ยินดีต้อนรับ

พลเมืองที่รอบรู้เท่าทัน คือ พลังประชาธิปไตยที่แท้จริง
Well-informed citizens are the true democratic forces.

Tuesday, July 31, 2012

ฟอร์บส์วิเคราะห์ สนง.ทรัพย์สินฯ


ขอบคุณ ท่าน Jockey The winner 
Subject: ฟอร์บส์วิเคราะห์ สนง.ทรัพย์สินฯ

ขอยกมาเก็บและเผยแพร่นะครับ

http://www.forbes.com/sites/simonmontlake/2012/01/20/in-thailand-a-rare-peek-at-his-majestys-balance-sheet/
ในประเทศไทย Peek ที่หายากในงบดุลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
http://prachatai.com/journal/2012/01/38952

ฟอร์บส์วิเคราะห์ สนง.ทรัพย์สินฯ แย้งตัวเลขในหนังสือ ‘A Life’s Work’

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2


รายชื่อเครื่องบินพระที่นั่งในพระบรมวงศานุวงศ์ไทย


ข้อมูลของสำนักงานทรัพย์สินฯ เปิดเผยว่า สนง. ทรัพย์สินส่วนพระมหา

กษัตริย์มีสัญญาเช่าที่ดินรวมทั้งหมด 40,000 ฉบับ และ 17,000 ฉบับของ

จำนวนนั้นอยู่ในกรุงเทพฯ


ฟอร์บส์ยังระบุว่า การที่ สนง. ทรัพย์สินฯ ถือหุ้นร้อยละ 23 ในธนาคารไทย

พาณิชย์ ร้อยละ 32 ในสยามซีเมนต์กรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่าทั้งหมดราว 7 พันล้าน

ดอลลาร์ ยังทำให้ได้รับเงินปันผลจากบรรษัทดังกล่าวราว 184 ล้านดอลลาร์

ในปี 2553 นอกจากนี้ หนังสือ ‘King Bhumibol Adulyadej: A Life’s Work’ 

ยังเปิดเผยด้วยว่า รายได้ของ สนง. ทรัพย์สินตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา คิด

เป็นจำนวนระหว่าง 9 -11 พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย


อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากการถือหุ้นในบรรษัทที่กล่าวมาแล้ว ฟอร์บส์ชี้

ว่าหนังสือเล่มนีละเลยการพูดถึงการถือหุ้นของสำนักงานทรัพย์สินฯในกลุ่

โรงแรมเยอรมัน ‘เคมพินสกี้ เอจี กรุ๊ป’ และบริษัทประกัน ‘Deves’ (เทเวศ

ประกันภัย) ซึ่งรวมกันมีมูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์ (มูลค่าประเมินในปี

2551) ด้วยการลงทุนทั้งหมดนี้ ทำให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

กลายเป็นกลุ่มบรรษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


ที่มาและอ่านทั้งหมดได้ใน ประชาไท ฟอร์บส์วิเคราะห์ สนง.ทรัพย์สินฯ แย้ง

ตัวเลขในหนังสือ ‘A Life’s Work’ Thu, 2012-01-26

16:43http://prachatai.com/journal/2012/01/38952





สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

สถานทูตไทยในวอชิงตันดีซี ส่งจดหมายถึงนิตยสารฟอร์บส์ แจง สนง.ทรัพย์สินฯ เป็นสมบัติของชาติซึ่งแยกออกจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระเจ้าอยู่หัว มูลค่าทรัพย์สินของสถาบันฯ ที่ฟอร์บส์ตีพิมพ์จึงสูงเกินจริง พร้อมติง ไม่ได้เปิดเผยวิธีการได้มาซึ่งตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริ
นิตยสาร ‘ฟอร์บส์’ วิเคราะห์งบประมาณของ สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยดึงข้อมูลจากพระราชประวัติกึ่งทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเล่มล่าสุด ‘King Bhumibol Adulyadej: A Life’s Work’ ฟอร์บส์ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเงินและธุรกิจของสหรัฐ ตีพิมพ์บทความว่าด้วยรายได้และการลงทุนของสำนักงานทรัพย์สินส่
แม้เหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสสำคัญท่ามกลางวิกฤติที่ประเทศไทยจะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ แต่การดำเนินการใดๆ ณ สถานการณ์นี้ก็ยังคงต้องถูกตั้งคำถามและตรวจสอบ... ยิ่งเป็นโครงการใหญ่ยิ่งถูกจับตา ดังกรณีที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตปร
สำนักงานทรัพย์สินฯ ชี้แจงย้ำอีกครั้ง พระราชทรัพย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นคือทรัพย์สินส่วนพระองค์ ส่วนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์สินของรัฐและของแผ่นดิน ซึ่งมีรัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบ โดยสำนักงานฯ เป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของแผ่นดิน 17 มิ.ย.

