลุ่มก่อการร้ายผู้ถืออาวุธ และเพื่อป้องกันตัวเองได้ ทำให้ทหารที่เคยสูญเสียความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์ 10 เมษายน ก็มีจิตใจรุกรบมากขึ้น
9.แผนยุทธการในการรุกผ่านฝ่ายเดียวกันจากถนนสาทร ถนนสีลม ถนนสุรวงศ์ และถนนวิทยุ ทำให้กองกำลังทหารสามารถรักษาโมเมนตัมในการปฏิบัติการได้อย่างตอ่เนื่อง และสามารถพิทักษ์ป้องกันพื้นที่ส่วนหลัง (พื้นที่สีลม) ได้อย่างปลอดภัย
10.ความมีเอกภาพในการปฏิบัติ จากการสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 1 กับกองกำลัง 3 กองพลให้ปฏิบัติการได้ถูกจังหวะการรุกและการหยุดหน่วย เพื่อผลการรุกของหน่วยอื่นหรือรอเวลาสำหรับการปฏิบัติชั้นสุดท้าย ยกตัวอย่างหน่วยรุกแตกหัก ได้แก่ พล ม.2 รอ.จากทิศทางสีลมมุ่งสู่สี่แยกศาลาแดง ส่วนที่ 2 กองพลที่เหลือคือ พล.ร.9 รับผิดชอบพื้นที่แยกอโศก เพลินจิต ชิดลม และ พล.1 รอ.รับผิดชอบพื้นที่ดินแดง พญาไท ราชปรารภ กำลังส่วนนี้ต้องตรึงกำลัง ปิดเส้นทางหลบหนี ขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุม นปช.ได้ทยอยออกจากพื้นที่ราชประสงค์ผ่านถนนพระราม 1 ไปแยกปทุมวัน หรือเข้าไปในวัดปทุมวนาราม
ความสำเร็จทางยุทธวิธี : การกระชับวงล้อมพื้นที่ราชประสงค์
ยุทธการกระชับวงล้อมเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เป็นการปฏิบัติทางทหารเต็มรูปแบบ จึงเห็นได้ว่าภารกิจชัดเจน คือการกระชับวงล้อมด้วยกระสุนจริง จากกำลังหน่วยรบหลักของเหล่าทหารราบ เหล่าทหารม้า และหน่วยส่งกำลังทางอากาศ อย่างเช่น ร.31 รอ.ในภารกิจปฏิบัติการพิเศษ อาจเรียกได้ว่าเป็นการรบในเมืองที่ใช้อาวุธยุทธโธปกรณ์ทางทหารเต็มอัตราศึก ทั้งกำลัง อาวุธประจำกายที่ทันสมัย ชุดสไนปอร์ หน่วยยานเกราะ ซึ่งการปรับกำลังและการเปลี่ยนแปลงทางยุทธวิธีที่สำคัญครั้งนี้ก็เป็นผลสะท้อนจากบทเรียนเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ.2553 นั่นเอง
การปฏิบัติการทางยุทธวิธีที่ใช้เวลาทำงาน 9 ชั่วโมง (เวลา 03.30-13.30) ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งทางยุทธวิธีของการรบในเมือง ที่สมควรได้มีการบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการรบในเมือง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.การปฏิบัติการทางยุทธวิธีสอดรับกับแผนยุทธการกระชับวงล้อมของศอฉ.ในระดับยุทธการและนโยบายของรัฐบาลที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อการเมืองชัดเจนผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพชัดเจน ผู้บังคับหน่วยชัดเจนนำมาซึ่งแผนยุทธการและแผนปฏิบัติระดับยุทธวิธีก็มองเห็นทิศทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
2.ปรับยุทธวิธีการปราบจลาจลเป็นยุทธวิธีการรบในเมือง เพื่อการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธ หรือผู้ก่อการร้ายที่แอบแฝงในกลุ่ม นปช.ด้วยฐานข่าวของ ศอฉ.ว่ามีกองกำลังติดอาวุธประมาณ 500 คน มีอาวุธปืนซุ่มยิง อาวุธสงคราม เช่น M 79 M 16 AK 47 และ Travo-21
3.ปรับการยิงกระสุนยางจากปืนลูกซองเป็นการใช้กระสุนจริงจากอาวุธประจำกาย ทำให้ต้องมีการสร้างวินัยอย่างเข้มงวด ตามกฎการใช้กำลัง จากเบาไปหาหนัก ตามหลักสากลมีการยิงให้กรวยกระสุนตกต่ำกว่าหัวเข่า การยิงเมื่อเห็นเป้าหมายหรือบุคคลถืออาวุธ เป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวเอง การยิงขู่จะยิงเมื่อม็อบเคลื่อนที่เข้ามาแล้วสั่งให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุด
4.การจัดระยะห่างระหว่างการวางกำลังของหน่วยทหารกับแนวตั้งรับของม็อบในระยะยิงหวังผลปืนM16 ประมาณ 400 หลา ซึ่งต้องมีกำลังพลเข้าเวรตรวจดูความเคลื่อนไหวกลุ่ม นปช.ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดเวลา
5.การปรับการวางกำลังและการเคลื่อนที่ภายใต้อาคารและทางเดินเท้าไม่มีการจัดรูปขบวนยืนแถวหน้ากระดานเป็นแผงกลางถนน เพื่อเตรียมตัวผลักดันกับฝูงชนในภารกิจปราบจลาจล เพื่อป้องกันการซุ่มยิงจากด้านหลังผุ้ชุมนุม
6.การดัดแปลงที่วางกำลังเป็นการตั้งรับแบบเร่งด่วนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยร่นด้วยกำบังกระสอบทรายสูงระดับครึ่งเข่า เมื่อต้องนอนราบหรือสูงระดับศรีษะเมื่อต้องการยืนปฏิบัติการ และมีการวางแนวทหารตั้งรับเป็นชั้นๆ ตามเส้นทางเคลื่อนที่เข้าหาม็อบ มิใช่เป็นการวางแนวเป็นปึกแผ่นเพียงชั้นเดียว ซึ่งถ้าม็อบมีจำนวนมากกว่า ก็สามารถล้อมทหารและเข้าถึงตัวแย่งปืนได้ง่าย
