ปีศาจเฉพาะกาล
โดย น.พ.สมเกียรติ ธาตรีธร
เมื่อ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา มีงานรำลึกถึง คุณเสนีย์ เสาวพงศ์ ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ที่ได้ข่าวว่ามีทหารมาขอทราบรายละเอียดและขอเข้าร่วมด้วย บรรยากาศในงานมีความคึกคักแบบปัญญาชนทางด้านสังคม ทหารที่มาสังเกตการณ์คงไม่ได้ข้อมูลอะไรที่ต้องทำการเคลื่อนไหวหลังงาน
ในงานมีคำถามคำตอบที่น่าสนใจคำถามหนึ่งคือ ในนิยายเรื่องปีศาจใครเป็นปีศาจตัวจริง และมีการเฉลยว่าคือรัชนี นางเอกในเรื่อง ผู้ซึ่งเป็นกบฏต่อชนชั้นของตัวเองเข้าร่วมทางและร่วมชีวิตกับสาย สีมา โดยไม่มีแม้แต่กระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวมา
ตัวสาย สีมา นั้นแม้จะเป็นปีศาจด้วยแน่นอน แต่ก็ยังสังกัดอยู่ในชนชั้นของตัวเอง ได้เผชิญกับแรงกดดันทางชนชั้นและได้รับความเจ็บปวดจากแรงกดดันนั้น แต่รัชนีไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันโดยตรงอย่างสาย สีมา เพียงได้รับรู้ ได้เห็น และรู้สึกคล้อยตามสาย สีมา ที่มีปฏิกิริยาต่อความไม่ถูกต้องเป็นธรรมที่เกิดจากแรงกดดัน ก็ถึงกับยอมสละสถานะทางชนชั้นเข้าร่วมทางกับสาย สีมา
สำหรับผู้สนใจพัฒนาการทางสังคมและนักอ่านนิยายที่สะท้อนปัญหาสังคม ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมานั้นได้รับรู้และซาบซึ้งเรื่องราวของทั้งบุคคลจริง และตัวละครในนิยายที่เป็นกบฏต่อชนชั้นของผู้ได้เปรียบที่ตัวเองสังกัดอยู่ เข้าร่วมทาง หรือบางครั้งเข้าต่อสู้ร่วมกับชนชั้นล่างผู้เสียเปรียบอยู่เสมอ
คนเหล่านั้นย่อมต้องเป็นปีศาจตามนัยยะของนิยายเรื่องปีศาจเช่นเดียวกับรัชนี
เมื่อยึดคำจำกัดความของปีศาจว่าคือคนผู้เป็นกบฏต่อชนชั้นตัวเองไปเข้ากับชนชั้นตรงข้าม ในปัจจุบันมีปีศาจตามนัยยะเดียวกันแต่สวนทางอยู่ไม่น้อย
เป็นปีศาจที่สังกัดอยู่ในชนชั้นล่างผู้เสียเปรียบ ผู้ถูกกดดัน ผู้ถูกหยาบหยาม แต่เป็นกบฏไปเข้ากับฝ่ายผู้ได้เปรียบ ตั้งตนเป็นศัตรูกับชนชั้นตัวเอง ประณามหยามเหยียดผู้ร่วมชนชั้นว่าโง่ ว่าทุจริต ว่าไม่ควรมีสิทธิมีเสียงเท่าชนชั้นที่ได้เปรียบ (ที่เอาเปรียบอยู่) รวมกลุ่มยอมตัวเป็นเครื่องมือห้ำหั่น ทำร้ายทำลายชนชั้นเดียวกับตัวเอง จึงอาจนับได้ว่าผู้เป็นกบฏต่อชนชั้นผู้เสียเปรียบของตัวเองเหล่านั้นเป็นปีศาจได้เช่นกัน
ต่างกันเพียงปีศาจชนิดหลังนี้เป็นปีศาจเฉพาะกาลที่สวนทางกาลเวลา ไม่อาจเติบโตและทนทานต่อกาลเวลาที่ผ่านไปได้ รอเวลาเข้าพิพิธภัณฑ์พร้อมกับกลุ่มที่สังกัดใหม่ ไม่เหมือนปีศาจชนิดแรกเช่นรัชนีหรือสาย สีมา
ปีศาจชนิดหลังนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุและปัจจัยของความรับรู้และสำนึกในความเป็นธรรม แต่เกิดจากเหตุและปัจจัยของผลประโยชน์ที่จะได้สังกัดในชนชั้นที่ได้เปรียบเพื่อจะได้เอาเปรียบของการฟังความข้างเดียว ของอคติ ของศรัทธาที่เกิดจากการตอกย้ำข้อมูลด้านเดียว ของศรัทธาในตัวบุคคลที่เกิดจากข้อมูลด้านเดียวนั้น และของการได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ได้เปรียบ กลุ่มผู้ทรงอำนาจซึ่งอาจนำไปเชิดหน้าชูตาในสังคมได้
ในช่วงเปลี่ยนผ่านของสังคมตลอดประวัติศาสตร์ เราจะพบปีศาจในสองลักษณะนี้เสมอ ในการต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศเมืองขึ้น อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งของนักต่อสู้กู้ชาติคือเพื่อนร่วมชาติที่เอาใจฝักใฝ่เข้าข้างเจ้าอาณานิคม และเข้าต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับเพื่อนร่วมชาติที่กำลังต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาติอยู่ เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้เสมอในทุกชาติทุกประเทศที่มีการต่อสู้ในลักษณะดังกล่าว
ในอินเดีย ตำรวจชาวอินเดียใช้ไม้กระบองหวดเพื่อนร่วมชาติสาวกของคานธีที่เดินมือเปล่าโดยไม่ปรานี ในเวียดนาม ทหารเวียดนามที่นิยมฝรั่งเศสเข้าต่อสู้แลกชีวิตอย่างเอาเป็นเอาตายกับเพื่อนร่วมชาติที่ทำงานกู้อิสรภาพอยู่
และภายในสังคมของชาติเดียวกันที่ไม่ได้เป็นอาณานิคม ก็มีปีศาจของชนชั้นล่างผู้เสียเปรียบเข้าเป็นบริวารในสังกัดของผู้ได้เปรียบทำการเข่นฆ่า ทำลายล้างเพื่อนร่วมชนชั้นปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ
ปีศาจชนิดแรกเท่านั้นที่เป็นปีศาจแห่งกาลเวลาตามที่เสนีย์ เสาวพงศ์ ประกาศผ่านสาย สีมา ปีศาจชนิดหลังเป็นปีศาจเฉพาะกาลซึ่งจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา เป็นปีศาจที่ในท้ายที่สุดไม่เคยชนะเลยในประวัติศาสตร์ แม้จะสร้างความสูญเสียได้มากก็ตาม
ปีศาจเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นเหยื่อที่น่าสงสารของระบบซึ่งต้องให้ความเมตตา ให้ความรับรู้ และให้เวลา ในขณะเดียวกันต้องทำใจว่าจะมีส่วนหนึ่งฝังตัวอยู่กับระบบและศรัทธาที่ไม่ทนต่อกาลเวลาตราบวันสุดท้ายของชีวิต
ที่มา : มติชนรายวัน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.