 

 

 

 

ประชาธิปไตยแบบกินได้ในยุโรป

ประชาธิปไตยแบบกินได้ในยุโรป
รายการเสียงประชาชน ทางมหาวิทยาลัยประชาชน ดำเนินรายการโดย ทีมงานแดงประชาชนยุโรป นำโดยคุณนิตยา คุณสุทัสสา และคุณพัท ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2555 (เปิดตัว) ต้อนรับและแนะนำโดย ดร. เพียงดิน รักไทย อธิการบดีมหาวิทยาลัยประชาชน ดาวน์โหลด  mp3 ได้ที่ http://www.mediafire.com/?rmc9qcwpxzl9uyq รับฟังสดผ่านยูทูป ที่ http://youtu.be/Qu9rHMfN9Zc




 

 

 

 

สัมภาษณ์และสนทนาพิเศษ กับโกตี๋ ผู้ต้องหาข่มขืนใจและข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ




รายการพิเศษ สนทนาประสาประชาชน ณ มหาวิทยาลัยประชาชน ในหัวข้อ
เมื่อศาลก้าวล่วงประชาชนเจ้าของอำนาจ...ประชาชนจะเดินต่ออย่างไร
ดร. เพียงดิน สนทนากับ โกตี๋ คุณยุทธแอลเอ คุณแต้ม แทมป้า คุณสุทัสสา และคุณนิตยา
ดาวน์โหลดได้ที http://www.mediafire.com/?8z39rv4mtylj65s  ดูสดทางยูทูป ณ http://youtu.be/223rPhPLUIM




 
 
 
 

Monday, July 30, 2012

ลูกสาวไมเคิล แจ๊คสัน สวยขนาดนี้เชียว!!!


ตาสวยมาก และได้รับการโหวตให้เป็นผู้ที่สวยที่สุดแห่งปีของ People's Magazine






 

 

 

 

 


จุดอ่อน-จุดแข็ง ขบวนการแดงเพื่อประชาธิปไตย

ดร. เพียงดิน รักไทย กับแม่หมูน้อย เสนอประเด็น จุดอ่อนและจุดแข็ง ของขบวนประชาธิปไตยแดง เพื่อกำหนดทางข้างหน้าที่เป็นเอกภาพบนความหลากหลาย และการเติบโตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.mediafire.com/?dascd1wgwwwc06c รับฟังผ่านยูทูปได้ที่ http://youtu.be/NFdlUSc2T80


---------------------------------------------------------------

 

 

 

 

จุดอ่อน จุดแข็ง ของขบวนประชาธิปไตยแดง


ดร. เพียงดิน รักไทย กับแม่หมูน้อย เสนอประเด็น จุดอ่อนและจุดแข็ง ของขบวนประชาธิปไตยแดง เพื่อกำหนดทางข้างหน้าที่เป็นเอกภาพบนความหลากหลาย และการเติบโตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ

ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.mediafire.com/?dascd1wgwwwc06c รับฟังผ่านยูทูปได้ที่  http://youtu.be/NFdlUSc2T80



--------------------------------------------------

 

 

 

 

ศาลย้ำ ไม่ยืน... ไม่ผิดกฎหมาย แน่แล้ว


FOR IMMEDIATE RELEASE
AHRC-STM-155-2012
July 30, 2012

A Statement from the Asian Human Rights Commission

THAILAND: Judiciary affirms that not standing is no crime
The Asian Human Rights Commission is pleased to learn that the criminal charges brought against Chotisak Onsoong and his friend for allegedly defaming the monarchy have been dropped by the prosecutor. The charges stemmed from the couple's decision not to stand during the royal anthem and video montage lauding the life of the king played prior to the screening of a movie in a central Bangkok theatre on the evening of 20 September 2007. When they did not stand up, Navamintr Witthayakul, a man standing in front of them, turned around and yelled at them. When they did not comply, an argument ensued and Navamintr physically assaulted Chotisak. Later that evening, Navamintr filed a complaint against Chotisak and his friend of violating section 112 of the Criminal Code, which mandates that, "Whoever defames, insults or threatens the King, Queen, the Heir-apparent or the Regent, shall be punished with imprisonment of three to fifteen years." Simultaneously, Chotisak filed a complaint against Navamintr for physical assault. While the prosecutor dropped the assault charges against Navamintr in September 2008, it took four-and-a-half years, until April 2012, for the charges against Chotisak and his friend also to be dropped.

In a letter dated 11 April 2012 and available (in Thai) on the Prachatai website (http://www.prachatai.com/journal/2012/07/41608) Visit Sukyukol, Special Prosecutor for Southern Bangkok 4 explains that the charges were dropped because there was insufficient evidence to send the case to court. Visit notes that on 20 September 2007, at approximately 7:45pm, while the royal anthem and video montage were played prior to the beginning of a film at the Central World cinema, Chotisak and his friend (name withheld) remained seated while all other moviegoers in the theater "stood up to pay respect". This caused another moviegoer, Nawamintr Witthayakul, to turn around and say, in English, "Stand up." According to Visit, Chotisak turned around and said, "Why do I have to stand up? There is no law mandating it." This comment led to disagreement about the two, and caused Navamintr to file a complaint with the police alleging that Chotisak and his friend had violated section 112.