7.ใช้ลักษณะผู้นำหน่วยขนาดเล็กสูงมาก เพราะต้องอดทน ใจเย็น รอเวลา ทนต่อการยั่วยุ การรับควันไฟกลิ่นยางรถยนต์ที่เหม็นรุนแรงตลอดทั้งวันทั้งคืน
8.การใช้ส่วนสไนเปอร์คุ้มครองการเคลื่อนที่ในการรุกไปข้างหน้าและการป้องกันให้หน่วยเมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือเมื่อกองกำลังหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลาข้ามวันข้ามคืน อีกทั้งต้องรับภารกิจอารักขาผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีกด้วย
9.การวางกำลังตามแนวทางเดินเท้าสามารถวางกำลังได้ ยิ่งกระจายกำลังออกไปให้ได้มากก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายคุ้มค่าน้อยลง และไม่ตกเป็นเป้าหมายคุ้มค่าน้อยลง และไม่ตกเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่ให้กับกระสุน M 79 ของกำลังก่อการร้าย
10.พัฒนารูปแบบการวางจุดตรวจการณ์ข้างหน้า (Out Post) โดยใช้สะพานลอยข้ามถนนมีการปิดฉากม่านดำเสริมด้วยบังเกอร์และกระสอบทราบ ทำให้ลดการตรวจการณ์ของการ์ด นปช.และเสริมการป้องกันได้อีกทางหนึ่ง ทั้งสามารถปกปิดการถ่ายรูปจากสื่อมวลชน
11.การปรับกำลังและระดมพลแม่นปืนเท่าที่มีอยู่ของกองทัพบกเข้าประจำพื้นที่เพื่อต่อต้านการซุ่มยิงของกลุ่ม นปช.ทั้งบนอาคารสูงและพื้นที่สูงข่ม
12.การกำหนดพื้นที่อันตรายเป็นฉนวนกั้นกลางระหว่างแนวระยะยิงหวังผลของหน่วยทหารกับแนวตั้งรับของกลุ่มนปช.เป็นยุทธวิธีประการหนึ่ง โดยมีการประกาศเขตการยิงด้วยกระสุนจริง (Live Firing Zone)
13.การกำหนดเขตห้ามบิน เป็นแผนยุทธการที่สนับสนุนงานยุทธวิธี ทำให้มั่นใจว่าการรบเหนือน่านฟ้าพื้นที่ราชประสงค์ ฝ่ายเราสามารถครองความได้เปรียบทางอาศัยอยู่
14.ยุทธวิธียอมเสียพื้นที่ แล้วถอยกลับมาตั้งรับในพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า ห่างจากระยะยิงของพลซุ่มยิงกลุ่ม นปช.เห็นได้จากความล้มเหลวในการกระชับวงล้อมในพื้นที่ 14 พฤษภาคม ถือว่าเป็นยุทธวิธีที่ชาญฉลาด ด้วยการไม่บุกตะลุยเข้าสู่คิลลิ่งโซน (Killing Zone)
15.การถอนกำลัง หรือการวางกำลังกระจายตัวมากขึ้นภายหลังค่ำมืด ก็ถือว่าเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการไม่ตกเข้าไปในกับดักที่เป็นเป้าหมายคุ้มค่า
16.การใช้หน่วยรถหุ้มเกราะเมื่อจำเป็นและต้องการผลแตกหักในการสลายการชุมนุมเท่านั้น จึงทำให้ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวของยานเกราะก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553
17.การใข้รถหุ้มเกราะกับพลรบเคลื่อนที่ตามกันนั้นเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่ได้แปรเปลี่ยนไปเพื่อเป็นการข่มขวัญการ์ด นปช.เพราะลดการสูญเสียพลรบ จากอาวุธ M79 จรวด RPG หรือระเบิดเคโมร์ตามแนวตั้งรับ นปช.
18.การสนธิกำลังอย่างลงตัวของชุดรบที่ประกอบด้วยชุดสไนเปอร์ ขบวนรถหุ้มเกราะพลรบหลังรถหุ้มเกราะขุดผจญเพลิง ขุดกู้ระเบิด (EOD) เป็นที่ประสบความสำเร็จที่น่าสนใจ
19.การกำหนดระยะเวลาการปฏิบัติการที่ส่งผลให้มีเสรีในการปฏิบัติทางยุทธวิธีเช่น การเริ่มปฏิบัติในตอนเช้าตรู่ ทำให้มีเวลามากพอสำหรับกำลังในการรุกเข้าเคลียร์พื้นที่ แต่การรบในเวลากลางคืนทำให้การมองเห็นจำกัด อาจตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังก่อการร้ายที่แอบแฝง และที่สำคัญไม่มียิงฝ่ายเดียวกันหรือยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์
20.การใช้หน่วย ปจว.ทางยุทธวิธี เพื่อทำความเข้าใจก่อนการบุกสลายการชุมนุมถือว่าเป็นหลักสากลประการหนึ่ง
21.การใช้หน่วยในพื้นที่วางกำลังส่วนล่างหน้าไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อตรึงกำลังป้องกันมิให้มวลชนคนเสื้อแดงยกกำลังเข้าช่วยที่ราชประสงค์ ต่อจากนั้นจึงใช้กำลังหลักเข้าสลายกลุ่มชุมนุม
22.การยอมถอนตัวของกำลังทหารออกจากพื้นที่ราชประสงค์ภายหลังถูกโจมตีด้วย M79 ในช่วงตอนเย็นตรงพื้นที่แยกสารสิน ถอยกลับไปยังพื้นที่ปลอดภัยถนนสีลมถือว่าเป็นการตัดสินใจในระดับยุทธวิธีที่ถูกต้อง เพื่อลดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
23.มีการซักซ้อมแผนและซักซ้อมการปฏิบัติทั้งหมดทั้งในพื้นที่ตั้งหน่วยและที่ร.11 รอ. เป็นการสร้างหลักประกันความมั่นใจสู่ความสำเร็จ และเป็นการลดเกณฑ์เสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง
.................
(ติดตามอ่านตอน3 ตอนจบ) ข้อเสนอแนะจากบทเรียนทางยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี พรุ่งนี้(26มิ.ย.)