Despite establishing this series of events, Visit in his order to close the prosecution commented that their words and actions did not have the characteristic of insulting or causing shame, loss, or humiliation to the king. Further, he noted that there was no clear evidence suggesting that Chotisak and his friend intended to defame the king. Finally, Visit also noted the argument that took place between Navamintr and Chotisak following the playing of the royal anthem and video montage was "conduct that was inappropriate and was not part of the social norms that citizens should follow".

Although the AHRC finds Visit’s assessment of the “inappropriate” nature of the argument between Navamintr and Chotisak intriguing, it welcomes Visit’s measured and clear accounting of why the charges against Chotisak and his friend have been dismissed. His is a clear statement that section 112 cannot be applied to any and all speech or actions that question the relationship between the monarchy and the people, the monarchy and democracy, or the monarchy and human rights. Discussions about these topics--or at the very least, the legality of them--are urgently necessary if there is to be the possibility of the rule of law and the consolidation of human rights in Thailand.

Despite the outcome of this case, the AHRC would like to express concern about the slow pace at which the prosecutor's inquiries proceeded. Chotisak and his friend waited over four years for this outcome: the complaint against them was filed in September 2007, and police lodged charges in April 2008, with the case file going to the prosecutor that October. Since then until April 2012, the two accused have daily lived in fear that they would have to face charges in court at any time. By contrast, the prosecutor decided to drop the charges of physical assault brought against Navamintr for his assault of Chotisak in September 2008.

The Asian Legal Resource Centre, sister organization of the AHRC, in a recent statement to the UN Human Rights Council concerning the May 2012 death in custody of Amphon Tangnoppakul (ALRC-CWS-20-09-2012), who had been convicted of alleged violations of section 112 and the 2007 Computer Crimes Act, noted that long delays have become the norm in lese-majesty cases in Thailand. The ALRC noted that under article 9(3) of the International Covenant on Civil and Political Rights, to which Thailand is a state party, "Anyone arrested or detained on a criminal charge shall be brought promptly before a judge or other officer authorized by law to exercise judicial power and shall be entitled to trial within a reasonable time or to release." What the case of Chotisak Onsoong and friend indicates is that delays may occur in the period of inquiry into a police case that even if the accused is not being held in detention may cause him or her considerable hardship and grief. Such delays function as a de facto form of punishment, constricting the lives and rights of those facing possible prosecution and contributing to insecurity and uncertainty.

In the years since the 19 September 2006 coup, the number of complaints filed under section112 has increased exponentially. While it is a matter of concern that the government of Thailand has not released statistics on the number of such cases and circumstances of the accused, evidence available to the Asian Human Rights Commission indicates that many of these complaints do become fully realized criminal prosecutions. Yet far from protecting the individuals and institutions that they claim to protect, these laws have in the hands of over-zealous citizens and state officials become nothing other than tools for the violation of fundamental rights. That Chotisak Onsoong and his friend spent years waiting to find out if their decision not to stand up before a movie screen would earn them a prison sentence of up to 15 years is an indication of the gravity of the social and political crisis caused by the expansion of the use of this law. Therefore, the AHRC would like to take this opportunity to urge the judiciary and relevant government agencies in Thailand to follow the clear decision of the prosecutor in this case and stop the abuse of section 112 of the Criminal Code and related provisions, particularly the 2007 Computer Crimes Act. The AHRC also reiterates its call to revoke both section 112 and the Computer Crimes Act, to halt all current prosecutions under these laws, and release all those currently imprisoned under them.
# # #
About AHRC: The Asian Human Rights Commission is a regional non-governmental organisation that monitors human rights in Asia, documents violations and advocates for justice and institutional reform to ensure the protection and promotion of these rights. The Hong Kong-based group was founded in 1984.


 

 

 

 

Sunday, July 29, 2012

เมื่อแกนนำ นปช. ร้องขอส่วนแบ่งตำแหน่งสูง



เอ็งไม่อายน้ำหน้ากล้าจริงหนอ...
ตำแหน่งขอคุยขรมบรมเจ๋ง
คำที่คุยถุยได้ในกลุ่มเอ็ง
ประชาเซ็งแช่งชักนักล่อลวง ถุยส์....


 
 
 
 

เมื่อศาลร้องเอ๋ง แจ้งจับเจ๋ง ก่อแก้ว โกตี๋ และคณะ อิ ๆ



เมื่อศาลร้อง เอ๋ง แจ้งจับเจ๋ง ก่อแก้ว โกตี๋ และคณะ  ฮิ ๆ
เจ้าข้าโว๊ย  ศาลอำนาจสูงล้นฟ้า แต่มาจากกบถ เจอประชาชนแค่ขู่ กลับร้องเอ๋ง ๆ ยิ่งกว่าหมา
มึงมาจากไหน ใครให้อำนาจพวกมึง

ประชาชนเขาไม่ยอมให้พวกมึงใช้อำนาจเถื่อน ๆ แบบเถื่อน ๆ
แล้วจะอยู่ได้หรือ??

วันนี้แค่ขู่ แสดงความไม่พอใจ
แล้วหน้าล่ะ ไอ้ศาลระยำทั้งหลาย