คลิกอ่าน เอกสารลับ ยุทธการกระชับวงล้อม 14-19 พ.ค.53 ( ตอน 1) "มาร์ค"สั่งกระชับวงล้อมเพื่อ"ยุติ"ไม่ใช่"เจรจา"
ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558
ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558 โดย ท่านจารุพงศ์ได้วิเคราะห์การเมืองไทยด้วยความห่วงใย และเรียกร้องให้คนไทยทั่วโลก ร่วมมือกับองค์การเสรีไทย เพื่อเปลี่ยนระบอบ https://youtu.be/YcStl2u7NHo
Sunday, July 26, 2015
PIANGDIN ACADEMY: Thaksin Shinawatra: Me and My Country (1)
ผมเข้าใจโลกทุนนิยมดีครับ มันเปรียบเสมือนว่าเมื่อแดดออก มีแต่คนจะเอาร่มมาให้เราถือเต็มไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องใช้ แต่ยามฝนตก เราอยากได้ร่มสักคันก็ไม่มีใครให้ยืม เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างคำว่า Trust & Confident ให้ได้ เงินถึงจะมา ผมเลยใช้นโยบายว่า กัดฟันไม่กู้เงินนอกเท่านั้น ต่างประเทศก็เริ่มมั่นใจขึ้น เงินต่างประเทศก็เริ่มเข้ามาประกอบกับการปรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นให้สอดคล้องกัน ทำให้พ่อค้านำเข้าและส่งออกที่เก็บเงินไว้ต่างประเทศก็เริ่มนำกลับเข้ามา เสถียรภาพเงินบาทก็แข็งขึ้น เงินสำรองก็มากขึ้นจนเราสามารถใช้หนี้ IMF ได้ ซึ่งตอนเกิดวิกฤตตอนเราต้องยืมเงิน IMF ทุกคนก็คิดว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีกว่าจะใช้หนี้ได้ ตอนที่ผมตัดสินใจใช้หนี้หลายคนก็ห้ามผมว่าทำไมต้องรีบใช้ เดี๋ยวเงินสำรองจะพร่องมากไปไม่พอใช้ บังเอิญผมมีประสบการณ์เป็นนักกู้เงินมาก่อน ถ้าเราเป็นหนี้แล้วใช้คืนได้เขาถึงว่าเราเป็นลูกค้าชั้นดีที่จะให้กู้มากขึ้นอีก ผมก็เลยสั่งให้ใช้หนี้ทั้งหมดทีเดียว หม่อมอุ๋ยขอต่อรองเป็นอีก6 เดือน ผมก็เลยบอกว่าผมประกาศเลยนะว่าอีก 6 เดือนจะชำระ ก็เลยเกิดการชำระหนี้ IMF ก่อนครบกำหนดถึง 2 ปี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดีขึ้นมาก เงินก็เริ่มไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเรากลายเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็น Net Creditor Nation คือเป็นประเทศที่มีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศมากกว่าเงินกู้ต่างประเทศ โดยรวมตัวเลขทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย เป็นครั้งแรกของไทย
สรุปก็คือว่าถ้าเรามียุทธศาสตร์การเงินและการทำงานที่ควบคู่กันได้ดี เราจะสร้างTrust & Confident ให้กับองค์กรของเรา(ซึ่งในที่นี้ก็คือประเทศ) แล้วเราจะเติบโตได้ เพราะจะมีเงินทุนเข้ามาให้เราได้ใช้บริหารและสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดครับ วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ////
Thursday, July 23, 2015
Monday, July 20, 2015
ปรับขบวน ปรับยุทธวิธี ขุดรากถอนโคนระบอบราชาธิปไตย และเหล่าอำมาตย์ชั่ว ทำลายพิษแม่น้ำห้าสายในยุคสุดท้ายของเหี้ยใส่ชฎา
ปรับขบวน ปรับยุทธวิธี ขุดรากถอนโคนระบอบราชาธิปไตย และเหล่าอำมาตย์ชั่ว ทำลายพิษแม่น้ำห้าสายในยุคสุดท้ายของเหี้ยใส่ชฎา
รายการทางออกประเทศไทย โดย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 20 ก.ค. 2558 นปช.ยูเอสเอ และมหาวิทยาลัยประชาชน
ทำไม ปวงชนชาวไทย ต้องลุกมาสานเครือข่ายประชาชน ตัวจริง
ชื่อกลุ่ม “ปวงชนชาวไทยเพื่อการปฏิวัติสันติสู่เสรีประชาธิปไตย”
(จะเปลี่ยนตามผลโหวต)
หลักการและเหตุผลของการตั้งองค์การของปวงชนชาวไทย
เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่เรื้อรังมานับทศวรรษ ที่บัดนี้ได้ทำให้เกิดทางตันที่เกลื่อนไปด้วยความเสียหายต่อประเทศชาติ และกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ สวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ ความเชื่อมั่น และอนาคตของปวงชนชาวไทยในทุก ๆ ด้าน เป็นความตกต่ำอย่างสูงสุดในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และทางออกของประเทศนั้น ไม่สามารถปล่อยให้อยู่ในมือของกลุ่มต่าง ๆ ที่อ้างความชอบธรรมโดยข้ามหัวประชาชน หรือไม่จริงใจต่อประชาชนได้ กลุ่มแรก คือ กลุ่มเผด็จการศักดินาและอภิสิทธิชนที่กำลังครอบงำประเทศ ด้วยการตั้งก๊กแก็งค์ของตนขึ้นมายึดอำนาจจากประชาชนและพยายามสร้างความชอบธรรมให้ตนเองและพรรคพวก โดยทำลายหลักสากลว่าด้วยประชาธิปไตย หลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายต่าง ๆ ที่สากลโลกที่เจริญแล้วเขาถือปฏิบัติกันจนประเทศก้าวหน้าไปมากแล้ว และไม่สามารถให้อยู่ในมือของอีกกลุ่มหนึ่ง อันได้แก่นักการเมือง ไม่ว่ากลุ่มใด ๆ ก็ตาม เพราะพวกเขาได้ถูกสร้างให้เป็นตัวร้าย เป็นศัตรูของชาติ และเป็นผู้ทำให้ประชาธิปไตยแบบสากลเดินต่อไปไม่ได้ไปแล้ว จนนำมาสู่การเมืองการปกครองแบบเผด็จการทหารเพื่อรักษาและกระชับราชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเก่า ดังเห็นได้ชัดแจ้งที่สุดแล้วในวันนี้
ดังนั้น ประชาชนจึงต้องลุกขึ้นมาประกาศตัวในฐานะเจ้าของประเทศร่วมกัน บนความเข้าใจร่วมที่ว่าปวงชนชาวไทยนั้น เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่กษัตริย์และกลไกของราชสำนัก ไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ข้าราชการ และไม่ใช่นักการเมือง ซึ่งล้วนแต่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น และบุคคลเหล่านี้ ล้วนไม่ใช่ผู้มีอำนาจพิเศษใด ๆ เลย หากไม่ได้รับการยอมรับให้ถือและใช้อำนาจของประชาชน โดยเอาเงินภาษีของประชาชนไปประกอบกิจกรรมเชิงอำนาจและผลประโยชน์ต่าง ๆ เนื่องจากวันนี้ พวกเขาทำบ้านเมืองเละเทะ แย่งอำนาจกันบนความเสียหายของประชาชน หลอกให้ประชาชนเชื่อว่า พวกเขาล้วนทำเพื่อประชาชน แต่ความจริงย่อมปรากฏชัดว่า ใคร ทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่ และเพียงใด จึงถึงเวลาแล้ว ที่ประชาชนจะต้องรวมตัวกัน แล้วประกาศให้รู้ว่า เจ้าของประเทศตัวจริง กำลังต้องการอำนาจคืน และจะสร้างฉันทามติ หรือคำประกาศในเชิงเป้าหมายของประเทศใหม่ร่วมกัน โดยก้าวให้พ้นเสียจากการหลอกลวง คดโกง และวงจรอุบาทว์ที่คนไทยได้รู้เห็นมานานพอ จนชัดแจ้ง ไร้ข้อกังขาอีกต่อไป แล้วจะร่วมกันสร้างรากฐานประเทศใหม่ บนหลักการต่าง ๆ ที่ประเทศพัฒนาแล้ว เขายึดถือกัน เช่น
หนึ่ง อำนาจสูงสุด ทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เป็นของประชาชน โดยให้ตัวแทนปวงชนไปใช้แทน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ให้ใครมายึดแล้วไปใช้แทนประชาชน โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่ประชาชนกลับไม่ได้มีส่วนร่วม อนุมัติ และตรวจสอบใด ๆ ซึ่งถือเป็นการโกหก ตอแหล และน่าทุเรศยิ่ง
สอง เนื่องจากประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นรัฎฐาธิปัตย์ตัวจริง เหนือรัฐธรรมนูญและเหนือทุกสถาบัน ดังนั้น รัฐบาลหรือผู้อ้างอำนาจรัฐใด ๆ จะทำการริดรอนสิทธิมนุษยชน เสรีภาพด้านต่าง ๆ และความเป็นใหญ่ของประชาชนมิได้โดยสิ้นเชิง การอ้างอำนาจรัฐทั้งจากการมาจากเลือกตั้งหรือจากการยึดอำนาจผ่านการกบฏต่อประชาชน หากละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานตามหลักสากลแล้ว ย่อมถือเป็นโมฆะ และประชาชนไม่จำเป็นต้องยอมรับ และมีสิทธิในการประท้วง ต่อต้าน ขัดขืน และล้มล้างผู้ก่อการทรยศต่อหลักนี้ได้โดยชอบธรรมเสมอ ยกเว้นในกรณีที่การกระทำของปัจเจกชนหรือกลุ่มคนใด ๆ ไปทำลายสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของผู้อื่น ที่เป็นที่ยอมรับกันตามมาตรฐานสากลด้วยเท่านั้น
สาม อำนาจกษัตริย์ ได้ถูกปรุงแต่งและถูกนำไปใช้กันเป็นเครือข่าย อย่างฝังรากลึก จนเป็นเหตุให้วงจรอุบาทว์ต่าง ๆ คอยบั่นทำลายพัฒนาการของประชาธิปไตยมาตลอด บัดนี้ ประชาชนเจ้าของอำนาจ ได้ตระหนักดีแล้ว จึงวางเป้าหมายและยึดหลักว่า จะต้องไม่มีอำนาจกษัตริย์ในระบอบการปกครองของประชาชนอีกต่อไป ส่วนตัวกษัตริย์นั้น จะอยู่ได้หรือไม่ จะมีรัชกาลที่สิบหรือไม่ ประชาชนทั่วประเทศ จะตัดสินใจกันต่อไป และพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของปวงชนชาวไทยในอนาคตอันใกล้นี้
สี่ เมื่ออำนาจสูงสุด และแผ่นดินไทย เป็นของคนไทยทุกคน โดยเท่าเทียมกัน ดังนั้น การแสวงหาตัวแทน และผู้ใช้อำนาจของประชาชน ในฐานะผู้นำด้านต่าง ๆ นั้น จะต้องมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย ผ่านการเลือกตั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม เท่านั้น ไม่ใช่การแต่งตั้งโดยไม่มีปวงชนชาวไทยเกี่ยวข้อง โดยในการเลือกตั้งนั้น ต้องถือว่า คนไทยทุกคน มีหนึ่งสิทธิและหนึ่งเสียงเท่ากัน ตามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นเจ้าของประเทศที่เท่าเทียมกันโดยทั่วหน้า ทั้งทางกฎหมาย และโดยพื้นฐานในทุกกรณี
ห้า ต่อเนื่องจากข้อสี่ กฎหมายไทย ต้องเขียนขึ้นโดยตัวแทนปวงชนชาวไทย และต้องผ่านฉันทามติของปวงชนโดยตรงหรือโดยอ้อมก่อนเสมอ โดยจะต้องถือว่า ทุกคนในประเทศไทย อยู่ใต้กฎหมายโดยเสมอภาคกัน และต้องประกันว่า คนไทยทุกคนจะได้รับโอกาสและสิทธิต่าง ๆ โดยเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกด้วยหลักใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งโดยนิตินัยและโดยพฤตินัย
หก กฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ย่อมมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ไม่ได้มาจากการดำเนินการของประชาชนหรือตัวแทนประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งมา ย่อมถือเป็นโมฆะ และผู้บังอาจก่อการปล้นอำนาจประชาชนและฉีกรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทยในอดีต ต้องถือเป็นกบฏแผ่นดิน และจะต้องถูกพิจารณาให้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติแล้วก่อนหน้าการรัฐประหารแต่ละครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราต้องการเดินต่อไปข้างหน้าร่วมกันทั้งชาติ เมื่อพิจารณาโทษทัณฑ์แล้ว อาจให้มีการลดหย่อนโทษหรือนิรโทษกรรมได้ หากผู้ก่อการและผู้ก่อการยอมรับผิดต่อปวงชนชาวไทย และเมื่อปวงชนชาวไทย มีประชามติเห็นชอบเช่นนั้น
เจ็ด ความมั่นคงของชาติ ย่อมหมายถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชน บนหลักการข้างต้น จะอ้างเอาความอยู่รอดและสวัสดิภาพของบุคคลใด หรือตระกูลใด หรือหมู่คณะใด มาเป็นข้ออ้างเพื่อความมั่นคงของชาติ แล้ว กระทำการใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้น ย่อมถือเป็นเรื่องที่ละเมิดต่อหลักประชาชนเป็นใหญ่ และจะต้องถูกกำจัดออกไปเสียจากกฎหมายและการถือปฏิบัติในอนาคต และคนที่จะตัดสินใจเรื่องความมั่นคงของชาติ ย่อมเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งมีวาระชัดเจน และถูกตัดสินผลงานโดยประชาชน ทหารจะอ้างเหตุแห่งความมั่นคงของชาติแล้วทำตัวเหนือผู้นำฝ่ายบริหารมิได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
แปด ความเห็นต่าง และความแตกต่างทุกชนิดในหมู่คนไทย เป็นเรื่องธรรมชาติ และคนไทยต้องอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทั้งหลาย ใต้กรอบข้างต้น โดยจะต้องแสวงหาทางออกบนข้อตกลงที่ถือคนไทยที่แตกต่างนั้น เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีฐานะเสมอกัน โดยจะต้องใช้วิถีทางตามกรอบประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายสากลต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การก่อการร้าย การทำร้ายพี่น้องร่วมชาติ รวมทั้งทรัพย์สินของชาติ และการมุ่งทำลายกันและกันให้ถึงที่สุด
เก้า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หรือ เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ ประชาชนต้องได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามหลักการข้างต้นโดยสมบูรณ์ ในการรวมตัวกัน ในฐานะเจ้าของประเทศ ที่จะไม่ยอมให้ใครรับสมอ้างเอาไปโดยง่ายได้อีก การรวมตัวของประชาชนที่มีพลังเท่านั้น ที่จะสามารถเอาชนะการครอบงำที่ทำกันมานานนี้ได้ ประชาชนที่เข้มแข็ง รอบรู้เท่าทัน เรียนรู้อย่างเสรี และสานพลังกันได้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถเป็นใหญ่ได้จริง การประสานกันเป็นพลังประชาชน โดยมีตัวแทนอันเป็นรูปธรรม ย่อมสามารถทำให้นานาอารยประเทศยอมรับ เข้าใจ เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่พวกเราจะทำ แล้วมาสนับสนุนให้ประชาชนสามารถกู้อำนาจคือมาเสียจากกลุ่มเผด็จการทุกรูปแบบ วันนี้ รัฐบาลและตัวแทนของปวงชนชาวไทย ไม่ได้มีอยู่จริง จึงสรุปได้ว่า ประชาชนต้องรวมตัวกันอย่างจริงจัง เพื่อยืนยันว่า อำนาจจะต้องคืนมาอยู่กับพวกเรา ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว
สิบ กลไก ประเพณี วัฒนธรรม และตัวบทกฎหมายใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้นนี้ จะต้องถูกกำจัดออกไปเสียให้สิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือคณะรัฐประหารที่ผ่านมาทั้งหมด
สรุปว่า ข้างต้นนี้คือเหตุหลัก ๆ ที่ประชาชนได้รวมตัวกัน เพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า วันนี้ ปวงชนชาวไทย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาของพวกเราเองอย่างดีแล้ว และมีเจตน์จำนงค์ที่จะแก้ปัญหาที่รากเหง้าของปัญหาจริง ๆ ซึ่งล้วนแต่เกิดจากกลไก วัฒนธรรม ตัวบุคคล และวิวัฒนาการแบบไทย ๆ ที่ทำลายตัวเองมาตลอด จนพวกเรายอมให้ดำเนินต่อไปไม่ได้ และเราไม่เชื่อว่า บุคคลที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ และที่จะอ้างว่าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย โดยไม่ได้สอดคล้องกับหลักการข้างบนนี้นั้น จะสามารถนำพาประเทศชาติพ้นจากการดำดิ่งสู่ก้นเหวลึกได้ วันนี้ ประชาชนตื่นแล้ว และพวกเราได้ร่วมกันลุกขึ้นมากู้ชาติให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
19 ก.ค. 2557
ร่าง ณ มหานครซานฟรานซิสโก เพื่อเป็นการจุดประกายให้ประชาชนสานต่อ
ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย ดร.เพียงดิน รักไทย ในฐานะภารโรงและลูกหลานของปวงชนชาวไทย
แล้วจะช่วยได้อย่างไร? จะร่วมมือได้อย่างไร? โปรดอ่านคำประกาศของดร.เพียงดิน ต่อไปนี้
ด่วน!!! ดร.เพียงดิน เชิญปวงชนชาวไทย ร่วมสร้างองค์การของประชาชนไทยทั่วโลก ได้เวลาประชาอภิวัฒน์แล้ว!!!
http://youtu.be/FVsrQDJ9ALE
หลังจากดูวิดีโอแล้ว สิ่งที่อยากให้พี่น้องร่วมกันทำ เป็นการเริ่มต้นการลงรากสร้างฐานขบวนประชาชนจริง ๆ ณ ขั้นนี้ มีดังนี้
1. ลงชื่อเข้าร่วมขบวนการประชาชนฯ โดยข้อมูลส่วนตัว ปิดลับ ดร.เพียงดิน ดูแลแต่ผู้เดียว
https://docs.google.com/forms/d/11NYQ9_MuV7ocmLxMUvqZb126TmgzF34hDnR3dhCKhpw/viewform
2. ไปโหวตเลือกหรือเสนอชื่อของขบวนประชาชน ได้ที่
http://www.poll-maker.com/poll365542xF7fA4A97-14
3. ร่วมกันแสดงวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตประเทศไทย ใต้ระบอบใหม่
https://docs.google.com/forms/d/1tfCzzjPXY10tc4Hx9pVimxVGGg6cUvyYdr4LTVkiaIs/viewform?c=0&w=1
ด้วยศรัทธาในพลังของประชาชนอย่างเต็มเปี่ยม
piangdin
Saturday, July 18, 2015
Piangdin for Peace Academy: สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: ขบวนของประชาชน เจ้าของประ...
ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?
ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?
ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?
ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?
ความจริงเรื่องน้ำมันในประเทศไทย
ใครดูรายการของคุณสัญญา คุณากร ได้คุยเรื่องน้ำมันในประเทศไทย คุณสัญญาได้เชิญอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานมาเล่าให้ฟัง ซึ่งผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพลังงาน ได้ฟังท่านเล่าเเล้วขนลุก คนไทยถูกหลอกมาตลอดว่าเมืองไทยไม่สามารถผลิตนำมันได้เองต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ท่านบอกว่าเมืองไทยมีกำลังผลิตได้ 1,000,000 บาร์เรล/วัน (ปตท.) เมืองไทยใช้น้ำมันวันละ 700,000 บาเรล/วัน เเละเมืองไทยส่งออกน้ำมันประมาณ100000 บาเรล/วัน เเละที่เเย่กว่านั้น..น้ำมันที่ส่งออกไปขายในต่างประเทศราคาถูกกว่าที่ขายในเมืองไทยหลายบาทถ้าเทียบต่อลิตร ตอนนี้มาเลเซียใช้น้ำมันเบนซินเเละดีเซลประมาณลิตรละ 20 บาทต้นๆ ราคาที่ปรับขึ้นทีละ .50 บาทเป็นการขึ้นจากโรงกลั่นซึ่งราคาที่ปรับขึ้นไม่ได้มาจากต้นทุน เเต่ป็นราคาที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ โดยอ้างอิงจากตลาดที่ผันผวนมากที่สุด ในที่นี้ท่านยกตัวอย่างตลาดสิงคโปร์ เเละอีกอย่างที่น่าตกใจ ท่านบอกว่าในประเทศไทยมี stock น้ำมัน 2 เดือนเเละหมุนเวียนอย่างนี้เรื่อยๆ พอเวลากระทรวงปรับน้ำขึ้นพวกพ่อค้าเอาน้ำมันใน stock มาปรับขึ้นด้วย คิดดูเอาเองว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ไทยใช้ 700,000 บาเรล/วัน ( 1 บาเรล = 159 ลิตร ) 2 เดือนกี่ลิตร ลิตรละ .50 บาท ลองคูณดู บริษัทที่ได้กำไรเยอะมากคือ ปตท เพราะมีโรงกลั่น 5 โรง อีก 2 โรงเป็นของเอกชน รวมในประเทศไทยมีโรงกลั่น 7 โรง เป็นของ ปตท 5 โรง เเล้วท่านสรุปกำไรของปตทในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ประมาณปี 2540-2544 ปตท กำไรปีละ 22,000 ล้านบาทครับ เเละที่สุดยอดกว่านั้น ปี 2545-2550 ปตทกำไรเพิ่มเป็น 50,000ล้านบาท/ปี เเละที่สุดๆ คือ ในปี 2548 กำไร 195,000 ล้านบาท ประชาชนตาดำ ๆ เสียค่าน้ำมันลิตรละ 44บาท มาร่วมมือกันดีไหม... สั่งสอนให้บทเรียนมันหน่อย เริ่มลงมือปฏิบัติการได้เลย ขอเพียงช่วยกันกระจายข่าวไปให้มากที่สุด สามัคคีคือพลัง... ส่งมาให้อ่านกันเพราะอยากให้ราคาน้ำมันลดลงจริงๆ (ช่วยกันส่งต่อมากๆนะ)
(ข้อความจากไลน์)
อ้างภูมิพล สั่งให้จัดตั้งศูนย์บริการน้ำฯ เพื่อเอาห...
UNHCR ของสหประชาชาติให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
UNHCR ของสหประชาชาติให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
UNHCR ของสหประชาชาติให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
องค์กร
UNHCR ของสหประชาชาติ ให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
จำนวนกว่า 100 คน ที่ส่งให้กับจีนแผ่นดินใหญ่
โดยให้เวลาแก่ไทยในการจัดการปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน
อะไรจะเกิดกับประเทศไทยต่อไป
ผมขอให้คำตอบแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย โดยสังเขป ดังต่อไปนี้:
๑. นี่คือสัญญาณอันตราย ที่กำลังพาประเทศไทย ไปเป็นจำเลยในศาลนานาชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป หรือ the European Human
Rights Court
๒. โดยมีคดี Mamatkulov and Askorov คำฟ้องเลขที่ 46827/99 และคำฟ้องที่ 46951/99 ของศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป เป็นตัวกำกับบท
๓. ในคดีดังกล่าวนี้ มี Turkey เป็นจำเลย และจำเลยแพ้คดี ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสอง เกินกว่า 200,000 ยูโรดอลลาร์/คน
๔. วันนี้ตุรกี จะกลายเป็นโจทก์ โดยมี ประเทศไทยเป็นจำเลย
๕. ถ้าต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยมาตรฐานการปรับไหม เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย เป็นอย่างเดียวกัน
๖. เราจะต้องจ่ายค่าเสียหายในกรณีนี้ให้กับประเทศตุรกี
เป็นจำนวนเท่าใด?เพื่อไปจ่ายแก่ผู้เสียหายในยอดรวม อัตราแลกปลี่ยน บาทไทย :
ยูโรดอลลาร์ อยู่ที่ $ 1 = 42 - 45 บาทไทย โดยประมาณ
๗.
ไม่ใช่ว่าจ่ายในคดีนี้แล้วสำเร็จเสร็จสิ้น ใครก็ตามที่เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย
จะถูกดำเนินคดีอาญา ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ตามมา
โดยการ Refer Case ไปให้ฟ้อง และ ลงโทษ
๘. ตาม the Geneva Conventions, 1949 กำหนดการลงโทษ โดย the Hague Conventions, 1899 - 1907 อีกคำรบหนึ่ง
๙. โดยศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป เป็นผู้ Refer Case นี้ตามหลักการของ International Law
๑๐. ทีนี้ละสวย หมายถึงเลขจำคุกกี่ปีต่อคน จะได้รับการจำแนกแจกแจงไปยังฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ของคสช. เป็นรายบุคคล
๑๑. หมายจับคงปลิวว่อนประเทศไทย นี่คือการกำจัดคณะ คสช.ออกไปจากทางแบบนิ่มนวล ของฝ่ายอำมาตย์ ผู้เป็นนาย
๑๒. อะไรจะขนาดนั้น "ท่านผู้นำ" กับพวก ทำใจให้สบายๆ ได้ ร้องเพลง "สบายๆ " ของเบริด โดยถ้วนหน้าคราวนี้.
เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
UNHCR ของสหประชาชาติ ให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
จำนวนกว่า 100 คน ที่ส่งให้กับจีนแผ่นดินใหญ่
โดยให้เวลาแก่ไทยในการจัดการปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน
อะไรจะเกิดกับประเทศไทยต่อไป
ผมขอให้คำตอบแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย โดยสังเขป ดังต่อไปนี้:
๑. นี่คือสัญญาณอันตราย ที่กำลังพาประเทศไทย ไปเป็นจำเลยในศาลนานาชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป หรือ the European Human
Rights Court
๒. โดยมีคดี Mamatkulov and Askorov คำฟ้องเลขที่ 46827/99 และคำฟ้องที่ 46951/99 ของศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป เป็นตัวกำกับบท
๓. ในคดีดังกล่าวนี้ มี Turkey เป็นจำเลย และจำเลยแพ้คดี ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสอง เกินกว่า 200,000 ยูโรดอลลาร์/คน
๔. วันนี้ตุรกี จะกลายเป็นโจทก์ โดยมี ประเทศไทยเป็นจำเลย
๕. ถ้าต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยมาตรฐานการปรับไหม เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย เป็นอย่างเดียวกัน
๖. เราจะต้องจ่ายค่าเสียหายในกรณีนี้ให้กับประเทศตุรกี
เป็นจำนวนเท่าใด?เพื่อไปจ่ายแก่ผู้เสียหายในยอดรวม อัตราแลกปลี่ยน บาทไทย :
ยูโรดอลลาร์ อยู่ที่ $ 1 = 42 - 45 บาทไทย โดยประมาณ
๗.
ไม่ใช่ว่าจ่ายในคดีนี้แล้วสำเร็จเสร็จสิ้น ใครก็ตามที่เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย
จะถูกดำเนินคดีอาญา ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ตามมา
โดยการ Refer Case ไปให้ฟ้อง และ ลงโทษ
๘. ตาม the Geneva Conventions, 1949 กำหนดการลงโทษ โดย the Hague Conventions, 1899 - 1907 อีกคำรบหนึ่ง
๙. โดยศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป เป็นผู้ Refer Case นี้ตามหลักการของ International Law
๑๐. ทีนี้ละสวย หมายถึงเลขจำคุกกี่ปีต่อคน จะได้รับการจำแนกแจกแจงไปยังฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ของคสช. เป็นรายบุคคล
๑๑. หมายจับคงปลิวว่อนประเทศไทย นี่คือการกำจัดคณะ คสช.ออกไปจากทางแบบนิ่มนวล ของฝ่ายอำมาตย์ ผู้เป็นนาย
๑๒. อะไรจะขนาดนั้น "ท่านผู้นำ" กับพวก ทำใจให้สบายๆ ได้ ร้องเพลง "สบายๆ " ของเบริด โดยถ้วนหน้าคราวนี้.
เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
Friday, July 17, 2015
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 17 ก.ค. 2558 ตอน เมื่อแม่น้ำห้าสายกระจายพิษ ประชาชนต้องทำอย่างไร?
ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 17 ก.ค. 2558 ตอน เมื่อแม่น้ำห้าสายกระจายพิษ ประชาชนต้องทำอย่างไร?
Thursday, July 16, 2015
PIANGDIN ACADEMY: แฉประวัติและข้อมูลเด็ด ปรีชา จันทร์โอชา
ประวัติ พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา ว่าที่ ผบ.ทบ.- - - - - - - - - -พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ....
Posted by กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ on Thursday, July 16, 2015
สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: PIANGDIN ACADEMY: Piangdin for Peace Academy: นักก...
นักกฏหมายไทยในประเภท หรือสไตล์ "ศรีธนญชัย" กำลังจะสร้างตวามฉิบหายให้แก่บ้านเมืองไทย พี่น้องคนไทยทั้หลาย พึงสดับตรับฟัง
นี่คือข้อชี้แนะ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังดี และ บริสุทธิ์ใจ
๑.การไปเที่ยว ออกกฏหมายเถื่อนในเรื่อง ปปช.
และบัญญัติให้มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
หากเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำการอันเป็นการคอร์รัปชั่น (Corruption)
ให้คนไทยตื่นเต้นเล่น
นี่คือข้อชี้แนะ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังดี และ บริสุทธิ์ใจ
๑.การไปเที่ยว ออกกฏหมายเถื่อนในเรื่อง ปปช.
และบัญญัติให้มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
หากเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำการอันเป็นการคอร์รัปชั่น (Corruption)
ให้คนไทยตื่นเต้นเล่น
๒. อย่าไปเชื่อในน้ำยานี้ เพราะผมต้องขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยไปอ่านตัวบทกฏหมาย ในเรื่องนี้ให้ดีๆ
๓. นี่เป็น การที่ประเทศไทย พยายามออกกฏหมายมาล้อ Convention against Corruption, 2003
๔. ที่ประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีคนดีของเปรม ไปประกาศเข้าร่วม และ ให้สัตยาบันเอาไว้ในวันที่ ๑ มีนาคม ปี ค.ศ.2011 หรือปี พ.ศ.๒๕๕๔
๕. ในสนธิสัญญานี้ บัญญัติให้เรื่อง "ฟอกเงิน" เป็นความผิดทางอาญาอย่างหนึ่ง
๖.วิธีการออกกฏหมายเลี่ยง ก็คือ การไปแปลความออกมา
เป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียง ภาษาอังกฤษ ให้มากที่สุด แล้วนำมา
ตีความเพื่อสร้างช่องโหว่ (Loop - Hole) ของกฏหมาย
๗.
แล้วนำไปเขียนเป็นกฏหมาย วิธีการเช่นนี้ เรียกได้ว่า "เป็นการสร้างกฏหมาย
เพื่อหลีกเลี่ยงเจตนารมย์ ของกฏหมาย อันมีที่มาจากสนธิสัญญา
[พันธกรณีจากสนธิสัญญา] "
๘. การกระทำ จึงไปขัดหรือแย้งกับสนธิสัญญา ที่ตนมีภาระผูกพันอยู่ ในตัวเอง [Per se']
๙. จึงทำให้ประเทศไทย ไปกระทำการฝ่ายเดียว หรือ เป็น [Unilateral Action] เพื่อแก้ไข บทสนธิสัญญาให้ผ่อนคลาย หรือ ย่อหย่อนลง
๑๐. เพื่อประโยชน์ในการใช้ หรือไม่ใช้กฏหมายกับ คนบางกลุ่ม บางพวก
๑๑.จึงทำให้กฏหมายนี้ ต้องตก เป็นโมฆะ เพราะไปขัดหรือแย้ง กับ ความตาม Convention against Corruption, 2003 ที่บัญญัติไว้ในทันที
๑๒.เพราะขาดสภาพบังคับ ในทางกฏหมาย ตามนัยของคำพิพวกษาของ ศาลโลกเดิม คือ
the Permanent Court of International Justice, PCIJ ในคดี the Greco -
Bulgarian Communities Case ที่พิพากษาไว้ในปีค.ศ.1930
๑๓.
มีผลบังคับ ตามกฏบัตรสหประชาชาติ หรือ the Charter of United Nations
บทบัญญัติที่ 92 - 95 (ให้ไปพลิกอ่านศึกษา
ดูเถิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย)
๑๔. โดยศาลโลก เดิมพิพากษาว่า
"กฏหมายภายใน ไม่สามารถออกมาในภายหลัง ซึ่งเป็น การแก้ไขพันธกรณี
จากสนธิสัญญา เพียงฝ่ายเดียว หรือ Unilateral Action กฏหมาย อันมีที่มาจาก
สนธิสัญญา ย่อมอยู่เหนือกว่า กฏหมายภายในของ รัฐคู่กรณี ที่เป็น รัฐคู่ภาคี
ของสนธิสัญญา ในทุกกรณี ข้อต่อสู้เช่นนี้ ศาลโลก ไม่อาจบังคับบัญชาให้ได้"
๑๕. และมาย้ำหัวตะปูของ หลักการตามกฏหมายเช่นนี้
โดยศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือ the European Court of
Justice ในคดี "Flaminio Costa v. E.N.E.L.
๑๖. ในวันนี้ EU เข้ามาอยู่ใน ASEAN เต็มตัวตั้งแต่ ปีค.ศ.1995 แล้ว เขาจะยอมให้คุณทำอย่างนี้เหรอ?
๑๗. ประเทศไทย ต้องไปตกเป็นจำเลย ในศาลยุติธรรมระหว่างชาติ แล้วถูกปรับในแต่ละ คดีเป็นเงินหลายแสนล้านยูโรดอลลาร์
๑๘. สมาชิกส.น.ช.[เถื่อน] ผู้ร่วมกันผ่านกฏหมายฉบับนี้ คุณรับเรื่องราวนี้ ไหวนะ!!!
๑๙. ผม จึงมีความจำเป็น ต้องเตือนพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ช่วยกันระแวดระวังภัย อันจะมีมาจากนอกประเทศ หรือต่างประเทศ
เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
๓. นี่เป็น การที่ประเทศไทย พยายามออกกฏหมายมาล้อ Convention against Corruption, 2003
๔. ที่ประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีคนดีของเปรม ไปประกาศเข้าร่วม และ ให้สัตยาบันเอาไว้ในวันที่ ๑ มีนาคม ปี ค.ศ.2011 หรือปี พ.ศ.๒๕๕๔
๕. ในสนธิสัญญานี้ บัญญัติให้เรื่อง "ฟอกเงิน" เป็นความผิดทางอาญาอย่างหนึ่ง
๖.วิธีการออกกฏหมายเลี่ยง ก็คือ การไปแปลความออกมา
เป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียง ภาษาอังกฤษ ให้มากที่สุด แล้วนำมา
ตีความเพื่อสร้างช่องโหว่ (Loop - Hole) ของกฏหมาย
๗.
แล้วนำไปเขียนเป็นกฏหมาย วิธีการเช่นนี้ เรียกได้ว่า "เป็นการสร้างกฏหมาย
เพื่อหลีกเลี่ยงเจตนารมย์ ของกฏหมาย อันมีที่มาจากสนธิสัญญา
[พันธกรณีจากสนธิสัญญา] "
๘. การกระทำ จึงไปขัดหรือแย้งกับสนธิสัญญา ที่ตนมีภาระผูกพันอยู่ ในตัวเอง [Per se']
๙. จึงทำให้ประเทศไทย ไปกระทำการฝ่ายเดียว หรือ เป็น [Unilateral Action] เพื่อแก้ไข บทสนธิสัญญาให้ผ่อนคลาย หรือ ย่อหย่อนลง
๑๐. เพื่อประโยชน์ในการใช้ หรือไม่ใช้กฏหมายกับ คนบางกลุ่ม บางพวก
๑๑.จึงทำให้กฏหมายนี้ ต้องตก เป็นโมฆะ เพราะไปขัดหรือแย้ง กับ ความตาม Convention against Corruption, 2003 ที่บัญญัติไว้ในทันที
๑๒.เพราะขาดสภาพบังคับ ในทางกฏหมาย ตามนัยของคำพิพวกษาของ ศาลโลกเดิม คือ
the Permanent Court of International Justice, PCIJ ในคดี the Greco -
Bulgarian Communities Case ที่พิพากษาไว้ในปีค.ศ.1930
๑๓.
มีผลบังคับ ตามกฏบัตรสหประชาชาติ หรือ the Charter of United Nations
บทบัญญัติที่ 92 - 95 (ให้ไปพลิกอ่านศึกษา
ดูเถิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย)
๑๔. โดยศาลโลก เดิมพิพากษาว่า
"กฏหมายภายใน ไม่สามารถออกมาในภายหลัง ซึ่งเป็น การแก้ไขพันธกรณี
จากสนธิสัญญา เพียงฝ่ายเดียว หรือ Unilateral Action กฏหมาย อันมีที่มาจาก
สนธิสัญญา ย่อมอยู่เหนือกว่า กฏหมายภายในของ รัฐคู่กรณี ที่เป็น รัฐคู่ภาคี
ของสนธิสัญญา ในทุกกรณี ข้อต่อสู้เช่นนี้ ศาลโลก ไม่อาจบังคับบัญชาให้ได้"
๑๕. และมาย้ำหัวตะปูของ หลักการตามกฏหมายเช่นนี้
โดยศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือ the European Court of
Justice ในคดี "Flaminio Costa v. E.N.E.L.
๑๖. ในวันนี้ EU เข้ามาอยู่ใน ASEAN เต็มตัวตั้งแต่ ปีค.ศ.1995 แล้ว เขาจะยอมให้คุณทำอย่างนี้เหรอ?
๑๗. ประเทศไทย ต้องไปตกเป็นจำเลย ในศาลยุติธรรมระหว่างชาติ แล้วถูกปรับในแต่ละ คดีเป็นเงินหลายแสนล้านยูโรดอลลาร์
๑๘. สมาชิกส.น.ช.[เถื่อน] ผู้ร่วมกันผ่านกฏหมายฉบับนี้ คุณรับเรื่องราวนี้ ไหวนะ!!!
๑๙. ผม จึงมีความจำเป็น ต้องเตือนพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ช่วยกันระแวดระวังภัย อันจะมีมาจากนอกประเทศ หรือต่างประเทศ
เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
Piangdin for Peace Academy: งบ(ไม่)ประมาณ แบบไทย ๆ
เรียนดร.
ช่วงนี้เข้าสู่งบประมาณใหม่ เงินเก่ายังมีงบคงค้างแต่ละกระทรวงทบวงกรมพยายามใช้ให้หมด เป็นเหตุให้ขุดๆถมๆกันทั้งปีทั้งชาติ ถ้าใครใช้เงินงบประมาณสร้างสิ่งถาวรแบบรื้อถอนไม่ได้จะเป็นปัญหาใหญ่ทันที เพื่อไม่ให้มีการลดงบประมาณปีถัดไป ส่วนหินดินก็ไปเอามาจากที่หลวงขุดเขากลายเป็นที่ราบ นส3 ตามสวม ออกโฉนดกันต่อไป แล้วงบเบิกจ่ายค่าหินค่าดินก็กินกันไม่ยั้ง
(ปล.ปกติ 30-30-30 ขาด10 ไปนู่น ปัจจุบัน ทางโน้นขอ 18 ส่วนผู้รับช่วงยัง 30 เข้าฝ่ายบริหาร 52 ถ้าใช้ระบบคล้ายๆโอนเงินชาวนาก็คงดีเพราะสามารถอนุมัติได้เร็ว และตรงจุดตรวจสอบได้ นี่ไม่นับรวมเงินมาเป็นก้อนละเอาสวมเข้ามูลนิธิเพื่อหนีการตรวจสอบและไม่ต้องเสียภาษี15%อีก )
ด้วยความเคารพอย่างสูง
xxxx
Subscribe to:
Posts (Atom)